"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Blognone
Share |

Suthichai Online - ข่าวประจำวัน

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2552

รมต.เลือดสีน้ำเงิน ศุภชัย โพธิ์สุ คัดสดๆ จากมือ "เนวิน"

วันที่ 01 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11405 มติชนรายวัน


รมต.เลือดสีน้ำเงิน ศุภชัย โพธิ์สุ คัดสดๆ จากมือ "เนวิน"


สัมภาษณ์พิเศษ

โดย สุเมศ ทองพันธ์




"...ผมไม่เคยปิดบังที่มา ผมเป็น ส.ส.สังกัดกลุ่มเพื่อนเนวิน และเป็น ส.ส.สังกัดพรรคภูมิใจไทย เป็นเลือดสีน้ำเงินด้วยกัน..."

"พรรคภูมิใจไทย" ที่นำโดย "ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน" ของ "เนวิน ชิดชอบ" เคยสร้างความประหลาดใจให้กับคอการเมืองมาแล้ว ในการตัดสินใจสลับขั้วทางการเมือง ทิ้งพรรคพลังประชาชนและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายเก่า ให้ต้องตกจากอำนาจ กลายเป็น "ฝ่ายค้าน" มาครั้งหนึ่ง

ล่าสุด ได้สร้างความตื่นตะลึงทางการเมืองอีกครั้ง ด้วยการเรียกประชุม ส.ส.ของพรรคเพื่อ มีมติขับ "ชาติชาย พุคยากรณ์" ออกจากตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ แล้วดัน "ศุภชัย โพธิ์สุ" ส.ส.นครพนม กลุ่มเพื่อนเนวิน ขึ้นรับตำแหน่งแทน

ทั้งๆ ที่เก้าอี้ รมช.เกษตรฯเดิม เป็นที่รู้กันว่าคือ โควต้า ในมือของกลุ่มราชบุรี ของ "สรอรรถ กลิ่นประทุม"

อันเป็นที่มาของกระแสซุบซิบเรื่อง "ฮุบเก้าอี้" ที่ทำให้ เพื่อนเก่า ซี้แก่ จากกลุ่ม 16 ระหว่าง "สรอรรถ" กับ "เนวิน" ออกอาการไม่ไว้วางใจกัน ทั้งๆ ที่ยังนั่งร่วมประชุมอยู่ที่พรรคภูมิใจไทย

"ศุภชัย โพธิ์สุ" เปิดใจกับ "มติชน" ภายหลังจากมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็น "รมช.เกษตรและสหกรณ์" ได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่าง "พรรคประชาธิปัตย์" กับ "พรรคภูมิใจไทย" ที่ดูเหมือนว่าเริ่มเหินห่าง

ความรู้สึกแรกเมื่อได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีใหม่

ผมไม่คิดไม่ฝัน ว่าจะได้รับความไว้วางใจจากเพื่อน ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ได้รับความไว้วางใจจากผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย ที่สำคัญคือ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีโอกาสได้รับโปรดแกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่งเสนาบดีในระดับนี้ เพราะตั้งแต่เริ่มสนใจการเมืองและอยากเข้ามาทำงานการเมืองก็ไม่ได้ใฝ่ฝันระดับนี้ เพียงแต่อยากเป็น ส.ส. อยากจะแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน คนยากคนจน ที่เป็นชนชั้นเดียวกับผม บังเอิญผมเกิดมาในฐานะคนยากคนจน ชาวไร่ชาวนา แต่โชคดี ที่มีโอกาสไปบวชเรียนเขียนอ่าน มีวิชาความรู้ ก็เลยสนใจที่จะมาช่วยแก้ปัญหาบ้านเกิดเมืองนอน เลยอาสาเข้ามา เพราะหวังว่าการเมืองจะช่วยแก้ปัญหาบ้านเมืองได้ โดยไม่ได้คิดได้ฝันว่าจะได้เป็นถึงระดับรัฐมนตรีหรอก แค่อยากจะเป็น ส.ส.เพื่อนำปัญหาของประชาชนมาเข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหาตามกระบวนการก็พอใจแล้ว

ความจริงผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค เคยมาพูดคุยอยู่ว่า อยากให้ผม ซึ่งได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพรรคพวกเพื่อนฝูง มาร่วมก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย ก็เห็นว่าผมได้ทุ่มเท ซึ่งผู้หลักผู้ใหญ่ก็เคยให้ความหวังว่าถ้ามีโอกาส และเงื่อนไขเหมาะสมเมื่อไร ก็คงจะได้ทำงานในระดับที่มีความสำคัญขึ้นไปหรือทำงานด้านบริหาร ซึ่งก็ได้ยินผู้หลักผู้ใหญ่พูดผ่านหูหลายครั้ง แต่ตัวเองก็ไม่ได้ซีเรียส หรือตั้งอกตั้งใจว่าจะต้องได้เป็นนะ หรือไม่ได้เป็นไม่ได้นะ อย่างนี้คงไม่ใช่

คาดหวังอะไรกับตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ

จะทุ่มเทแรงกายแรงใจ แรงสติปัญญาที่มีอยู่ บวกกับการแนะนำส่งเสริมของผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค และการชี้แนะชี้นำการสะท้อนปัญหาของเพื่อนพ้อง ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ก็คิดว่าจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของประชาชน ชาวไร่ชาวนา ที่เป็นประชาชนส่วนใหญ่ของแผ่นดินอยู่ ส่วนจะทำได้ขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขหลายๆ อย่างประกอบกัน

สำหรับผมมันเป็นสามัญสำนึก เพราะได้สัมผัสกับการเกษตรมาตลอด เนื่องจากตลอดชีวิตของผมแม้จะเป็นครูบาอาจารณ์มา เคยเป็นครูใหญ่มา แต่ก็ใช้ชีวิตทำการเกษตรมาตลอด ทำนาอยู่ 24 ไร่ ทำสวนยางพารา มันสำปะหลัง ไร่อ้อย ก็ได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของเกษตรกรมาตลอดก็รับทราบมาตลอดเลยไม่ต้องไปศึกษาอะไรเลย

แล้วปัญหาในพรรคภูมิใจไทยที่เกิดขึ้นในสมัย นายชาติชาย เป็นรัฐมนตรีอยู่ ต้องแก้ไขด้วย

จริงๆ ปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นจากพรรค ไม่ได้เกิดขึ้นกับ ส.ส.ของพรรคนะ ท่านชาติชายมารับตำแหน่งเพราะเป็นโควต้าของกลุ่มภาคกลาง ของท่านสรอรรถ กลิ่นประทุม (หัวหน้ากลุ่มราชบุรี) ซึ่งท่านชาติชายไม่ได้มาเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย และไม่ได้เข้ามาร่วมกิจกรรมของพรรคมาก่อน พอ ส.ส.ภาคกลาง มาร่วมงานกับพรรคแล้ว ตัวท่านชาติชายไม่ได้ตามมาร่วมกิจกรรมกับพรรคเลยเท่านั้นเอง ท่านยังไม่เคยเป็นภูมิใจไทย

ผมไม่ทราบเพราะไม่เข้าใจความรู้สึกของท่าน ท่านอาจจะคิดว่าพอได้เป็นรัฐมนตรีแล้วก็ปฏิบัติหน้าที่ ในภาระหน้าที่ในกระทรวงอย่างเต็มที่ แต่ท่านอาจจะลืมว่าท่านมาด้วยเงื่อนไขอะไร มาเพราะใคร ซึ่งความจริงแล้ว ส.ส.ไม่ได้ต้องการอะไร หรือต้องการเงินทองจากรัฐมนตรีหรอก แต่เมื่อมีรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค ส.ส.ก็หวังจะให้รัฐมนตรีนำปัญหา ความเดือดร้อนของประชาชนที่ ส.ส.แต่ละพื้นที่ได้นำสรุปรวมไว้ที่พรรค เพราะวันอังคาร พรรคจะมีการประชุม ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ดังนั้น วันอังคารตอนบ่ายๆ ทั้ง ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จะมาสะท้อน ระบายให้กับรัฐมนตรีในส่วนของพรรค ซึ่งรัฐมนตรีของพรรคทุกคนจะต้องมาประชุมที่พรรคเพื่อฟัง ส.ส.ได้ระบาย สะท้อนปัญหา โดยเฉพาะเรื่องการเกษตร พี่น้องส่วนใหญ่ 90 เปอร์เซ็นต์เป็นเกษตรกรและมีปัญหามาก ดังนั้น รัฐมนตรีต้องมานั่งฟัง ปัญหาไหนแก้ได้ก็ต้องรีบแก้ ปัญหาไหนแก้ไม่ได้ก็นำไปปรึกษาหารือท่านว่าการฯ ปรึกษานายกรัฐมนตรีหรือไปหารือในที่ประชุม ครม. ขณะเดียวกันก็ต้องแจ้งผลการหารือ ผลการแก้ปัญหาให้ ส.ส.ไปแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบ

เป็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ

ใช่...เพราะผมเข้าสู่การเมืองมาตั้งแต่ปี 2535 จนกระทั่งบัดนี้สิบกว่าปี เป็น ส.ส.มา 3 สมัย ผมรู้และเข้าใจความรู้สึกของ ส.ส.ดีว่าไม่มีอะไรมาก ส.ส.เขาอยากได้หน้าจากประชาชน เพราะต้องไปหาเสียงกับประชาชน ก็ต้องการให้ปัญหาของประชาชนได้รับการแก้ไข เพราะเมื่อมีปัญหา ส.ส.ก็ไปทำอะไรเองไม่ได้ มันผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ก็ต้องสะท้อนผ่านรัฐมนตรีที่เป็นฝ่ายบริหาร ถ้ารัฐมนตรีไม่เข้าพรรค ไม่มารับรู้ปัญหาของ ส.ส.แล้วจะช่วยแก้ปัญหาของประชาชนได้อย่างไร ซึ่งมันส่งผลประทบไปถึงการทำงานของรัฐมนตรีด้วย เพราะเมื่อไม่รู้ปัญหาลึกๆ ที่ ส.ส.รับมาจากประชาชน เอาแต่สรุปกันในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ กับข้าราชการ ปัญหาเชิงลึกมันก็แก้ไขไม่ได้

มีข่าวว่า เป็นเพราะนายชาติชาย ไม่ได้จ่ายเงินให้กับพรรคภูมิใจไทย เลยถูกกดดันให้ลาออก

ผมไม่เชื่อนะ...ผมว่ามันเป็นการปล่อยข่าวทำลายกัน เหมือนกับตอนที่ผมมาร่วมตั้งพรรคภูมิใจไทยใหม่ๆ เขาก็ปล่อยข่าว่าพวกผมได้คนละ 40-50 ล้าน พอมาอยู่พรรคภูมิใจไทยจะมีชื่อเป็นรัฐมนตรี พอผมไม่ได้เป็น เขาก็บอกว่าผมขายตำแหน่งอีก 50 ล้าน มันมีคนปล่อยข่าว ก็พรรคพวกเรานี่แหละ แล้วมาถึงวันนี้ผมได้รับการเสนอชื่อ ได้รับความไว้วางใจจากพรรคให้มาเป็นรัฐมนตรี แล้วคนปล่อยข่าวจะปล่อยอย่างไรอีก ดังนั้น ผมจึงไม่เชื่อว่าเรื่องรัฐมนตรีชาติชาย จะมีเรื่องเงินเรื่องทองเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมมั่นใจอย่างนั้น ผมเชื่ออย่างนั้น ถึงแม้ผมจะไม่ได้ไปรับรู้รับทราบตอนที่ท่านชาติชายมาเป็นรัฐมนตรีว่าได้พูดคุยกับ ส.ส. กลุ่มภาคกลางอย่างไร ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ผมก็เชื่อว่าไม่มีเรื่องเงินเรื่องทองเข้ามาเกี่ยวข้อง

ในพรรคบอกว่าต้นเหตุมาจากการที่นายชาติชายประกาศว่าตัวเองไม่ใช่เพื่อนเนวิน

เหอะๆ (หัวเราะ) ... ความจริงสิ่งที่เขาพูดก็คงจะถูก คือเขาไม่ใช่ภูมิใจไทยจริงๆ และเขาก็ไม่ใช่กลุ่มเพื่อนเนวินจริงๆ ท่านรัฐมนตรีชาติชายก็พูดถูก แต่ไม่ใช่ประเด็น เพราะมันอยู่ที่ว่าพอมาเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนของโควต้าของกลุ่ม ส.ส.ภาคกลาง แล้วขณะนี้กลุ่ม ส.ส.ภาคกลาง ก็มารวมเป็นภูมิใจไทย จะมาแยกตัวเองขาดจากพรรค ขาดจาก ส.ส. เนี่ย...มันเป็นไปไม่ได้

ท่านพูดถึงภูมิใจไทย พูดถึงเพื่อนเนวิน ท่านพูดว่าตัวท่านไม่ใช่เพื่อนเนวิน ท่านก็พูดถูก ท่านบอกว่าท่านไม่ใช่ภูมิใจไทย ก็พูดถูก ก็ถูกของท่าน แต่ท่านลืมไปว่าที่เป็นรัฐมนตรีอยู่ได้เพราะท่านมาจาก ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยและกลุ่มเพื่อนเนวิน ท่านลืมตรงนี้นิดเดียว อย่างผม มันเป็นจิตสำนึกตลอดว่าเรามาจากใคร มาจากไหน เราได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ในพรรค จากพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ส.ส.ในพรรค ฉะนั้นเราต้องอย่าลืมจุดยืน อย่าลืมที่มาโดยส่วนตัวผมก็เห็นท่านชาติชายเป็นคนเรียบร้อย นิสัยดี เพียงแต่ว่าท่านไม่ได้เป็นภูมิใจไทย ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค และไม่ได้เป็นทีมงานอะไรในพรรคเราเลย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าท่านรู้ว่ามาจากใคร มาจากที่ไหน หากปรับตัวหน่อย เข้ามารับรู้ปัญหา รับทราบเวลาประชุมพรรคก็มาบ้าง หรือมาบ้าง ไม่มาบ้างก็ยังดี แต่นี่ท่านไม่มาเลย จน ส.ส.ในพรรคไม่รู้จักเลย แล้วจะให้ทำอย่างไร

พูดได้อย่างเต็มปากเลยหรือไม่ว่า ศุภชัย โพธิ์สุ คือเพื่อนเนวิน

อ๋อ...ผมพูดมาตลอด ผมไม่เคยปิดบังที่มา ผมเป็น ส.ส.สังกัดกลุ่มเพื่อนเนวิน และเป็น ส.ส.สังกัดพรรคภูมิใจไทย เมื่อก่อนเรายังไม่เป็นภูมิใจไทย เราก็เป็นกลุ่มเพื่อนเนวิน แต่ขณะนี้เราไม่มีกลุ่ม เราเป็นภูมิใจไทย ไม่ว่าจะมาจากกลุ่มเพื่อนเนวิน กลุ่มสรอรรถ เพื่อแผ่นดินหรือมัชฌิมา พอมาถึงจุดนี้เราไม่พูดเรื่องกลุ่มกันแล้ว แต่จะพูดว่าเราเป็นเลือดของภูมิใจไทย เป็นเลือดสีน้ำเงินด้วยกัน วันนี้เลยไม่มีโควต้าแล้ว มีแต่โควต้าเดียวคือโควตาภูมิใจไทย มีท่านชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรค

มีข่าวว่ากลุ่มสรอรรถไม่พอใจเหมือนกันที่ถูกเพื่อนเนวินยึดโควต้า รมช.เกษตรฯไปเฉยๆ

ผมไม่ทราบ แต่ทุกครั้งที่ผมเจอท่านสรอรรถ ท่านจะเมตตาผมมาก จะมาโอบกอดผม คือผมกับท่านสรอรรถ พูดตรงๆ นะ ผมเรียกท่านสรอรรถ ว่านายทุกคำ เพราะผมรักและเคารพท่านมานานตั้งแต่เราอยู่ไทยรักไทยด้วยกัน ผมอาจจะไม่เป็น ส.ส.ภาคกลาง แต่ในขณะที่ท่านเป็นผู้นำอยู่ที่พรรคไทยรักไทย เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง ถึงผมจะอยู่อีสาน แต่ว่าผมไปมาหาสู่ท่านตลอด ให้ความเคารพนับถือท่านตลอด เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่น่ารัก เป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ ท่านจะมองเราเหมือนกับน้องๆ มีอะไรก็แนะนำ ตักเตือน ไม่เคยดุไม่เคยว่า และทุกครั้งที่มีปัญหาความเดือดร้อนอะไร ท่านดูแลเราตลอด ท่านไม่ทำให้เราผิดหวังสักที

หมายความว่า ความสัมพันธ์ระหว่างนายสรอรรถกับนายเนวิน ขณะนี้ยังแนบแน่นเหมือนเดิม

เท่าที่ผมเห็น ผมว่าท่านมีความสนิทสนมกันมาก ผมเห็นท่านเวลากินข้าวด้วยกัน เวลาปรึกษาหารือกัน คือเวลาที่เราไม่ได้ประชุมการเมือง เรามาพบปะกัน พูดคุยเรื่องทั่วไปท่านจะสนิทสนมกันมาก มันเป็นเหมือนเพื่อน พี่ น้องอยู่ด้วยกัน เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน ผมไม่เคยเห็นมีอะไรที่ท่านจะขัดแย้งกัน มีปัญหากัน ถ้ามีอะไรไม่ลงตัวกัน ท่านหัวหน้า ก็จะเอาไปถกกันในที่ประชุม แสดงความคิดความเห็นแล้วก็สรุปกันในที่ประชุม ไม่มีใบสั่ง มันอบอุ่นเหมือนเราเป็นหุ้นส่วนพรรค ไม่เหมือนที่ผ่านมาที่เราไม่รู้ว่าใครสั่งอะไรมาจากไหน

เป็นการปรับเอาคนเก่งการเมืองจากกลุ่มเพื่อนเนวิน เข้ามาเสริมทัพใน ครม. เนื่องจากเกิดปัญหาระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ในที่ประชุม ครม.บ่อยครั้งในช่วงหลัง

ไม่หรอกครับ... ผมเองก็ไม่ได้เก่งกาจการเมืองอะไร ธรรมดาๆ เป็น ส.ส.เล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้น เพียงแต่ว่ามีความมุ่งมั่น มีความตั้งใจและมีความจริงใจต่อพรรคพวกเพื่อนฝูงเท่านั้น เราไม่ได้มองในประเด็นนั้น แต่เรามองในประเด็นที่ว่าคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีของพรรค อย่างน้อยก็ต้องเข้าใจปัญหา ซึมซับความรู้สึกของ ส.ส.

ในฐานะรัฐมนตรีใหม่ มองปัญหาของพรรคภูมิใจไทย อย่างไรที่โครงการต่างๆ ทั้งส่วนของกระทรวงคมนาคมและกระทรวงพาณิชย์ ที่มักถูกสกัดใน ครม.

เป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล เป็นความรับผิดชอบร่วมกันตั้งแต่นายกฯและรัฐมนตรีทุกคน และคงไม่เฉพาะพรรคภูมิใจไทย หากข้อมูลไม่ตรงกัน ในเรื่องตัวเลข ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ท่านนายกฯใช้อำนาจของท่านให้ตรวจสอบหรือทำความเข้าใจเพื่อให้อธิบายประชาชนได้ คงไม่ใช่ประเด็นปัญหาว่าตั้งแต่ตั้งรัฐบาลมา โครงการที่รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยก็เยอะแยะ อันไหนที่ตรงกัน ที่เข้าใจร่วมกันได้แล้วก็ผ่านไป ตัวไหนที่มีปัญหาบ้างก็อาจจะมีการทบทวน เช็คข้อมูลหรือตั้งคณะทำงานเพื่อทำความเข้าใจร่วมกันบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา

ไม่ใช่การแตะสกัดขัดขาเพื่อไม่ให้ภูมิใจไทยเติบโตไปเป็นคู่แข่งของพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

อ๋อ...คงไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ถ้าโครงการที่ภูมิใจไทยเสนอ ไม่ว่าจะเป็นโครงการเช่ารถเมล์สี่พันคัน ก็เพื่อแก้ปัญหาจราจรให้กับพี่น้องประชาชน ใน กทม. ปัญหาเรื่องการระบายสินค้าทางการเกษตร ที่กระทรวงพาณิชย์เสนอเข้ามา ถ้าทำสำเร็จแล้วประเทศชาติได้ประโยชน์ ประชาชนได้ประโยชน์ คงจะไม่ได้หน้าเฉพาะรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น ท่านนายกฯก็ได้ด้วย ดังนั้น จึงไม่ใช่ประเด็นที่จะมากลัวกันว่าจะได้หน้า หรือมาขัดแข้งขัดขากัน ซึ่งเรื่องการแข่งขันทางการเมืองนั้น เมื่อถึงคราวเลือกตั้งทุกพรรคก็ต้องแข่งขันกันอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นภูมิใจไทยกับประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย กับพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ต้องเข่งกันหมดทุกพรรค พอลลงสู่สนามเลือกตั้งมันต้องได้แข่งกันอยู่ดี

มันเป็นปัญหาขึ้นมาเพราะประจวบเหมาะกับข่าวที่ว่าภูมิใจไทยเตรียมดูด ส.ส.ประชาธิปัตย์หรือเปล่า

(หัวเราะลั่น) ... ผมไม่ทราบ เพราะไม่ได้ไปด้วย แต่ความจริงแล้วเราเป็น ส.ส.ในสภาก็เป็นเพื่อนกันหมด ท่านศักดิ์สยาม (ชิดชอบ น้องชายนายเนวิน) ก็เคยเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ มีเพื่อนมีฝูง ที่แยกย้ายไปอยู่ต่างพรรคกัน มันก็ธรรมดา ผมกับเพื่อนผมอยู่เพื่อไทยก็คุยกัน กินข้าวกัน เที่ยวด้วยกันก็ธรรมดา มันอาจจะเป็นประเด็นตรงที่มีการพูด ให้สัมภาษณ์ทางการเมืองบ้างก็เลยประกอบเหตุการณ์ไปด้วยกัน แต่เรื่องนี้มันยังไม่มีอะไรไปถึงขนาดนั้น เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกันเราก็ให้ความเคารพกัน

ผมอยู่สภาก็เห็นหลายพรรคพูดคุยหยอกล้อกันเพื่อผมจากเพื่อไทยก็มาพูดว่า ตรงนี้อย่าเพิ่งจัดใครลงนะ จะไปอยู่ด้วยแน่นอนก็มี พรรคพวกจากประชาธิปัตย์หลายคนก็พูดกันว่า โอ๋ (ศักดิ์สยม)...ครูแก้ว อย่างไรผมไปอยู่กับพวกท่านนะก็มี แต่เป็นพูดๆ แล้วก็ผ่านกันไป จบกันไป ก็มีบ้างที่มาสังเกตการณ์มาร่วมประชุมกันพรรคภูมิใจไทย แต่ยังคงสรุปไม่ได้หรอกว่านี่เป็นการตัดสินใจจะย้ายพรรคมาอยู่ด้วยกันแล้ว คงไม่ใช่ ซึ่งเมื่อถึงห้วงเวลาที่เหมาะสมก็จะชัดเจนเองนั่นแหละ

ตั้งแต่สลับขั้วออกมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร วันนี้สถานการณ์ระหว่างภูมิใจไทยกับเพื่อไทยเป็นอย่างไร ?

เราก็ไม่ได้มีอะไรผูกพันกันนะ ไม่ได้มีอะไรผูกพันกับท่าน ไม่ได้มีอะไรขัดแย้งกับทางเพื่อไทย เราต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำหน้าที่ ไม่มีปัญหาความขัดแย้งอะไรเพิ่มขึ้น และไม่ได้มีความผูกพันอะไรดีไปกว่าที่เป็นอยู่ เราต่างก็ปฏิบัติภารกิจเพื่อพี่น้องประชาชน แต่คนละบทบาทเท่านั้น เราไม่ได้คิดว่าจะไปพัฒนาความสัมพันธ์อะไรให้ลึกซึ้ง แต่ความจริงแล้วการเมืองมันไม่มีอะไรแน่นอน หากยืนและมีความมุ่งมั่นตั้งใจร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน มันก็ไม่แน่... สักวันหนึ่งมันก็อาจจะมาร่วมกันได้ หากยืนบนประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง มันก็ร่วมกันได้

หน้า 11

http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01pol01010652&sectionid=0133&day=2009-06-01


check out the rest of the Windows Live™. More than mail–Windows Live™ goes way beyond your inbox. More than messages

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
http://facthai.wordpress.com/ ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew