แผนกู้ 4 แสนล.เคลื่อนจีดีพีลบเกิน 4%

วันที่ 09 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11413 มติชนรายวัน แผนกู้ 4 แสนล.เคลื่อนจีดีพีลบเกิน 4% ธสน.แนะส่งออกเร่งสร้างแบรนด์ จี้เลิก"จำนำ-ประกัน"ราคาเกษตร "ณรงค์ชัย"ไม่เชื่อเศรษฐกิจมะกันฟื้น เชื่อต้องใช้หนี้เก่าอีกบาน คาด ศก.ไทยส่อติดลบเกิน 4% ถ้าแผนใช้เงินกู้ 4 แสนล้านเคลื่อน แนะส่งออกเร่งสร้างแบรนด์ ปรับตัวเชิงสร้างสรรค์ ชงรัฐเลิกทั้งจำนำ-ประกันราคาสินค้าเกษตร ชี้เลวร้ายทั้งคู่ หนุนตลาดอนุพันธ์แทน นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "สู่มิติใหม่แห่งการส่งออกและการแข่งขัน" ในงานเอ็กซิมฟอรัมครั้งที่ 4 ว่า ไม่เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวจากสัญญาณการผลิตที่ดีขึ้น เพราะช่วงที่ผ่านมาสหรัฐมีการบริโภคมากและบริโภคล่วงหน้ามาแล้วถึง 5 ปี ช่วงเวลานี้ยังต้องใช้หนี้เก่าอีกมาก และเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งมีการบริโภคเป็นตัวนำ ขณะนี้ยังติดลบต่อเนื่องและยังไม่เห็นการขยายตัว ส่งผลให้เศรษฐกิจไทย ซึ่งผูกโยงกับสหรัฐและเศรษฐกิจโลกมาก อาจชะลอตัวต่อเนื่อง แต่อาจมีข่าวดีที่ไม่แย่อย่างไตรมาสแรกที่ผ่านมา และจะมีผลให้ทั้งปีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีติดลบที่ 4% "จีดีพีปีนี้มีแนวโน้มว่าจะติดลบมากกว่า 4% หากรัฐบาลไม่ใช้เงินกู้ 4 แสนล้านบาท ตามกำหนดที่วางไว้ ส่วนการฟื้นตัวหลังจากนี้คงบอกไม่ได้ว่าจะดีขึ้นหรือไม่ แต่เชื่อว่าภายใน 3 ปียังคงชะลอต่อเนื่อง ก่อนจะกลับมาขยายตัวได้ 3-4% หลังจากนั้น" นายณรงค์ชัยกล่าว นายณรงค์ชัยกล่าวว่า ภาคการส่งออกต้องหาตลาดใหม่ที่ยังมีศักยภาพและกำลังซื้อสูงมาก เช่น จีน ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน อินโดนีเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ลิเบียและแอฟริกาใต้ แต่ต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสินค้าจากเป็นผู้รับจ้างทำของส่งออกเป็นหลัก มาเป็นสร้างแบรนด์ของตัวเองและมองการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก เช่น คนวัยสูงอายุเพิ่มมากขึ้นและประเด็นโลกร้อนมาแรง ฉะนั้น การผลิตสินค้าต้องตอบสนองเหล่านี้ ทั้งอาหารสุขภาพ เฟอร์นิเจอร์จากวัสดุเหลือใช้ "ต้องยอมรับว่า การส่งสินค้าไปตลาดใหม่ไม่สามารถทดแทนตลาดหลักทั้งหมดได้ แต่หากผู้ส่งออกสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพสังคมโลกโดยรวมที่เปลี่ยนไปในตลาดได้ จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้มากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการต้องหาสินค้าที่สอดรับกับปัจจัยที่เปลี่ยนไปให้ได้ รวมทั้งต้องเปลี่ยนความคิดในการทำธุรกิจ โดยหันมาให้ความสำคัญกับการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการทำธุรกิจมากขึ้น เพื่อเป็นการทดแทนการผลิตเพื่อส่งให้แก่ผู้นำเข้าเพียงอย่างเดียว" นายณรงค์ชัยกล่าว ประธาน ธสน.กล่าวว่า นอกจากนี้รัฐบาลควรเลิกโครงการรับจำนำและประกันราคาพืชผลเกษตร เพราะเป็นนโยบายที่เลวร้ายทั้งคู่ ทำลายระบบตลาด และสร้างความเสียหายให้กับรัฐบาล แต่ควรสนับสนุนตลาดซื้อขายล่วงหน้ามากกว่า เพราะจะทำให้ตลาดเดินหน้าต่อไปได้ และเลิกแทรกแซงสินค้าเกษตรที่มีอยู่ในตลาดซื้อขายล่วงหน้าด้วย เช่น ข้าว มันสำปะหลัง นายอภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการ ธสน. กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยงานในไทยมีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ จำนวนมาก เช่น สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (สบร.) รอเพียงผู้ประกอบการจะเข้าไปหารือและผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมา โดย ธสน.พร้อมสนับสนุนสินเชื่อเหล่านี้ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนหรือไม่มีภาระดอกเบี้ยระหว่างทาง ซึ่งขณะนี้รอเพียงเอกชนและภาครัฐตอบรับ เพื่อกำหนดเป็นนโยบายสนับสนุนสินค้าจากความคิดสร้างสรรค์ หน้า 18 http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01eco02090652&sectionid=0103&day=2009-06-09