"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Blognone
Share |

Suthichai Online - ข่าวประจำวัน

วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เปิดไส้ในเงินกู้ปั๊มศก.เฟสแรก 2 แสนล.ลงทุนแหล่งน้ำ-โลจิสติกส์-รถไฟฟ้า 4 สาย

วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552 เวลา 08:34:41 น.  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ [อ่านล่าสุด 1212 คน]

เปิดไส้ในเงินกู้ปั๊มศก.เฟสแรก 2 แสนล.ลงทุนแหล่งน้ำ-โลจิสติกส์-รถไฟฟ้า 4 สาย

เปิดไส้ใน พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้าน แจกแจงโครงการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2 ปี 2552-2553 วงเงินกว่า 2 แสนล้านบาท แยกเป็นโครงการน้ำ 67,113 ล้าน, ระบบขนส่ง-โลจิสติกส์ 65,531 ล้าน ฟันธงรถไฟฟ้าสายสีแดง ม่วง เขียว น้ำเงินเดินหน้าได้ชัวร์ ถนนไร้ฝุ่นก็ฉลุย พร้อมโครงการอื่นๆอีกเพียบ

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ ทางกระทรวงการคลังจะมีการนำเสนอร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินภายใต้วงเงิน 4 แสนล้านบาทให้ที่ประชุมสภาสมัยวิสามัญพิจารณานั้น โดยส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรและคาดว่าจะผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภา
แผนการกู้เงินในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งจะนำไปชดเชยการขาดดุลงบประมาณปี 2552 วงเงินไม่เกิน 200,000 ล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ในแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 หรือ SP2 อีก 200,000 ล้านบาท

"เดิมทีนั้นทางกระทรวงการคลังคาดว่าดุลเงินสดของรัฐบาลน่าจะขาดดุลไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เกิดมาจากการจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้เป็นจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลต้องออก พ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉิน ล่าสุดนี้ได้รับรายงานจากกระทรวงการคลังว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลได้มีการปรับขึ้นภาษีเหล้า บุหรี่ น้ำมัน ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจที่เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้ผลการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีน้ำมัน ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นลำดับ คาดว่าในปีงบฯ 2552 กระทรวงการคลังคงจะอาศัยอำนาจจาก พ.ร.ก.ออกพันธบัตรกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบฯสูงไม่ถึง 2 แสนล้านบาทแล้ว" นายกรณ์กล่าว

แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับวงเงินกู้ส่วนที่เหลือจากการชดเชยการขาดดุลทั้งหมด รัฐบาลสามารถโยกไปใช้ในโครงการ SP2 ได้ ทั้งนี้เพราะโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งปี 2555 นั้น จริงๆ แล้วมีความต้องการใช้วงเงินกู้สูงถึง 7 แสนล้านบาท ไม่ใช่แค่ 6 แสนล้านบาทเท่านั้น และในภาวะเศรษฐกิจที่ยังหดตัวอยู่ภาคเอกชนไม่กล้าลงทุน ภาครัฐจึงต้องเข้ามาใช้จ่ายแทนภาคเอกชนในช่วงนี้ ในระยะสั้นจะก่อให้เกิดการจ้างงาน 1.5-2 ล้านคน ส่วนในระยะยาวจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

สำหรับแผนการลงทุนภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 ในช่วงปี 2552-2555 จะมีวงเงินรวมทั้งสิ้น 1.43 ล้านล้านบาท จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 โครงการที่รัฐบาลรับภาระการลงทุน ทั้งที่เป็นโครงการของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ ในสาขาบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร ขนส่ง โครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว การศึกษา สาธารณสุข สวัสดิภาพของประชาชน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พัฒนาการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ และการลงทุนในระดับชุมชนมีวงเงินรวม 1,110,168 ล้านบาท  

กลุ่มที่ 2 เป็นโครงการที่รัฐวิสาหกิจเป็นผู้แบกรับภาระการลงทุนเอง อาทิ โครงการในสาขาพลังงานและพลังงานทดแทน สาขาสื่อสาร และสาขาขนส่ง เป็นวงเงินลงทุนรวม 321,162 ล้านบาท

ในส่วนโครงการที่รัฐเป็นผู้แบกรับภาระการลงทุน แต่ยังไม่มีแหล่งเงินในปีงบประมาณ 2552-2553 มีวงเงินรวมทั้งสิ้น 289,070 ล้านบาท จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้รัฐบาลนำร่าง พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทส่งให้ที่ประชุมสภาพิจารณาในครั้งนี้ ซึ่งจะประกอบไปด้วยโครงการที่สำคัญๆ 12 กลุ่ม ซึ่งพร้อมที่จะดำเนินโครงการได้ตั้งแต่ปี 2552 และปี 2553 แบ่งเป็นโครงการที่มีความพร้อมที่จะดำเนินการได้ในปี 2553 และสามารถเริ่มดำเนินการบางส่วนได้ในปี 2552 วงเงิน 231,311 ล้านบาท ที่เหลืออีก 57,759 ล้านบาทอาจจะยังไม่พร้อมที่จะดำเนินการได้ในปี 2553 ได้แก่

1.สาขาบริการจัดการน้ำ/น้ำเพื่อการเกษตร หน่วยงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงทรัพยากรฯ, กระทรวงมหาดไทย วงเงินกู้ 67,113 ล้านบาท
- บำรุงฟื้นฟูระบบชลประทานเดิม/ก่อสร้างฝายอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก/กลาง/บรรเทาอุทกภัย/การปรับปรุงพันธุ์และกระจายพันธุ์พืช
- ระบบเครือข่ายน้ำ/พัฒนาลุ่มน้ำชีตอนบน/เพิ่มประสิทธิภาพหน่วยราชการ หน่วยงาน

2.สาขาขนส่ง/logistic หน่วยงานกระทรวงคมนาคม วงเงินกู้ 65,531 ล้านบาท
- ระบบรถไฟฟ้า : สายสีแดง ม่วง เขียว (หมอชิต สะพานใหม่-แบริ่ง) น้ำเงิน เขียว (สะพานใหม่-ลำลูกกา-บางปูสมุทรปราการ ชมพู) น้ำตาล (ทั้งนี้สายสีเขียว ชมพู น้ำตาล ทำหลังปี 2553)
- ระบบราง : จัดหาโบกี้+หัวรถจักรดีเซล ปรับปรุงทางระยะที่ 5-6 (แก่งคอย-บัวใหญ่-หนองคาย) รถไฟรางคู่ (ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย)
- ทางพิเศษ (บางปะอิน-สระบุรี-โคราช)
- ถนนไร้ฝุ่น (ทางหลวงชนบท), 4 ช่องจราจรระยะที่ 2, บูรณะทางหลวงสายหลัก
- ปรับปรุงท่าอากาศยาน 4 แห่ง/อู่ตะเภา
- ท่าเรือปากบารา, คลองใหญ่

3.สาขาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว หน่วยงานกระทรวงมหาดไทย, กระทรวงคมนาคม วงเงินกู้ 1,159 ล้านบาท
- ระบบประปา
- ระบบจำหน่ายไฟฟ้าด้วยสายเคเบิลใต้น้ำ
- ปรับปรุงสถานีรถไฟ/สถานีขนส่งผู้โดยสาร

4.สาขาโครงสร้างพื้นฐาน/พัฒนาบุคลากรด้านการศึกษา หน่วยงาน กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ, สำนักนายกฯ, กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ วงเงินกู้ 53,270 ล้านบาท
- จัดซื้อวัสดุครุภัณฑ์+ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานสถานศึกษา/education hub/พัฒนาหลักสูตรวิทย์-คณิต/การสร้างจิตสำนึกความเป็นไทย/มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ/พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ+นวัตกรรมอุตสาหกรรม/หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม/ศูนย์ 3 วัย

5.สาขาโครงสร้างพื้นฐาน/พัฒนาบุคลากรด้านสาธารณสุข หน่วยงาน กระทรวงสาธารณสุข, กลาโหม, กทม., กระทรวงศึกษาธิการ, ร.พ.รามาฯ วงเงินกู้ 32,325 ล้านบาท
- ปรับปรุงสถานีอนามัย โรงพยาบาลชุมชน+ศูนย์ exellence center/อาคารที่พัก/วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีการแพทย์
- จัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์
- ผลิตภัณฑ์บุคลากรทางการแพทย์

6.สาขาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสวัสดิภาพของประชาชน หน่วยงาน สนง.ตำรวจแห่งชาติ, กระทรวงกลาโหม วงเงินกู้ 4,826 ล้านบาท
- ปรับปรุงอาคารที่พักตำรวจ/ทหาร

7.สาขาโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงการท่องเที่ยวฯ วงเงินกู้ 3,564 ล้านบาท
- จัดซื้ออุปกรณ์และสนับสนุนงานวิจัยสำหรับภาคอุตสาหกรรม/วิจัยพัฒนาพลังงานทดแทน

8.สาขาโครงสร้างพื้นฐานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หน่วยงาน กระทรวงทรัพยากรฯ, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วงเงินกู้ 2,108 ล้านบาท
- ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ/โครงการลดภาวะโลกร้อน/ป้องกันไฟป่า/ระบบอนุรักษ์ดิน+น้ำ

9.สาขาการพัฒนาการท่องเที่ยว หน่วยงาน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, สำนักนายกฯ, กระทรวงทรัพยากรฯ, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงการคลัง วงเงินกู้ 3,179 ล้านบาท
- ฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว/พัฒนาสปา+โรงแรม/อนุรักษ์สัตว์ป่า/ป้องกันรักษาสภาพป่า/พัฒนาสวนพฤกษศาสตร์/เพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

10.สาขาเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ หน่วยงาน กระทรวงวัฒนธรรม, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ, กระทรวงทรัพยากรฯ วงเงินกู้ 4,873 ล้านบาท
- creative city/ก่อสร้างศูนย์ถ่ายทอดความรู้ของภูมิปัญญาท้องถิ่น/บูรณะโบราณสถานในอยุธยา/พัฒนา SMEs+สิ่งทอ/พัฒนา digital media+digital content/ออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์/พัฒนานวัตกรรมอาหาร
- พัฒนาอุตสาหกรรมสื่อบันเทิง/พัฒนาเทคโนโลยี+นวัตกรรมอุตสาหกรรม/ยกระดับการสร้างสรรค์+ออกแบบ

11.สาขาการลงทุนในระดับชุมชน หน่วยงาน สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงยุติธรรม, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ, กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กระทรวงแรงงาน, กระทรวงวัฒนธรรม, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงกลาโหม, กระทรวงการคลัง, กระทรวงคมนาคม, กระทรวงทรัพยากรฯ, จังหวัดและกลุ่มจังหวัด วงเงินกู้ 36,622 ล้านบาท
- โครงการส่งเสริมอาชีพ/ยกระดับรายได้ชุมชน, พัฒนาคุณภาพคน/วัฒนธรรม/สังคม, ฟื้นฟูเศรษฐกิจ การลงทุน, พัฒนาเศรษฐกิจเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน, เพิ่มความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน, ปรับปรุงกฎระเบียบเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ

12.สาขาแผนการเพิ่มทุนให้แก่สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ หน่วยงาน กระทรวงการคลัง วงเงินกู้ 14,500 ล้านบาท
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
http://facthai.wordpress.com/ ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew