"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Blognone
Share |

Suthichai Online - ข่าวประจำวัน

วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ดร.หนุ่มคลื่นลูกใหม่จิราธิวัฒน์

Pic_13420

ขอเรียนรู้โลกภายนอกก่อนสานธุรกิจครอบครัว ย้ำภูมิใจในความเป็นแฟมิลี่บิซิเนสของตระกูล “จิราธิวัฒน์”

ลูกใหม่เจนเนอเรชั่นที่   3   ของตระกูล "จิราธิวัฒน์"  ที่ต้องจับตามองอีกคนหนึ่ง เพราะกำลังจะเข้ามามีบทบาทเด่นในการบริหารธุรกิจของตระกูล นามว่า "ธรรม์ จิราธิวัฒน์" หรือ ดร.โบ๊ท ด้วยวัย 30 ปี แต่สามารถคว้าปริญญาเอกกลับมาให้ทุกคนในครอบครัวได้ชื่นใจเป็นรายแรกของตระกูล

ธรรม์ เป็นลูกชายคนโตของเสี่ยใหญ่เซ็นทรัลแห่งค่ายซีพีเอ็น (เซ็นทรัลพัฒนา) สุทธิธรรม  กับคุณแม่คนสวย สัณหจุฑา จิราธิวัฒน์ โดยถูกส่งไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็ก และเป็นคนรุ่นใหม่กลุ่มแรกๆที่ได้เรียนด้านคณิตศาสตร์ควบคู่ไปกับการเรียนด้านจิตวิทยา

"ตอนแรกผมเลือกเรียนด้านเอ็นจีเนีย แต่เรียนไป 2 ปีก็ต้องดร็อปเรียน เพราะรู้ตัวเองว่าไม่ชอบเอ็น-จีเนีย  อยากเปลี่ยนฟิลด์ไปเรียนด้านอื่น  พอทรานซ์ เฟอร์เข้า  College  of  William  and  Mary  ได้ ก็เลยเรียนตรีและโทไปพร้อมๆกัน และต่อปริญญาเอกที่  The  Chicago  School  of  Professional Psychology  ด้านบิสซิเนสไซโคโลจี้ ซึ่งเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับเมืองไทย และธุรกิจในเมืองไทยด้านนี้ก็ไม่ค่อยมีและผมเป็นคนถนัดเลข แต่ไม่ชอบวิศวะ เลยไปด้านไซโคโลจี้ เป็นการเรียนรู้เรื่องการทำงานที่วัดกันด้วยตัวเลข สถิติ และมีคนเรียนน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่คนที่ถนัดเลขจะไม่ถนัดไซโคโลจี้ หรือคนที่ถนัดไซโคโลจี้จะไม่ถนัดเลข ในขณะที่ผมเป็นคนที่สนใจทั้งสองอย่าง" ดร.ธรรม์เล่าอย่างภูมิใจ

ระหว่างทำปริญญาเอกที่สหรัฐอเมริกา ธรรม์ ได้ใช้เวลาว่างระหว่างวันที่ไม่มีเรียนทำงานไปด้วย "ผมรู้ตัวอยู่แล้วว่า จะต้องกลับมาทำงานตอนอายุ 30 และถ้ากลับมาตอนนั้นแล้วยังไม่มีประสบการณ์การทำงานคงเป็นเรื่องตลก ผมจึงเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย  ซึ่งก็ได้ทำงานระหว่างเรียนอยู่ 4 ปี ด้านคอนเซาท์ข้อมูล และสำรวจวัดค่าต่างๆ"

ธรรม์ เพิ่งจบปริญญาเอกกลับมาเมืองไทยได้เพียงเดือนเดียว และกำลังตั้งบริษัทรับทำด้านวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ทั้งในส่วนของบริษัทและผู้บริโภค   โดยยังไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับธุรกิจของตระกูล เพราะต้องการหาประสบการณ์จากโลกภายนอกก่อน "ผมอยากทำบริษัทของตัวเอง เพราะเห็นว่า เมืองไทยไม่ค่อยมีบริษัททางด้านนี้ ก็อยากทำงานที่เกี่ยวกับความรู้ที่เราเรียนมา ซึ่งที่ผ่านมาผมเคยแต่ทำงานที่เมืองนอก ยังไม่เคยทำงานในเมืองไทย ก็อยากทำอะไรเอง เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมการทำงานในเมืองไทย อยากเห็นอะไรที่กว้างขึ้น ก่อนจะเข้ามาทำธุรกิจของตระกูล"

เมื่อถามว่า  คุณพ่อบังคับให้กลับมาทำงานในธุรกิจของครอบครัวหรือไม่ ด็อกเตอร์หนุ่มมาดเข้มรีบอธิบายว่า คุณพ่อไม่เคยบังคับลูกว่า จะต้องเข้ามาทำงานในธุรกิจของครอบครัว เพียงแต่ใครจะไปทำอะไรที่ไหนต้องเข้ามาคุยกับผู้ใหญ่คือคุณลุงหลายๆท่านก่อน เพราะอย่างไรเสียตระกูล "จิราธิวัฒน์" ก็ยังเป็นระบบครอบครัว ทุกคนต้องเข้ามาช่วยกันบริหารธุรกิจให้แข็งแรงและก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง และในฐานะที่เป็นหนึ่งในตระกูล "จิราธิวัฒน์" ธรรม์ บอกอย่างภาคภูมิใจที่ได้เกิดมาในตระกูลนี้ว่า "ผมภูมิใจมากที่เราเป็นหนึ่งในตระกูลที่ทำแฟมิลี่บิสซิเนสมาจนถึงขนาดนี้ เพราะตอนนี้เราทำกันมาจนถึงรุ่นที่ 3 แล้ว ทุกคนก็ยังรักกัน ดูแลกัน ทั้งเรื่องงานและความผูกพันของคนในตระกูล"

ธรรม์ ยังบอกด้วยว่า ถึงแม้ตัวเองจะแยกออกมาทำงานส่วนตัว แต่ในที่สุดแล้วก็ต้องกลับเข้ามาช่วยธุรกิจของครอบครัว "ผมมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่า อย่างไรเสียก็อยากเป็นหนึ่งในแกนนำของครอบครัว ที่ทำให้แฟ-มิลี่บิสซิเนสมีชื่อเสียงยิ่งๆขึ้น   และก้าวไปข้างหน้าจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป".

http://www.thairath.co.th/content/life/13420

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
http://facthai.wordpress.com/ ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew