"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Blognone
Share |

Suthichai Online - ข่าวประจำวัน

วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552

สานฝัน นวัตกรรมภูมิปัญญาไทย

รายงานโดย :ทีมข่าวพาณิชย์:
วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2552
พูดถึงความช่างคิด ช่างประดิษฐ์ของคนไทย แม้จะไม่ถึงขั้นผู้นำในตลาดโลก แต่ความโดดเด่นจากภูมิปัญญาไทยก็ไม่ด้อยกว่าชาติใด หากแข่งขันกันในโอกาสที่เท่าเทียม

วันนี้กระทรวงพาณิชย์หยิบยกแนวคิดจะผลักดันการจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์ ทรัพย์สินทางปัญญาขึ้นมาในประเทศไทย เพื่อให้เจ้าของผลงานนำผลงานที่ผ่านการจดทะเบียนรับรองจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ มาซื้อขายในตลาดแห่งนี้ จึงเป็นเรื่องที่น่าสนับสนุน

เหตุที่น่าสนับสนุนก็เพราะ คนไทยเจ้าของไอเดียดีๆ จะได้มีเวทีเฉพาะไว้แสดงผลงาน เชิญชวนให้ผู้สนใจเข้ามาร่วมชม รวมช็อป และอาจจะถึงขั้นร่วมลงทุน

แนวคิดนี้ในหลักการถือว่าเป็นการสร้างโอกาสและเพิ่มช่องทางใหม่ๆ ให้กับวงการทรัพย์สินทางปัญญาไทย

ที่ผ่านมาผลการทำงานของหน่วยงานรัฐต้องยอมรับด้วยว่า การผลักดันคนไทยให้ตื่นตัวคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ สร้างมูลค่าเพิ่ม ให้สินค้าไทยออกไปทำชื่อเสียงในตลาด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยังถือว่าล้มเหลว

แม้กระทั่งการกระตุ้นให้คนไทยปกป้องภูมิปัญญาของตัวเอง ด้วยวิถีทางกฎหมาย ความรู้ของคนไทยก็ยังกระจุกอยู่กับคนกลุ่มน้อย ชนิดนับเรียงตัวกันได้เลย

ทำให้ในวันนี้พัฒนาการทางด้านภูมิปัญญาของไทยเดินหน้าไม่ได้ไกล แถมยังมีสะดุดอุปสรรคต่างๆ นานาอยู่ตลอดเวลา

ยิ่งถ้าพูดถึงการอุดหนุนความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินในประเทศด้วยแล้ว แทบจะไม่มีด้วยซ้ำ เพราะการกระจายความรู้ความเข้าใจให้เห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ในหมู่คนไทยด้วยกัน ก็เป็นไปอย่างกระท่อนกระแท่น

สถาบันการเงินกลัวหัวหด ไม่กล้าปล่อยกู้ ไม่รู้ว่าไอเดียที่ลูกค้านำมาขายจะไปได้ไกลแค่ไหน ปล่อยกู้แล้วจะกลายเป็นศูนย์หรือไม่ แม้รัฐบาลจะเป็นตัวกลาง ประสานความร่วมมือไปยังสถาบันการเงินของรัฐให้ช่วยปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ ก็ยังไม่เป็นผล

บ่อยครั้งเข้าเจ้าของความคิดสร้างสรรค์หลายต่อหลายคนต่างก็ถอดใจเลิกคิดไปก็มี ทำได้ครึ่งๆ กลางๆ เสียโอกาส ถูกคนอื่นลอกเลียนแบบ ตัดหน้าไปจดหนังสือรับรองหน้าตาเฉยก็มีไม่น้อย

การหาแหล่งรวมให้คนมีไอเดียได้มีทางออก ขณะที่คนไม่มีไอเดียอยากได้ไอเดียมาทำธุรกิจ ก็จะได้รู้แหล่งว่ามาที่ไหนถึงจะได้ไอเดียดีๆ ไปสร้างมูลค่าเพิ่ม ดีกว่ารัฐไปเสียเวลาไล่จับมาเฟียก๊อบปี้

เสียงบจ้างคนไปก็มาก นอกจากงานไม่คืบยังถูกชาวบ้านร้านค้าก่นด่าให้เสียหายว่าอ้างชื่อราชการมารีดไถอีกต่างหาก

อย่างไรก็ดี มีแค่หลักการคงไม่เพียงพอ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทย และถ้าจะหวังไกลไปถึงการเจาะกระเป๋ากลุ่มนักลงทุนยิ่งเป็นเรื่องที่ยากจริงๆ

ด้วยจำนวนคนไทยที่จะมีภูมิปัญญามานำเสนอขายผ่านในตลาด น่าจะยังไม่มากพอที่จะจูงใจบรรดานักช็อป อาจจะตื่นตาตื่นใจแค่ในช่วงแรกๆ แต่ถ้านวัตกรรมที่นำมาโชว์ไม่โดดเด่นเข้าตาจริงๆ ก็เป็นไปได้ที่จะล้มเหลวสูงเช่นกัน

ฉะนั้น ในระหว่างการศึกษา กระทรวงพาณิชย์คงต้องระดมหาข้อมูลให้มาก และเปิดกว้างรับ ฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เครื่องมือในการบริหารงานต้องครบเครื่อง

ที่สำคัญ กลุ่มเป้าหมายที่จะ ขับเคลื่อนให้เข้าสู่ระบบต้องพร้อม ไม่ใช่รัฐพร้อมอยู่ฝ่ายเดียว เปิดมาก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง

เรื่องนี้ถ้าทำสำเร็จ ประเทศไทยได้ทั้งเงิน ได้ทั้งชื่อเสียงแน่ ฟันธง!!!

http://www.posttoday.com/business.php?id=52632

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
http://facthai.wordpress.com/ ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew