"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Blognone
Share |

Suthichai Online - ข่าวประจำวัน

วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เทรนด์โซเชียลเน็ตเวิร์ค 2010 'เรียลไทม์' มาแรงแซงทุกโค้ง


 

เทรนด์โซเชียลเน็ตเวิร์ค 2010 'เรียลไทม์' มาแรงแซงทุกโค้ง

 
เมื่อ “อินเทอร์เน็ต” กลายเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้สำหรับโลกยุคโลกาภิวัฒน์ ด้วยประโยชน์ในการติดต่อและเชื่อมโยงข้อมูลทั่วโลก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่อินเทอร์เน็ตจะถูกใช้เป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์ ในทางที่ผิด ขณะเดียวกัน ยังทำให้เกิดกระแส “โซเชียลเน็ตเวิร์คกิ้ง” (Social Networking) ฟีเวอร์ ทั้ง ไฮไฟว์ (Hi5) , มายสเปซ (MySpace) , เฟซบุ๊ค (Facebook) , ทวิตเตอร์ (Twitter) และ มัลติพลาย (Multiply) ที่เรียกว่าชิทแชทกันทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กระดับประถมถึงผู้ใหญ่วัยทำงาน ด้วยจุดเด่นในการสื่อสารที่สะดวกสบายและฟีเจอร์ลูกเล่นต่างๆ ทำให้สังคมออนไลน์ดังกล่าวที่กล่าวข้างต้นได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลก แต่สังคมออนไลน์ภายในปี 2552 ที่โดดเด่นและได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง ทั้งยังมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก คงหนีไม่พ้น 2 สังคมออนไลน์ชื่อดังอย่างเฟชบุ๊คและทวิตเตอร์
เว็บไซต์ “เฟซบุ๊ค” (www.facebook.com) ก่อตั้งโดย มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก นักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด เพื่อใช้งานเฉพาะนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยฯ เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2004 และขยายไปยังผู้ใช้ทั่วโลกเมื่อ 11 ก.ย. 2006 ด้วยรูปแบบและการใช้คล้ายกับไฮไฟว์ ให้เหล่าสมาชิกได้โพสต์ภาพถ่าย แสดงความคิดเห็น หรือเลือกเล่นสารพัดเกมได้ตามใจชอบ

ส่วน “ทวิตเตอร์” (www.twitter.com) เปิดให้บริการเมื่อ มี.ค. 2006 โดยบริษัท Obvious Corp สัญชาติอเมริกัน ด้วยการส่งข้อความที่ยาวไม่เกิน 140 ตัวอักษร เพื่อบ่งบอกสถานะหรือสิ่งที่ตนเองกำลังกระทำ เสมือนการส่งเสียงร้องของนก เพื่อแจ้งข่าวสารแก่ผู้อื่นที่คอยติดตามความเคลื่อนไหวของคุณ
จากจุดเด่นของคอนเทนต์ (Content) ที่มีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นมนต์เสน่ห์สำคัญที่ดึงดูดความสนใจ ชวนให้หลงใหลและติดตามความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เสมือนเป็นหนึ่งในภารกิจประจำวันที่ต้องดำเนิน จึงไม่น่าแปลกใจที่จำนวนผู้ใช้เฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ในประเทศไทยจะเติบโตอย่าง ต่อเนื่อง โดยขณะนี้ มีผู้ใช้เฟซบุ๊คทั่วโลกกว่า 350 ล้านราย แบ่งเป็นชาวไทยประมาณ 1.6 ล้านคน ส่วนจำนวนสมาชิกชาวทวิตเตอร์ในไทยนั้น คาดว่ามีทั้งสิ้นเพียง 3-4 หมื่นราย ขณะที่ ยอดผู้ใช้ทั่วโลกอยู่ที่ 18 ล้านคน

 

กระแสความนิยมและแนวโน้มการเติบโตที่ยังคงเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ผลิตและผู้ให้บริการหลากธุรกิจหันมาจับกระแสดังกล่าว พร้อมต่อยอดโอกาสทางธุรกิจของตน บ้างใช้เป็นช่องทางการทำตลาดหรือประชาสัมพันธ์ บ้างก็นำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจอย่างจริงจัง จนทำให้แนวโน้มในปี 2010 มีความเป็นไปได้มาก ว่าโซเชียลเน็ตเวิร์คกิ้งชื่อดังเหล่านี้ จะถูกนำเสนอด้วยรูปแบบเรียลไทม์ (Real Time) อย่างแท้จริง เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและผู้บริโภคอย่างทันท่วงที ท่ามกลางความพร้อมของอุปกรณ์การสื่อสารและเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทั้งคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค เน็ตบุ๊ค หรือแม้แต่โทรศัพท์เคลื่อนที่ และเทคโนโลยีเครือข่ายระบบ 3G ที่แม้ในวันนี้ประชาชนไทยจะยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับเทคโนโลยีล้ำหน้าอย่าง 3G อย่างแท้จริง แต่ต้องยอมรับว่า กระแสการตอบรับเทคโนโลยีดังกล่าวนั้นมีอยู่เป็นจำนวนมาก เรียกว่า ไม่ว่าจะหยิบจับอุปกรณ์อะไร ก็จะต้องเห็นสัญลักษณ์ F และ T ปรากฏอยู่ร่ำไป

หากกล่าว ว่ากระแสเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ฟีเวอร์ เป็นกระแสต่อเนื่องก็คงจะไม่ผิดนัก ในเมื่อสังคมและโลกยังคงหมุนไปไม่สิ้นสุด เทคโนโลยีก็ถูกพัฒนาให้ทันสมัยและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้อย่าง ครบถ้วนและครอบคลุม แม้วันนี้ เราจะสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของผู้อื่นผ่านสังคมออนไลน์ได้ตามใจนึก แต่ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้ แต่ละคนอาจมีดาวเทียมคอยจับสัญญาณและรายงานความเคลื่อนไหวได้ประหนึ่งถูก ถ่ายทอดสด ดังตาเห็น

http://www.thairath.co.th/content/tech/55748

ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.thaifreedompress.blogspot.com/
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.media4democracy.com/th/
http://www.youngtelecom.org/
http://www.logex.kmutt.ac.th/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm
http://www.isriya.com/node/2809/wordcamp-bangkok-2009-pool-party


วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เตือนภัย อ่านด่วน เกี่ยวกับเลขบัตรประชาชน 13 หลัก

 
 


 

Subject:  เตือนภัย อ่านด่วน เกี่ยวกับเลขประชาชน
Date: Thu, 3 Dec 2009 15:46:32 +0700
From: 

 

 

ถึงทุกๆท่าน
          
ดิฉันมีเรื่องอยากเตือนทุกท่านให้ระวังเอาไว้  ถึงการหลอกลวงรูปแบบใหม่
          
เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2552  เวลาประมาณ 09.15 น.  ดิฉันได้รับโทรศัพท์จากหมายเลข +886226994823
เป็นระบบเสียงอัตโนมัติอ้างว่าโทร."จากศาลจังหวัดกรุงเทพมหานคร  แจ้งว่ามีหมายส่งถึงดิฉัน  แต่ไม่สามารถส่งหมายได้ 
ให้ติดต่อไปยังศาลอาญา    มิฉะนั้นศาลจะออกหมายจับไป   กด 1 หากต้องการฟังซ้ำ  กด 9 เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่"
          
ด้วยความที่ดิฉันเป็นทนายความ  จึงสงสัยและจับพิรุธได้ดังนี้
                1.
เกิดมาไม่เคยกระทำความผิดใดๆ ตามกฏหมายที่จะต้องถูกดำเนินคดีอาญา
                2.
เบอร์โทรศัพท์แปลก ๆ  เหมือนโทร.มาจากต่างประเทศ
                3.
ในประเทศไทยไม่มีศาลจังหวัดกรุงเทพมหานคร
                4.
ศาลไม่มีบริการติดตามคู่ความ หรือตรวจสอบข้อมูลทางโทศัพท์ (ยกเว้นท่านจะโทร.ไปที่ศาลเพื่อขอข้อมูลเองหรือตรวจสอบจากเว็บไซด์)
          
ดิฉันจึงตัดสินใจกด 9 เพราะอยากรู้มีเขามีลูกเล่นอย่างไร  สักพักก็จะมีเสียงผู้หญิงรับสาย (มีเสียผู้ชายดังเข้ามาเหมือนกำลังเจรจาเกี่ยวกับคดีความกับคนอื่นอยู่ ซึ่งทำให้เหมือนจริงว่าโทร.มาจากศาล)  แจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ศาลอาสาจะตรวจสอบข้อมูลให้  ขอทราบชื่อ-นามสกุล    ดิฉันก็แจ้งชื่อ-นามสกุลให้ทราบ  จากนั้นผู้หญิงคนดังกล่าวก็จะขอหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก  ดิฉันไม่ให้  เขาก็บอกว่าการติดต่อราชการจะต้องใช้หมายเลขบัตรประชาชน  ดิฉันจึงบอกไปว่าการตรวจสอบข้อมูลของศาลนั้นไม่ต้องใช้เลขบัตรประชาชนก็ได้  ตรวจจากชื่อนาม-นามสกุ! ลก็ได้แล้ว  ผู้หญิงคนดังกล่าวก็ยังยืนยันว่าต้องใช้เลขบัตรประชาชน  ดิฉันจึงแจ้งว่าจะไปติดต่อศาลเอง ขอทราบชื่อเจ้าหน้าศาลที่จะต้องติดต่อ   ผู้หญิงคนดังกล่าวก็ตอบมาด้วยเสียงดุๆ ว่าให้ไปติดต่อได้ที่ศาลอาญารัชดา แล้วก็รีบวางสาย  ไม่ยอมแจ้งชื่อให้ทราบ
           
ดิฉันได้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวพบว่า
               - 
ไม่ใช่หมายเลขของศาลอาญารัชดาฯ
               -
เป็นรหัสทางไกล 886  ซึ่งโทร.มาจากไต้หวัน
         
ดังนั้นจึงขอเตือนทุกๆท่าน ได้โปรดระวังการหลอกลวงแบบใหม่นี้ไว้ด้วย  เพราะหากท่านให้เลขบัตรประชาชน 13 หลักไป  ไม่ทราบว่าเขาจะเอาไปทำอะไร  เลขบัตรประชาชนของท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลต่างๆของท่าน เช่นข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลบัตรเครดิต ฯลฯ  ได้มากมาย
         
นอกจากนี้ขอให้เตือนเพื่อนๆ  ญาติสนิท มิตรสหายของท่านให้ทราบด้วย
                                                                                
ขอบคุณค่ะ
                                                                           
ธิดาพร   วณิชย์รุจี   

 



Windows 7 ใหม่: ค้นหาพีซีที่เหมาะสมกับคุณ เรียนรู้เพิ่มเติม

Windows Live: Keep your friends up to date with what you do online.

Hotmail: Powerful Free email with security by Microsoft. Get it now.

Windows 7 ใหม่: ค้นหาพีซีที่เหมาะสมกับคุณ เรียนรู้เพิ่มเติม

แชตออนไลน์ทันใจกับเพื่อนและครอบครัวของคุณ! Windows Live Messenger

แบ่งปันรูปถ่ายกันอย่างง่ายดายด้วย Windows Live™ Photos ลากแล้วปล่อย

Windows 7 ใหม่: ค้นหาพีซีที่เหมาะสมกับคุณ เรียนรู้เพิ่มเติม



--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
kb
http://www.healthstation.in.th/index1.html
http://camp02.blogspot.com/ camp02
http://kb1951.blogspot.com/ tkpark
http://kbparks.blogspot.com/ tkpark9
http://word1951.blogspot.com/ wordpress
http://www.baanjomyut.com/library/lotus
http://www.pwdom.com
http://weblogcamp2009.blogspot.com/2009
http://www.twitter.com/kajorn
http://www.twitter.com/BKKFlashCamp
http://camp02.readyhomepage.com
http://www.twitter.com/sun1951
http://www.twitter.com/joomlacorner
http://sun1951.vaivaitraining.com
http://sun1951.wordpress.com
http://www.educationatclick.com/th/
http://gotoknow.org/blog/krunoppol/
http://baankruaeed.wordpress.com/
http://ngaochan.hi5.com/
http://www.oknation.net/blog/subaltern
http://gotoknow.org/migrantworkers

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Stella Awardคือรางวัลอะไร...แก้เครียด


ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.thaifreedompress.blogspot.com/
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.media4democracy.com/th/
http://www.youngtelecom.org/
http://www.logex.kmutt.ac.th/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm
http://www.isriya.com/node/2809/wordcamp-bangkok-2009-pool-party


>
>
>
> Stella Awards เป็นการจัดอันดับคดีที่ชนะมาได้อย่างไม่น่าเป็นไปได้ประจำปี
> ของประเทศสหรัฐอเมริกา
>
>
> ที่มาของ Stella Awards เริ่มมาจากคดีแรกที่คุณยาย Stella Liebeck อายุ 81 ปี
> วางถ้วยกาแฟ้ร้อนที่ซื้อมาจากแม็คโดนัล สาขานิวเม็กซิโก เปิดฝาแล้ววางหนีบไว้
> ที่หว่างขาระหว่างกำลังขับรถ โดนกาแฟลวกเข้า ไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายก้อนโต...
> ชนะซะงั้น ก็เลยเกิดการประกวดประชันความซื่อบื้องี่เง่าของเหล่านักกฏหมาย
> ทนายความ ผู้พิพากษา ลูกขุน...ออกแนวประชดๆ กัน
>
>
> มาดูกันว่า 7 อันดับ คดีประหลาดประจำปีนี้มีอะไรบ้าง
>
>
> อันดับ 7
> แคทลีน โรเบิร์ตสัน อยู่ที่ ออสติน เท็กซัส หกล้มหัวเข่าแตก
> ในร้านขายเฟอร์นิเจอร์เนื่องจากโดนเด็กคนหนึ่งวิ่งชนเอา
> ฟ้องจ้าของร้านเรียกค่าเสียหาย 80,000 เหรียญ
> เด็กคนที่ว่านี้เป็นลูกชายของเธอเอง!!! ยุติธรรมเกินไปหรือเปล่า
>
>
> อันดับ 6
> คาร์ล ทรูแมน อายุ 19 อยู่ที่ ลอล แองเจลีส
> พยายามขโมยฝาครอบล้อรถ ฮอนดา แอ็คคอร์ดของเพื่อนบ้าน
> ก้มลงไปแกะไม่ทันดูว่าเจ้าของรถเค้าอยู่บนรถ ล้อรถทับมือเข้า
> ฟ้องเจ้าของรถ งานนี้ได้ไป 74,000 เหรียญ ไม่รวมค่ารักษา
>
>
>
> อันดับ 5
> เทอเรนซ์ ดิกสัน เมืองบริสตอล เข้าไปโขมยทรัพย์สินในบ้านหลังหนึ่ง
> แล้วออกทางโรงเก็บรถที่มีประตูอัตโนมัติ แต่กลไกมันเสียอยู่พอดี
> พยายามเปิดยังไงก็ไม่ได้ จะย้อนเข้าบ้านประตูบ้านก็ล็อกไปแล้วเหมือนกัน
> บังเอิญเจ้าของไม่ได้กลับบ้าน 8 วัน ดิกสันต้องกินอาหารหมากับเป๊บซี่ที่อยู่ในโรงรถ
> พอออกมาได้ ฟ้องร้องค่าเสียหายเอากับบ.ประกันของเจ้าของบ้าน
> ผู้พิพากษาคงคิดว่าน่าสงสารจัง สั่งจ่ายไป ห้าแสนเหรียญ ค่ะ
>
>
> อันดับ 4
> ที่ อาร์คันซอร์ เจอรี่ วิลเลียม ปีนเข้าไปในเขตบ้านเค้า เอาหนังสติ๊กไปยิงหมาที่เค้าล่ามโซ่อยู่
> โดนมันกัดก้นเอาเข้า มีหน้าไปฟ้องร้องเรียกค่าทำขวัญกะค่ายาจากเจ้าของหมาอีก
> ได้ไป 14,500 เหรียญ นี่ถ้าไม่ไปยิงหมาให้มันโมโหก่อน ผู้พิพากษาบอกว่าจะได้มากกว่านี้
>
>
> อันดับ 3
> รายนี้เป็นสาวชื่อ แอมเบอร์ คาร์สัน ทะเลาะกะแฟนในร้านอาหารที่ฟิลาเดนเฟีย
> เอาเครื่องดื่มสาดหน้าแฟนแล้วเดินสะบัดจากมา ลื่นล้มน้ำที่เปียกอยู่บนพื้นซะเอง ก้นกบแตก
> เจ้าของร้านเป็นฝ่ายจ่ายค่าเสียหายให้ " หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นสามพันห้าร้อยเหรียญ " อย่างงงๆ ว่า
> มันเกี่ยวไรกะต ู เนี่ย! ?!
>
>
> อันดับ 2
> รายนี้ไม่ค่อยเข้าใจค่ะ คารา วัลตัน ดูเหมือนว่าหลีกเลี่ยงการเข้าห้องน้ำทางระตู
> ของไนท์คลับแห่งหนึ่งเพราะไม่อยากเสียตังค์ 3.5 เหรียญ เธอมุดเข้าทางหน้าต่าง
> หน้าคะมำฟันหน้าหักไปสองซี่ หน้าไม่อายฟ้องไนท์คลับค่าเสียสวย ได้ไป 12,000 เหรียญ
>
>
> อันดับ 1
> ซื่อบื้อสมศักดิ์ศรีรางวัลผู้ชนะมากมายค่ะ
>
>
> นางอะไรเนี่ย ชื่อเหมือนรัซเซียเลย Mrs. Merv Grazinsk อยู่โอกลาโฮมา
> ไปซื้อรถบ้านยี่ห้อ Winnebago รถที่เป็นบ้านด้วยน่ะค่ะ ยาวตั้ง 32 ฟุต
> ไปดูฟุตบอลเสร็จก็ขับไปตามถนนหลว ง เพื่อจะกลับบ้าน เกิดหิวขึ้นมา
> ก็เลยตั้งให้รถเป็นแบบขับความเร็วคงที่ 70 ไมล์ ต่อชั่วโมง ( cruise control)
> แล้วก็เดินไปทำแซนวิซกิน เหมือนปกติที่บ้านมั้ง คิดได้ไงเนี่ย
> รถก็ตกถนนสิ พลิกคว่ำพลิกหงาย
> เป็นความ โชคร้าย ของบ.ขายรถ เธอไม่ยักเป็นไร
> แต่ ลุกขึ้นมาฟ้องบริษัทรถ Winnebago
>
>
> ฟ้องว่า.....ฟ้องว่า... ทายซิฟ้องว่าอะไร
>
>
> ทำไม่ไม่ระบุไว้ในคู่มือว่า ไม่ควรละจากที่นั่งคนขับในขณะตั้งความเร็วอัตโนมัติไว้
> ชนะคดีได้ 1,750,000 เหรียญ แถมได้ รถคันใหม่ ชดเชยมาอีกคัน
> งานนี้บริษัทต้องรีบแก้ไขคู่มือเลย
> เพราะเกรงว่าจะมีญาติของคุณนายสติปัญญาใกล้เคียงกันจะตามมาซื้ออีกคัน
>
>
>
>


Windows Live Hotmail gives you a free,exclusive gift. Click here to download.

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2552

: == NECTEC เชิญสมัครรับทุนฝึกอบรม... "Training Program on Instructors for ITEE in Thailand [THITEE]


ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.thaifreedompress.blogspot.com/
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.media4democracy.com/th/
http://www.youngtelecom.org/
http://www.logex.kmutt.ac.th/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm
http://www.isriya.com/node/2809/wordcamp-bangkok-2009-pool-party



 
จาก: - Scholarship from NECTEC Academy - <pornprom.ateetanan@nectec.or.th>
วันที่: ธันวาคม 10, 2009 9:31 ก่อนเที่ยง
หัวเรื่อง: == NECTEC เชิญสมัครรับทุนฝึกอบรม... "Training Program on Instructors for ITEE in Thailand [THITEE]
ถึง:



เรียน ผู้บริหาร และบุคลากรไอซีที ทุกท่านครับ

NECTEC Academy  ขอเรียนเชิญ บุึคลากรไอซีที  สมัครรับทุน  “Training Program on Instructors for ITEE in Thailand [THITEE]” 
รายละเอียด ด้านล่างนี้ครับ หรือ 
http://www.nectecacademy.com/index.php?option=com_content&view=article&id=353:free-thitee&catid=3:2009-05-07-05-24-24&Itemid=16

หรือ  http://www.nectecacademy.com/index.php

เพื่อโปรดพิจารณาสมัครขอรับทุน หรือ โปรดแนะนำไปยังเครือข่ายของท่าน จักขอบคุณยิ่ง ครับ

ขอแสดงความนับถือ

ว่าที่ ร.ต. พรพรหม อธีตนันท์
นักวิชาการและหัวหน้างานพัฒนาธุรกิจ
สถาบันฝึกอบรมเนคเทค (NECTEC Academy)

เลขานุการ คณะทำงานคัดเลือกทุนฝึกอบรมฯ




-------- Original Message --------
Subject: NECTEC ข่าวประชาสัมพันธ์ทุนฝึกอบรม...ฟรี!!!
Date: Wed, 9 Dec 2009 20:26:14 +0700
From: Chaweewan <chaweewan.tantikaewprayoth@nectec.or.th>
CC: '

เรื่อง      ประชาสัมพันธ์ข่าวทุนฝึกอบรม...ฟรี  11 วัน


NECTEC และ AOTS ประเทศญี่ปุ่น เชิญชวนบุคลากรในแวดวงการศึกษาด้านไอที สมัครรับทุนอบรมโครงการ “Training Program on Instructors for ITEE in Thailand [THITEE]” เพื่อสร้างวิทยากรที่มีทักษะ ความสามารถ ด้านการสอน การอบรมและการวางแผนหลักสูตรในโครงการสอบมาตรฐานวิชาชีพไอที (ITPE) เปิดประตูสู่อาชีพการอบรมในแวดวงไอที สิทธิพิเศษในการเข้าอบรม ดูงาน ในประเทศญี่ปุ่น และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ผู้สมัครไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ตลอดหลักสูตรอบรม

ผู้สนใจสามารถ Download ใบสมัครและรายละเอียดได้ที่ http://www.nectecacademy.com

เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ถึง 23 ธ.ค. 2552 สมัครด่วน... 25 ท่าน  เท่านั้นค่ะ

***วันหยุด/นอกเวลาทำการ ก็โทรสอบถามได้นะคะ  ยินดีอย่างยิ่งค่ะ

ด้วยความเคารพอย่างสูง

ขอบคุณมากค่ะ

น.ส.ฉวีวรรณ  ตันติแก้วประโยชน์
โครงการสอบมาตรฐานวิชาชีพไอที ITPE
สถาบันฝึกอบรมเนคเทค NECTEC Academy
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ NECTEC
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ NSTDA
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี MOST  539/2 อาคารมหานครยิบซั่ม ชั้น 21-22
ถนนศรีอยุธยา เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทรศัพท์ +66 (0)-2-642-5001-8 ต่อ 123,125
มือถือ 081-9175511
โทรสาร +66 (0)-2-642-5014
Web Site: www.nectecacademy.com
Twitter: www.twitter.com/nectecacademy

 


 

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

กมธ.สื่อสารโทรคมนาคม สผ. ร่วมประชุมกับกทช.เรื่องโทรศัพท์ 3 จี

 

 

 

 

กมธ.สื่อสารโทรคมนาคม สผ. ร่วมประชุมกับกทช.เรื่องโทรศัพท์ 3 จี

13 พ.ย. 52               ประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสารและโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร เผย ทราบข้อมูลและความชัดเจนมากขึ้นในเรื่องของเปิดประมูลคลื่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จี หลังจากเดินทางไปร่วมประชุมกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เชื่อ รัฐบาลน่าจะให้ความสำคัญและรีบเดินหน้าดำเนินการ

                นายคงกฤช  หงส์วิไล ประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสารและโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง การไปร่วมประชุมกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)ว่า กมธ.ได้ซักถามความคืบหน้าเกี่ยวกับแนวทางการเปิดประมูลคลื่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G ทำให้ทราบข้อมูลและความชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้  กมธ.ได้เชิญประธานกทช. มาร่วมประชุม แต่ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร เพราะกทช.ส่งเพียงตัวแทนเข้าร่วมประชุม ซึ่งไม่สามารถให้ข้อมูลในบางประเด็นได้ อีกทั้งไม่มีอำนาจตัดสินใจ นอกจากนี้ยังมีความคลุมเครือในเรื่องการจัดทำ TOR ที่ยังขาดความชัดเจนในรายละเอียด การที่กมธ.เดินทางไปร่วมประชุมกับกทช.จึงทำให้ทราบข้อมูลในประเด็นข้อสงสัยในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ เห็นว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G มีความสำคัญมาก ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวและรีบดำเนินการ เนื่องจาก ขณะนี้ประเทศอื่นมีความก้าวหน้าเรื่อง 3 จีไปมากแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                                                                                                                                อัญชิสา  จ่าภา         ผู้สื่อข่าว

                                                                                                                มันทนา  ศรีเพ็ญประภา          เรียบเรียง



--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
kb
http://www.healthstation.in.th/index1.html
http://camp02.blogspot.com/ camp02
http://kb1951.blogspot.com/ tkpark
http://kbparks.blogspot.com/ tkpark9
http://word1951.blogspot.com/ wordpress
http://www.baanjomyut.com/library/lotus
http://www.pwdom.com
http://weblogcamp2009.blogspot.com/2009
http://www.twitter.com/kajorn
http://www.twitter.com/BKKFlashCamp
http://camp02.readyhomepage.com
http://www.twitter.com/sun1951
http://www.twitter.com/joomlacorner
http://sun1951.vaivaitraining.com
http://sun1951.wordpress.com
http://www.educationatclick.com/th/
http://gotoknow.org/blog/krunoppol/
http://baankruaeed.wordpress.com/
http://ngaochan.hi5.com/
http://www.oknation.net/blog/subaltern
http://gotoknow.org/migrantworkers

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เลนส์(แปล) ภาษาพูด

วันที่ 05 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11562 มติชนรายวัน


เลนส์(แปล) ภาษาพูด


คอลัมน์ จูนคลื่น

by waisang@matichon.co.th




"ฉัน เห็นในสิ่งที่คุณพูด" (I see what you"re saying) .... ไม่ใช่เรื่องแปลก หากคนต่างซีกโลก แต่สามารถพูดคุยกันรู้เรื่อง โดยไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นตัวเชื่อม โลกที่ใกล้จักรวาล ชนิดมองเห็นและดูเหมือนเอื้อมมือจับต้องได้ ทำให้เอ็นอีซี (NEC) มองเห็นความต่างในการลดช่องว่างการสื่อสารด้วย "Tele Scouter" อุปกรณ์คล้ายเลนส์ (แว่นตา) ที่จะมาช่วยแปลภาษาต่างๆ ที่โปรแกรมตั้งค่าไว้ ให้เราเข้าใจได้ชนิดคำต่อคำ (แม้จะยังไม่สมบูรณ์แบบก็ตามที) โดยไม่ต้องเปิดพจนานุกรมหาคำ หาประโยคคุยกันให้รู้เรื่อง จะไม่ใช่ปัญหาอีกแล้ว เฉกเช่นซีรีส์ หรือหนังดัง Star Trek อีกต่อไป

เอ็น อีซีพัฒนา "Tele Scouter" เป็นอุปกรณ์เหมือนกรอบแว่น ประกอบด้วย รีตินอล (retinal) ที่ติดกล้องและไมโครโฟน ทำหน้าที่ส่งเสียงการสนทนาไปยังคอมพิวเตอร์แบบพกพา เสียบไว้ที่เอวของผู้ใช้ ทำหน้าที่เปลี่ยนเสียง ส่งเป็นข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล รับหน้าที่ประมวลผลการแปลงเสียงพูด ให้ออกมาเป็นข้อความที่แปลแล้วส่งกลับไปยังเครื่อง ชงเป็นเสียงพูดหรือตัวหนังสือ ผ่านไปยังรีตินอล

ความจริงเอ็นอีซี ตั้งใจทำอุปกรณ์ดังกล่าว บันทึกข้อมูลการซ่อม หรือติดตั้งฮาร์ดแวร์ให้กับวิศวกร โปรแกรมเมอร์ และผู้เชี่ยวชาญในขณะทำงาน โดยหวังส่ง ระบบ Tele Scouter ใช้ได้ในปี 2010


หน้า 26

http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01epe03051152&sectionid=0147&day=2009-11-05

วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ผู้สูงวัยกับความหวังริบหรี่ การเข้าถึงคอมพิวเตอร์-อินเตอร์เน็ต

วันที่ 04 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11561 มติชนรายวัน


ผู้สูงวัยกับความหวังริบหรี่ การเข้าถึงคอมพิวเตอร์-อินเตอร์เน็ต





แนว ทางการเข้าถึงผู้สูงวัยที่ยังเข้าไม่ถึงคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตยัง ริบหรี่ เพราะโครงข่ายเชื่อมต่อเข้ายังมีราคาสูงและไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะในต่างจังหวัด เรียกได้ว่าแทบไม่มีโอกาส แม้ภาครัฐมีแผนงานด้านการวางโครงข่ายโทรคมนาคมเพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และการฝึกอบรมผู้สูงวัยสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ แต่ดูเหมือนยังน้อยมาก มีผู้สูงวัยประมาณร้อยละ 0.0028 ที่ได้รับการฝึกอบรม เมื่อเทียบกับประชากรผู้สูงวัยที่มีอยู่กว่า 7.2 ล้านคนทั่วประเทศ

จาก เวทีประชุมวิชาการ "แนวทางสู่การเข้าถึงผู้สูงวัยที่ยังเข้าไม่ถึงคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ICT for All Symposium on "Reach The Unreached And Bridge The Digital Divide for Elderly People" จัดโดยชมรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อความเท่าเทียมกัน (ICT for All Club) เมื่อเร็วๆ นี้ มีเสียงสะท้อนกรณีดังกล่าว ....

พญ.ดวง มณี วิเศษกุล วัย 83 ปี ระบุว่า ผู้สูงวัยที่เข้าไม่ถึงคอมพิวเตอร์-อินเตอร์เน็ตที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 13 ตุลาคม 2552 มีจำนวนมากที่โทรศัพท์มาสอบถามว่าชมรม ICT for All จะจัดฝึกอบรมคอมพิวเตอร์ให้ผู้สูงวัยใช่หรือไม่ พอทราบว่าเป็นการประชุมได้แสดงความรู้สึกผิดหวัง เพราะท่านเหล่านั้นต้องการที่จะลงมือปฏิบัติจริง มากกว่ามานั่งฟังภาคทฤษฎี

ในหลายประเทศที่ (กำลัง) ก้าวสู่ สังคมผู้สูงอายุ ได้วางนโยบายสำคัญ เพื่อดูแลผู้สูงอายุ ส่งเสริมการให้บริการด้านการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อันมีส่วนลดโรคสมองเสื่อม ภาวะโรคซึมเศร้า



ประเทศ ไทยดูเหมือนการส่งเสริมการเรียนของผู้สูงวัย ด้านคอมพิวเตอร์-อินเตอร์เน็ต ยังห่างไกลกับความต้องการของผู้สูงวัยอย่างมาก แม้รัฐบาลจะเห็นชอบแผนแม่บทไอซีที ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2552-2556) โดยกำหนดให้หนึ่งในยุทธศาสตร์หลักของแผนแม่บทฯ คือ การพัฒนากำลังคนด้านไอซีที และบุคคลทั่วไปให้มีความสามารถในการสร้างสรรค์ ผลิต และใช้สารสนเทศอย่างมีวิจารณญาณและรู้เท่าทัน ภายใต้มาตรการพัฒนาการเรียนรู้ไอซีทีแก่ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ และผู้สูงอายุ โดยสร้างความร่วมมือกับสภาผู้สูงอายุฯ ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วประเทศ ในการจัดทำหลักสูตร จัดอบรมความรู้ไอซีทีแก่ผู้สูงอายุที่สนใจ อาจใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ

แต่ดูเหมือนแผนปฏิบัติการ (Action plan) ที่จะไปสู่เป้าหมายดังกล่าวยังเลือนลาง

การ ประชุมทางวิชาการครั้งนี้ ศ.ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน บรรยายพิเศษ เรื่อง "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงเป็นแรงบันดาลใจในการใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตเพื่อพัฒนา คุณภาพชีวิตผู้สูงวัย" และบรรยายพิเศษ เรื่อง "การพัฒนาสังคมแห่งความเท่าเทียมกันด้วยไอซีทีสำหรับผู้สูงวัย" โดย คุณสมศรี หอมกันยา ผู้แทนกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการนำเสนอบทความทางวิชาการในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาความ เหลื่อมล้ำทางดิจิตอลในประชากรผู้สูงวัย โดยนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ที่ปฏิบัติงานด้านการสอนคอมพิวเตอร์แก่ผู้สูงวัย จากนั้นเปิดเวทีให้กับผู้เข้าประชุมอภิปราย แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ "แนวทางสู่การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยี สารสนเทศและความรู้ในประชากรผู้สูงวัย และการข้อเสนอแนะในการจัดทำนโยบายสาธารณะด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต การเรียนรู้ของผู้สูงอายุด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ"



ผล จากการประชุมครั้งนี้ แม้ยังไม่เห็นแนวทางชัดเจนในการช่วยให้ผู้สูงวัยสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ -อินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะผู้สูงวัยในต่างจังหวัดแทบจะเป็นไปไม่ได้ หรือเป็นศูนย์ แต่หลายคนต่างได้ระดมความคิดความเห็นนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทาง ดิจิตอลในประชากรผู้สูงวัย สาระมีดังนี้

1.กระทรวงไอซีที ควรขยายจำนวนศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนเพิ่มมากขึ้นทั่วประเทศ ดูแลศูนย์ให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มเป้าหมายจัดฝึกอบรมคอมพิวเตอร์-อินเตอร์เน็ตให้กับผู้สูงวัย ในปี 2553 ให้มากกว่า 200 คน เพราะตัวเลขนี้ น้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนผู้สูงวัยที่ต้องการเรียนรู้ทั่วประเทศ

2.การ ฝึกอบรมอาสาสมัครไอซีทีชุมชน หมู่บ้านทั่วประเทศ เพื่อออกไปช่วยสอนหรือแนะนำการใช้คอมพิวเตอร์-อินเตอร์เน็ตให้กับผู้สูงอายุ มีการริเริ่มดำเนินการบ้างแล้ว

3.ส่งเสริมให้ลูกหลานช่วยสอน คอมพิวเตอร์ให้ผู้สูงวัยในครอบครัว เป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายต่ำที่สุดและมีความยั่งยืน สร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างกันในครอบครัว แต่ปัญหาที่พบคือลูกหลานมักมองว่าผู้สูงวัยไม่มีความจำเป็นต้องรู้เรื่อง คอมพิวเตอร์-อินเตอร์เน็ต ซึ่งทุกฝ่ายจะได้ร่วมมือกันประชาสัมพันธ์เรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง

4.ผู้ สูงวัยที่มีรายได้พอจ่ายค่าฝึกอบรมคอมพิวเตอร์ได้ ราวหลักสูตรละ 2,500-3,500 บาท สามารถรับการฝึกอบรมกับสถาบัน หน่วยงานจัดฝึกอบรมเป็นการเฉพาะได้

5.การจัดตั้งมูลนิธิ องค์กรเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากต่างประเทศ เพื่อมาพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงวัยด้วยคอมพิวเตอร์-อินเตอร์เน็ต

6.การออกค่ายหรือจัดฝึกอบรมคอมพิวเตอร์โดยนักศึกษา ให้ผู้สูงวัยของสถาบันการศึกษาในช่วงปิดภาคเรียน

7.การ จัดวางโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตราคาถูกให้ครอบคลุมทั่ว ประเทศ ฝากความหวังไว้กับเทคโนโลยี 3จี และไว-แม็กซ์ (Wi-Max) น่าจะช่วยขจัดความเหลื่อมล้ำทางดิจิตอลได้

8.การจัดทำรถอินเตอร์เน็ต เคลื่อนที่ ไปตามแหล่งชุมชนในต่างจังหวัด อย่างน้อยน่าจะช่วยให้ผู้สูงวัยรับรู้ถึงเทคโนโลยีและประโยชน์ของ คอมพิวเตอร์-อินเตอร์เน็ต

9.การดำเนินงานโครงการอินเตอร์เน็ตตำบลดู เหมือนลงทุนสูญเปล่า เพราะประชาชนยังเข้าไม่ถึง ใช้ประโยชน์ไม่ได้เลย ภาครัฐควรมีการทบทวนและปรับปรุงให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากกว่าที่เป็น อยู่

10.รัฐควรจัดบริการอินเตอร์เน็ตแบบให้เปล่า หรือมีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม เช่นเดียวกับกรณีของไฟฟ้า ประปา

แม้ ว่าความเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ เหล่านี้ จะมีทั้งที่น่าจะเป็นไปได้และยากที่จะเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ แต่อย่างน้อยก็เป็นแนวทางที่จะก้าวต่อไปเพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทาง ดิจิตอลที่มาพร้อมกับยุคสารสนเทศ (Information age) อันเป็นปัญหาที่มีความสำคัญและยิ่งใหญ่ไม่ต่างกับปัญหาความยากจนเลยทีเดียว


หน้า 26
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01epe01041152&sectionid=0147&day=2009-11-04

--
Web link
http://www.edtguide.com/SuanplooThaiMassage_486629
http://www.victam.com
http://weblogcamp2009.blogspot.com
http://www.niwatkongpien.com
http://sundara21.blogspot.com
http://www.educationatclick.com
http://www.pwdom.com/v1/
http://cloudbookclub.blogspot.com
http://blogok09.blogspot.com
http://thairaptorgroup.com/TRG/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2049
http://www.ias.chula.ac.th/Thai/modules.php?name=NuCalendar

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

SME wants to keep up with you on Twitter

SME wants to keep up with you on Twitter

To find out more about Twitter visit http://twitter.com/i/85d9de311ddfe0e5122f4edfe8446667c4a3f85e

Thanks,
— The Twitter Team

About Twitter

Twitter is for discovering and sharing what's happening right now through the timely exchange of short, public messages. Since its inception in 2007, this open exchange of information has transformed Twitter from a simple social utility to a new kind of communication with the potential for positive global impact. Individuals and organizations alike are encouraged to try Twitter for a variety of uses ranging from social to commercial.

This message was sent by a Twitter user who entered your email address. If you'd prefer not to receive emails when other people invite you to Twitter you can opt-out

Please do not reply to this message; it was sent from an unmonitored email address. This message is a service email related to your use of Twitter. For general inquiries or to request support with your Twitter account, please visit us at Twitter Support.

วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2552

[netizen] ขอหารือเรื่อง QOS ของบริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย



 

จาก: Kan Yuenyong <sikkha@gmail.com>
วันที่: ตุลาคม 31, 2009 2:07 หลังเที่ยง
หัวเรื่อง: [netizen] ขอหารือเรื่อง QOS ของบริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
ถึง: thainetizen@googlegroups.com, Sugree Phatanapherom <sugree@gmail.com>


เรียนทุกท่าน

วันนี้มี discuss กันใน twitter เกี่ยวกับปัญหาเรื่อง QOS ของอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ที่เข้าใจว่ามี speed ช้าลงมาก (แบบเห็นได้ชัด)

ข้อสันนิษฐานสองข้อคือ

1. ปัญหาเรื่อง ความคับคั่งของ traffic จากท่อทั้งในประเทศ (domestic bandwidth) และระหว่างประเทศ (international bandwidth)
2. ปัญหาเรื่องการ surveillance ของ isp (ซึ่งอาจได้รับนโยบายจาก ไม่ กทช. ก็ กสท หรือ ไอซีที)

ข้อสังเกตเบื้องต้น

1. domestic bandwidth มีต้นทุนถูกมาก (เท่าที่ผมทราบมา) isp ไม่น่ามีปัญหาในส่วนนี้มากเท่ากับ international bandwidth ซึ่งโครงสร้างตรงนี้อยู่ภายใต้การผูกขาดของ กสท. (เป็นอีกประเด็นหนึ่ง)
2. คุณ sugree ได้ให้ข้อสังเกตมาว่า "true ใช้ ironport คงไม่ได้เอามาเป็น cache ละมั๊ง isp หลายเจ้ามันแก้ header กันแบบเกือบจำของเก่าไม่ได้ด้วยนะ" และ "connection reset by peer ถี่มาก"

ปัญหา QOS กระทบกับความพึงพอใจ และข้อสัญญาต่อลูกค้าของ ISP โดยรวมไม่ว่าจะเป็น ลูกค้ารายบุคคล หรือลูกค้าธุรกิจ


 เฉพาะหน้า ผมคิดว่า เราน่าจะมีการระดมความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ และ take action ยื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ (กทช/กสท/ICT) เพื่ออย่างน้อย ประกาศมาตรการที่โปร่งใสเกี่ยวกับการทำ surveillance technic และผลกระทบต่อ QOS ของการบริการที่มีผลกระทบกับ ISP ทุกราย ไม่ใช่แอบมุบมิบทำกัน

ถ้าใครมีข้อสังเกต หรือคำแนะนำใดเพิ่มเติม แจ้งเข้ามาหรืออยากให้ช่วยกันแสดงความเห็นได้เลยครับ

ด้วยความนับถือ
กานต์ ยืนยง

--
Siam Intelligence Unit :
http://www.siamintelligence.com

--~--~---------~--~----~------------~-------~--~----~
Thai Netizen Network
http://thainetizen.org/

----
u rcvd diz msg bcoz u r sbscbd 2 d "Thai Netizen Network" grp.
post, email thainetizen@googlegroups.com
leave, email thainetizen+unsubscribe@googlegroups.com
info, http://groups.google.com/group/thainetizen
-~----------~----~----~----~------~----~------~--~---




--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
chun
http://tham-manamai.blogspot.com /sundara        
http://dbd-52hi5com.blogspot.com/ dbd_52
http://thammanamai.blogspot.com/ อายุวัฒนา
http://sunsangfun.blogspot.com/ suntu
http://originality9.blogspot.com/ originality
http://wisdom1951.blogspot.com/ wisdom

วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2552

กระชับสัมพันธ์ ไทย-ภูฏาน ร่วมมือด้านอิเล็กทรอนิกส์คอมพิวเตอร์

วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11554 มติชนรายวัน


กระชับสัมพันธ์ ไทย-ภูฏาน ร่วมมือด้านอิเล็กทรอนิกส์คอมพิวเตอร์


โดย ชมพูนุท นำภา



ระหว่าง ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กำลังมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังกับการพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศให้ก้าวทันโลกอยู่ นั้น ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะยื่นมือออกไปช่วยเหลือเกื้อกูลมิตรประเทศด้วยการ แบ่งปันความรู้เพื่อเป็นการก้าวเดินไปพร้อมๆ กันด้วย

ล่าสุดกลาง เดือนกันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากกระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี นำโดย *คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช* รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้เดินทางไปยังราชอาณาจักรภูฏาน ร่วมประชุมกับกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสาร ของภูฏาน เรื่องความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ ครั้งที่ 3

*ภูฏาน* ชื่อประเทศมีความหมายว่า ดินแดนของมังกรสายฟ้า ปกครองโดยกษัตริย์ที่ยึดเอาความสุขมวลประชาชาติ (GNH-Gross National Happiness) เป็นตัวตั้ง เป็นอีกหนึ่งประเทศในเอเชียใต้ที่ยังรักษาธรรมชาติ และวัฒนธรรมท้องถิ่นของตนเองไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ที่เห็นได้ชัดคือการนับถือศาสนาพุทธ นิกายมหายาน การแต่งกายด้วยชุดประจำชาติ และยังใช้ภาษาซองคาซึ่งเป็นภาษาประจำชาติในการพูดคุย แม้จะมีภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการอีกหนึ่งภาษาก็ตาม

แต่ในยุคโลกา ภิวัตน์ที่กระแสวัฒนธรรมตะวันตกไหลบ่าอย่างที่ไม่รู้ว่าจะยับยั้งได้หรือไม่ นั้น รัฐบาลภูฏานจึงเกรงว่าวันหนึ่งภาษาซองคาจะเลือนหายไป หากไม่มีการอนุรักษ์ไว้แต่เนิ่นๆ

จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกัน ระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเน็กเท็ก กับกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสาร ของภูฏาน ในการนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยเก็บรักษาภาษาประจำชาติเอาไว้

*พันธ์ ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์* ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือเน็กเท็ก อธิบายว่า ความร่วมมือกับภูฏานด้านเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ เกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสารของภูฏานไปพบกับนายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในขณะนั้น เพื่อขอความร่วมมือระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์ไทยกับภูฏาน โดยอยากให้ไทยเข้าไปช่วยเกี่ยวกับไอซีที โดยเฉพาะเรื่องงานวิจัยและองค์ความรู้ต่างๆ จึงตกลงและตั้งเป็นคณะทำงานขึ้นมา โดยมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2551-2553 และจากการประชุมร่วมกันได้ข้อตกลงว่าไทยจะช่วยเหลือเรื่องการใช้เทคโนโลยีมา จัดเก็บภาษาซองคา ภาษาประจำชาติภูฏาน ด้วย Text-to-Speech และ Optical Character Recognition หรือ OCR

(บน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำโดยคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ประชุมร่วมกับ เลียนโป นันดาลาลไร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสาร และคณะราชอาณาจักรภูฏาน (ซ้ายล่าง) ชาวภูฏานเดินภาวนาตามวิถีชาวพุทธนิกายมหายาน (ขวาล่าง) คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช และคณะเยี่ยมชมตำรายาสมุนไพรเก่าแก่เป็นภาษาซองคา



พันธ์ ศักดิ์ อธิบายหลักการของโอซีอาร์ว่า หากเราจะจัดเก็บข้อมูลที่เป็นเอกสารเก่าๆ หากนำมาพิมพ์จะใช้เวลานานมาก แต่ถ้าเรานำไปสแกนแล้วนำไปให้คอมพิวเตอร์อ่านตัวหนังสือจากภาพถ่ายแล้ว แปลงออกมาเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ได้ แล้วค่อยนำมาปรับแก้อีกเล็กน้อยก็สามารถจัดเก็บได้ทันที ซ้ำยังใช้พื้นที่ในการจัดเก็บน้อยกว่าภาพถ่ายด้วย

"ที่ภูฏานโอซี อาร์ยังมีปัญหาอยู่ เนื่องจากว่าตัวอักขระของภูฏาน มันมีความซับซ้อนกว่าภาษาไทยเยอะ ในขณะที่ภาษาไทยมี 3 ชั้น แต่ภูฏานคำของเขาเขียนกันถึง 6 ชั้น บางคำยังเอาชั้นมาต่อกันอีก กลายเป็นตัวใหม่ไปเลย ทีนี้เครื่องคอมพิวเตอร์เขายังไม่สามารถจะแบ่งเป็นตัวอักขระได้ขนาดนั้น ก็เลยต้องมาช่วยกันคิดว่าจะสามารถเขียนโปรแกรมอะไรให้รองรับตรงนี้ได้"

ส่วน Text-to-Speech ปัจจุบันนี้ผลก้าวหน้าไปกว่า 70% แล้ว ลักษณะการทำงานคือ นำภาษาซองคาใส่เครื่องคอมพิวเตอร์ไป แล้วคอมพิวเตอร์สามารถอ่านออกมาเป็นภาษาคนพูดได้

"เราจะให้เฉพาะ วิธีการ แต่นักวิจัยภูฏานต้องไปทำรายละเอียดเอง เช่น การจัดเก็บประโยค การจัดเก็บคำ หรือว่าการที่คอมพิวเตอร์จะพูดให้ดีอย่างไรนั้นเขาต้องทำเอง ช่วงระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมาทำอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันนี้นักวิจัยภูฏานที่ฝึกกับเราเขาก็สามารถที่จะเขียนโปรแกรมให้ เครื่องคอมพิวเตอร์มันออกเสียงภาษาภูฏานได้แล้ว แต่ว่ายังเป็นห้วงๆ เป็นคำๆ อยู่ ยังไม่ชัดเจน ฟังต่อเนื่องก็จริง แต่ยังไม่เหมือนเสียงคนพูด ก็คิดว่าเราคงจะพัฒนาตรงนี้ต่อ" พันธ์ศักดิ์กล่าว

เลียนโป นันดาลาลไร


สำหรับ การประชุมครั้งล่าสุดนี้ หน้าที่ของพี่เลี้ยงอย่างเน็กเท็กที่จะต้องทำต่อคือ 1.ทำให้โอซีอาร์มีความฉลาดมากขึ้น และ 2.การทำ Text-to-speech ให้พูดภาษาภูฏานได้เนียนขึ้น

พันธ์ศักดิ์บอกอีกว่า นอกเหนือจากทั้งสองเรื่องแล้วยังมีการคุยเรื่องการพัฒนาให้คอมพิวเตอร์เข้า ใจภาษาต่างๆ อย่างอัตโนมัติ หรือ Speech to speech Translation (STS) เช่น เมื่อเราพูดใส่คอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ก็จะประมวลผลมาเป็นตัวอักษรของภาษานั้น แล้วคอมพิวเตอร์ก็สามารถเอาตัวอักษรภาษานั้นไปแปลงเป็นคำพูดอีกทีหนึ่ง

"ยก ตัวอย่าง ถ้าพูดด้วยภาษาซองคา คอมพิวเตอร์ก็จะแปลงเป็นตัวอักษรซองคา จากตัวอักษรซองคาก็สามารถนำไปแปลงเป็นภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาสากลได้ ทีนี้ประเทศไทยซึ่งมีภาษาอังกฤษอยู่แล้ว เราก็อาจจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นตัวกลาง จึงอาจเป็นไปได้ว่าเราพูดกับคอมพิวเตอร์ฝั่งหนึ่งเป็นภาษาไทยก็จะแปลงเป็น ภาษาซองคาได้ นี่คือความท้าทาย

ตอนนี้เน็กเท็กเราก็จะมีความร่วม มือกับ 9 ชาติในอาเซียน ซึ่งเราก็จะชวนภูฏานด้วย แล้วในอนาคตอาจเป็นไปได้ว่า คนในอาเซียนทั้ง 9 ชาติ จะติดต่อกันได้โดยการพูดภาษาของตัวเอง ข้อดีคือแต่ละชาติจะยังสามารถรักษาภาษาตัวเองไว้ได้ เรื่องนี้เป็นความท้าทายที่กลุ่มเอเชียอยากจะทำ ตั้งใจว่าอีก 3-4 ปี น่าจะสมบูรณ์"

พันธ์ศักดิ์บอกอีกว่า นอกเหนือจากงานที่ทำร่วมกันแล้ว สิ่งที่ได้มาอย่างชัดเจน คือ เป็นการเสริมสร้างสัมพันธไมตรีระหว่างสองประเทศ จะเห็นว่าคนภูฏานส่วนใหญ่ค่อนข้างชอบเมืองไทย หลายคนเคยไปกรุงเทพฯอย่างน้อย 1 ครั้ง นอกจากนั้นภูฏานยังมองประเทศไทยเป็นประตูที่จะเปิดไปสู่โลกภายนอกด้วย ทำให้ตอนนี้สินค้าในประเทศภูฏานที่นำเข้ามาจากไทยอยู่อันดับสองรองจาก อินเดียเท่านั้น และในอนาคตนี้ภูฏานกำลังขยายพัฒนาประเทศอีกมาก ดังนั้นการที่ประเทศไทยได้รับความเชื่อมั่นก็จะมีผลที่จะตามมาอีกมาก

ดัง ที่ *คุณหญิงกัลยา* ได้สรุปว่า การช่วยเหลือกันระหว่างสองประเทศนั้น เป็นการช่วยเหลือที่เป็นแบบประเทศพี่ช่วยประเทศน้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไทยกับภูฏานมีความคล้ายคลึงกันหลายด้านทั้งระบบกษัตริย์ และศาสนา อีกทั้งราชวงศ์ทั้งสองประเทศมีความใกล้ชิดอย่างมาก ฉะนั้นการเชื่อมต่อในด้านอื่นๆ ก็จะทำให้กระชับความสัมพันธ์มากขึ้น ซึ่งจะทำให้เขารู้จักคนไทย เชื่อมั่นคนไทย ศรัทธาคนไทย ว่าคนไทยมีความรู้ความสามารถที่จะเกื้อกูลกันได้ ทุกวันนี้คนภูฏานหันมาซื้อของจากเมืองไทย ทุกอาทิตย์จะมีนักธุรกิจของภูฏานไปซื้อของแล้วส่งกลับบ้านเป็นคอนเทนเนอร์ มากขึ้นเรื่อยๆ เขาพบว่าคุณภาพของสินค้าประเทศไทยได้มาตรฐาน ตอนนี้คนภูฏานก็ไปประเทศไทยค่อนข้างมาก รวมถึงข้าราชการก็ไปดูงานที่เมืองไทย

"สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ถ้าไม่ได้มีการเริ่มต้นก็จะไม่เกิดขึ้นแน่นอน"*คุณหญิงกัลยากล่าวอย่างเชื่อมั่น



เลียนโป นันดาลาลไร


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสาร ราชอาณาจักรภูฏาน

ปัญหา ที่ภูฏานประสบอยู่ในปัจจุบันนี้ คือการที่จะดูแลภาษาดั้งเดิม ดังนั้นจึงต้องการเทคโนโลยีที่จะนำมาช่วยอนุรักษ์ตรงนั้นเอาไว้ ซึ่งตอนนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นซึ่งต้องใช้เวลาต่อไป

และที่เลือก จะร่วมงานกับประเทศไทย เพราะว่าคนไทยมีความจริงใจ ซื่อสัตย์ รัฐบาลภูฏานจึงมั่นใจว่าการร่วมงานกับประเทศไทยจะสามารถทำตามสิ่งที่สัญญา กันไว้ได้

กับคำถามว่าจะใช้เทคโนโลยีให้สมดุลกับวัฒนธรรมดั้งเดิมได้อย่างไร???

เลียน โป นันดาลาลไร ยิ้มก่อนตอบว่า ต้องเรียนรู้จากประสบการณ์จากประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศไทยที่ยังอนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ได้ เหนือสิ่งอื่นใดคือเรื่องสถาบันกษัตริย์ที่เรามีเหมือนกัน จึงสามารถเรียนรู้แลกเปลี่ยนกันได้

"ผมชอบคนไทยที่สุภาพใจดี ไม่ค่อยเห็นคนไทยโกรธ แม้ว่าโกรธก็ยังจะยิ้ม" เลียนโปกล่าว


หน้า 20


--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
chun
http://tham-manamai.blogspot.com /sundara        
http://dbd-52hi5com.blogspot.com/ dbd_52
http://thammanamai.blogspot.com/ อายุวัฒนา
http://sunsangfun.blogspot.com/ suntu
http://originality9.blogspot.com/ originality
http://wisdom1951.blogspot.com/ wisdom

วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อภิศิลป์ ตรุงคกานนท์ แรงบันดาลใจจากทวิตเตอร์

อภิศิลป์ ตรุงคกานนท์ แรงบันดาลใจจากทวิตเตอร์


สมคิด เอนกทวีผล
 Positioning magazine   กันยายน 2552

อภิศิลป์ ตรุงคกานนท์ นักบรรยายและนักเขียนชื่อดังในโลกออนไลน์ เจ้าของหนังสือ “รวมฮิต Twitter” เล่มแรกของไทย จากการจับกระแสความดังของทวิตเตอร์จนสามารถแปรเปลี่ยนให้เป็นเงิน และเป็นเครื่องมือการตลาดได้ก่อนใคร

ด้วยอาชีพนักบรรยายให้ความรู้ตามบริษัทและหน่วยราชการต่างๆ เกี่ยวกับ “ออนไลน์ มาร์เก็ตติ้ง” ทำให้อภิศิลป์ต้องติดตามหาความรู้ เทรนด์ใหม่ๆ ในโลกออนไลน์ และเขาก็พบกับประโยชน์ “ความเรียบง่าย” ของ Twitter กับบริการส่งข้อความสั้นเพียงแค่ 140 ตัวอักษร คิดอะไร รู้สึกอะไร ก็พิมพ์ได้เลย ไม่ต้องใช้เวลาเหมือนกับเขียนบล็อก

“ผมรู้จัก Twitter ได้ปีกว่า จาก @sugree (ชื่อใน Twitter ของ สุกรี พัฒนภิรมย์) ซึ่งเป็นผู้ปลุกกระแส Twitter ในไทย ตอนนั้นมีคนไทยบน Twitter ไม่เยอะ มันเลยไม่ค่อยสนุก แต่ตอนหลังเริ่มมีเพื่อนเข้าไปเล่นกันเยอะขึ้น ความสนุกมันเลยอยู่ที่เรารู้ว่าใครกำลังทำอะไรอยู่ และได้นำเสนอสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ให้คนอื่นรู้ด้วย”
Twitter จึงกลายเป็นหนึ่งในหัวข้อที่เขาหยิบยกขึ้นมาบรรยากาศ และใช้เป็น “สื่อ” ให้คนภายนอกได้ติดตาม เช่น ถ่ายรูปในงานสัมมนาที่เขาเป็นวิทยากร อัพโหลดขึ้น Twitter ผ่าน TwitPic เสมือนรายงานสดทางทีวี แต่เป็นข้อความสั้นๆ ต่อกัน พร้อมภาพนิ่งที่คนอ่านติดตามอ่าน

“มันง่ายและรวดเร็ว ไม่ว่าจะใช้บนมือถือหรือจอคอมพิวเตอร์ที่ออฟฟิศ แน่นอนว่าสิ่งที่ผมได้รับก็คือ การสร้างแบรนด์ให้กับตัวเองไปด้วยในตัว”

อภิศิลป์ยังเป็นติดตามอ่านข้อมูลข่าวสาร จาก Tweet ของคนอื่นๆ อยู่ตลอด เช่นที่เขาถ่ายทอดตัวอย่างการติดตาม Tweet ของคนดัง

“อย่างใครจะรู้ว่าคุณกรณ์น้อยใจที่สื่อมวลชนไม่ค่อยให้ความสำคัญตอนที่ ไปบรรยายเรื่องโครงการไทยเข้มแข็งที่เชียงใหม่ แต่สื่อกลับสนใจแต่เรื่องคุณกรณ์ไปดูหมีแพนด้า คนจะรู้เรื่องแบบนี้ได้ก็ต้องเคยกด Following ตามอ่าน @KornDemocrat เท่านั้น”

“Twitter ทำให้รู้สึกเหมือนมีเพื่อนอยู่ตลอดเวลา” อภิศิลป์ฟันธงถึงเสน่ห์ของ Twitter ที่ทำให้คนติดกันทั่วโลก เพราะนอกจากการใช้งานแล้ว อภิศิลป์พบว่าตัวเองเล่นสนุกกับ Twitter มากกว่าใช้งานจริงจังเสียอีก ไม่ว่าจะเล่นผ่านมือถือเมื่ออยู่นอกสถานที่ หรือเล่นบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่บ้าน

“เมื่อนั่งเล่นอยู่หน้าคอม เปิดเจอเว็บอะไรที่น่าสนใจ ผมก็ชอบโพสต์ลง Twitter เพื่อแบ่งปันให้ Follower ของผมอ่านด้วย เป็นความสนุกที่ได้แบ่งปันกัน”

ด้วยนิสัยนักถ่ายทอดความรู้ที่อภิศิลป์มีอยู่เต็มตัว เขามักชักชวน แบรนด์สินค้าที่อยู่บน Social Network อื่นๆ เช่น Facebook ให้มาลองเล่น Twitter อยู่เสมอ เช่น บริษัทหนัง GTH ที่เขาชื่นชมหน้าเฟซบุ๊คเพราะมีตัวละครจากหนัง “หนีตามกาลิเลโอ” มาเปิดตัวเป็นบุคคลสมมติบนนั้น และพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับแฟนหนัง

เมื่อชื่นชมแล้วก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ ด้วยนิสัยชอบแบ่งปันความรู้ที่อภิศิลป์มีอยู่เต็มตัว เขาชักชวนให้ GTH ที่โดดเด่นบน FaceBook อยู่เดิมนั้นมาลองเข้ามาเล่น Twitter ด้วย

@GTHchannel จึงกลายมาเป็นหน้า Twitter โปรดของอภิศิลป์ ที่เขาติดตามมากที่สุด ซึ่งนอกจากนี้ทาง GTH ยังเปิดหน้า Twitter ให้ตัวละครสาวน้อยทั้งสองตัวในหนังคือ @noonnitta ของนุ่น (รับบทโดยเต้ย) @chee_rer ของเชอรี่ (รับบทโดยต่าย) ซึ่งเป็นตัวละครหลักในหนังเรื่อง “หนีตามกาลิเลโอ” โดยทั้งสองคนนี้จะคุยกันผ่าน Twitter เสมือนว่าทั้งสองออกมาจากหนังแล้วมาคุยกันบนโลกความเป็นจริง

“ความจริงถ้าหนังเรื่องนี้วางแผนการใช้ Twitter ตั้งแต่ตอนถ่ายทำ โดยให้ตัวละครในหนังใช้มือถือถ่ายรูปตอนที่อยู่ต่างประเทศ แล้วอัพโหลดขึ้น Twitter เก็บไว้ พอหนังฉายก็ค่อยเปิด Twitter ให้คนเข้าไปย้อนดู คนดูจะรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับเข้าไปในบรรยากาศในหนัง แต่เป็นการซึมซับความรู้สึกผ่าน Twitter แทน” อภิศิลป์คิดกลยุทธ์เพิ่มเติมที่น่าจะทำได้หากเตรียมไว้ก่อนหนังเข้าฉาย

เทคนิคที่อภิศิลป์ใช้คือการ “ยืมมือ” เพื่อนๆ และแฟนๆ “Follower” ในทวิตเตอร์ของเขาเองมาสร้างกระแส โดยให้ใครก็ได้ที่อยากได้หนังสือฟรี คิดและพิมพ์ข้อความอะไรก็ได้ แต่ต้องมีคำว่า # รวมฮิต Twitter อยู่ในข้อความด้วย แล้วอภิศิลป์เองจะตรวจสอบได้ด้วยการเสิร์ชหาใน twitter.com เอง

“ผมใช้ Twitter เพื่อโปรโมตหนังสือรวมฮิต Twitter ของผมเอง ผมเพียงแค่บอกให้ผู้ใช้ Twitter ส่งข้อความอะไรก็ได้ ขอให้มีคำว่า #รวมฮิต Twitter ติดอยู่ในข้อความด้วย เขาก็จะมีสิทธิ์ลุ้นรับหนังสือฟรี”

อภิศิลป์เป็นคนแรกๆ ในไทยที่ใช้วิธีนี้ เป็นแรงบันดาลใจให้ธุรกิจต่างๆ ในไทยนำวิธีนี้ไปใช้บ้าง เขาเผยเทคนิคสำคัญว่าในการจะสร้างกระแสด้วยวิธีนี้ ต้องไม่ลืมที่จะให้ทุกๆ คนใส่เครื่องหมาย “#” หรือที่เรียกว่า Hashtag ไว้หน้าคำคีย์เวิร์ดนั้นด้วย เพราะจะทำให้ Twitter ค้นเจอได้ง่าย ได้อันดับแรกๆ ในผลเสิร์ช และตรวจสอบง่าย

“แคมเปญนี้ทาง สนพ. แจกหนังสือให้ 20 เล่ม มีคนทวีต #รวมฮิต Twitter ไปนับพันคน หลายพันข้อความ ถือว่าประสบความสำเร็จมากสำหรับการโปรโมตหนังสือไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยแทบจะ ไม่มีต้นทุนอะไรเลย (มีแค่ค่าหนังสือ 20 เล่ม) ได้ผู้ใช้ Twitter มาเป็นพวกเดียวกันที่ช่วยกันบอกต่อ เชียร์หนังสือเล่มนี้ออกไปสู่คนภายนอกด้วย”

ทุกวันนี้อภิศิลป์เพลิดเพลินกับการใช้ Twitter เป็นเครื่องมือแลกเปลี่ยนแบ่งปันความรู้ ผสานกับการสร้างแบรนด์สร้างกระแสให้อาชีพนักบรรยายและนักเขียนของตัวเอง และที่ขาดไม่ได้คือให้ Twitter เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือของเขาให้กลายเป็นสังคมแก้เหงาแบบเรียลไทม์ที่คุยเบ็ด เตล็ดได้ไม่จำกัดหัวข้อและไม่จำกัดเวลา

กชท.(กูเกิลช่วยท่านได้)

กชท.(กูเกิลช่วยท่านได้)

บทความโดย ดร.นัทที นิภานันท์ ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันศุกร์ ที่ 11 กันยายน 2552

ไม่ครับ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ กทช. วันนี้เราไม่ได้มาคุยกันเรื่อง 3G หรืออะไรทำนองนั้น ก.ช.ท. หรือ กูเกิลช่วยท่านได้ เป็นตัวย่อที่ผู้เขียนแปลมาแบบมั่ว ๆ จาก GIYF (Google is Your Friend) เป็นคำย่อที่มีความหมายกลาย ๆ ว่า จะทำอะไรก็ลองค้นหาโดยใช้ Google ดู เพราะเดี๋ยวนี้อะไร ๆ ก็มีอยู่ในอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วิธีทำ กับข้าว วิธีการใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ ไปจนถึงวิธีการสร้างระเบิดปรมาณู เรียกได้ว่ามีทุกอย่างจริง ๆ ซึ่งประเด็นวันนี้ของเราคือการเอาอะไรบางอย่างมาจากอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะบทความ หรืองานเขียนต่าง ๆ มาใช้งานครับ

ของทุก ๆ อย่างย่อมมีเจ้าของครับ ข้อมูลต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ตก็เช่นเดียวกัน บางอย่างนั้นเจ้าของก็คือสาธารณชน ซึ่งก็หมายความว่าทุก ๆ คนมีสิทธิที่จะใช้งานอย่างไรก็ได้ บางอย่างก็มีเจ้าของชัดเจน เช่น บทความที่ผู้อ่านกำลังอ่านอยู่ เป็นต้น โดยปกติแล้วผู้ที่สร้างผลงานมักจะยินดีให้ผลงานของตัวเองนั้นมีคนนำไปใช้งาน (เพราะถ้าไม่ต้องการให้คนนำไปใช้งานก็คงไม่คิดที่จะนำงานของตนเองมาเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตตั้งแต่แรกแล้ว) กฎหมายเรื่องลิขสิทธิ์ ก็ได้มีการคุ้มครองสิทธิต่าง ๆ ของทั้งผู้สร้างผลงานและผู้ใช้อยู่แล้ว แต่ปัญหาของลิขสิทธิ์คือ สิทธิของผู้นำไป ใช้นั้นน้อยเหลือเกิน เช่น ผู้นำไปใช้นั้นไม่สามารถเอาผลงานของเราไปเผยแพร่ต่อได้ ตัวอย่างเช่น ผู้เขียนไม่สามารถคัดลอกเอาข้อความในหนังสือพิมพ์ออนไลน์ทั้งชิ้นไปใส่ไว้ในเว็บไซต์ของผู้เขียนเองได้

อย่างไรก็ตาม การคัดลอกผลงานไปเผยแพร่นั้นมีผลดีคือช่วยให้มีคนรู้จักงานของเรามากขึ้น แต่กฎหมายลิขสิทธิ์ ซึ่งทำหน้าที่ป้องกันมิให้ผู้อื่นแอบอ้างเอางานของเราไปเป็นของตัวเอง ไม่อนุญาตให้เราคัดลอกงานใด ๆ ไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของผลงานครับ ผลที่เกิดขึ้นก็คือ เมื่อมีคนพยายามใช้ผลงานของเรา สิ่งที่บุคคลผู้นั้นทำได้คือ 1. ละเมิดลิขสิทธิ์โดยนำงานเราไปใช้ หรือ 2. ติดต่อเราโดยตรงเพื่อขออนุญาต ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วคงมีอยู่ไม่มากที่ขออนุญาตอย่างถูกต้อง

เล่ามาถึงจุดนี้ก็ได้เวลาพูดถึงพระเอกของวันนี้เสียทีครับ พระเอกของเราคือซีซี (CC) หรือที่มีชื่อเต็มว่าครีเอทีฟคอมมอนส์ (Creative Commons) ซีซีนั้นเป็นองค์กร ไม่แสวงหาผลกำไรที่มีผลงานหลักคือสัญญา อนุญาต (License) เพื่อให้เจ้าของผลงานที่ มีลิขสิทธิ์ต่าง ๆ นำไปใช้เพื่อระบุข้อตกลงในการใช้งานผลงานนั้น ๆ ครับ ถ้าเราสร้างสรรค์ ผลงานอะไรบางอย่างขึ้นมา และต้องการเผยแพร่ผลงานของเรา แต่ไม่ต้องการให้ผู้อื่น แอบอ้างเอางานของเราไปเป็นของตัวเอง เราสามารถประกาศว่าผลงานของเรานั้นใช้สัญญาอนุญาตซีซี (เรียกสั้น ๆ ว่า ซีซีแอล ย่อมาจาก Creative Common License) ได้ครับ ซีซีแอลนั้นมีอยู่หลายแบบให้เลือกใช้ บางแบบกำหนดเพียงแค่ให้ผู้ที่นำไปใช้นั้นจะต้องมีการอ้างอิงถึงผู้สร้างสรรค์ผลงาน บางแบบก็มีการกำหนดเพิ่มเติมว่าห้ามนำไปใช้ในเชิงพา ณิชย์และห้ามดัดแปลงแก้ไข เป็นต้น ซีซีแอลทั้งหมดนั้นมีจุดที่เหมือนกันคือ ผู้ที่นำไปใช้จะต้องอ้างถึงเจ้าของผลงาน (หมายความว่าห้ามผู้ที่นำไปใช้แอบอ้างว่าเป็นเจ้าของผลงานนั่นเอง) จะเห็นได้ว่าซีซีแอลนั้นแก้ไขปัญหาข้างต้นได้ดีทีเดียว โดยที่ไม่ทำให้เจ้าของผลงานต้องเสียเครดิตไป

ผู้เขียนอยากจะเล่าถึงเหตุการณ์หนึ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ครับ เพื่อนของผู้เขียน ท่านหนึ่ง เชี่ยวชาญการใช้งานโปรแกรม Photo scape ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับการแต่งรูปภาพที่มีการแจกจ่ายฟรีอยู่บนอินเทอร์เน็ต เนื่องจากโปรแกรมดังกล่าวไม่คิดค่าใช้บริการ บวกกับการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน ทำให้มีผู้ใช้อยู่จำนวนหนึ่งทีเดียวครับ เพื่อนของผู้เขียนท่านนี้ ก็ได้จัดทำเว็บไซต์สอนการใช้งานโปรแกรมดังกล่าวเป็นภาษาไทย ตั้งแต่การใช้งานเบื้องต้นไปจนถึงการใช้งานขั้นสูง เรียกได้ว่ามีการลงแรงงานไปมากโขอยู่ แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนของผู้เขียนก็ได้พบว่า บทความของตัวเองนั้นถูกคัดลอกไปแสดงอยู่ในเว็บไซต์อื่น ทางเพื่อนของผู้เขียนนั้นก็มิได้รังเกียจแต่ประการ ใด แต่สิ่งที่เพื่อนของผู้เขียนต้องการก็คือ ต้องการให้มีการให้เครดิตว่าบทความดังกล่าวนั้น เพื่อนของผู้เขียนเป็นผู้จัดทำขึ้นมา ซึ่งในเว็บไซต์ของเพื่อนของผู้เขียนนั้นมีการระบุไว้ชัดเจนว่า บทความต่าง ๆ นั้นได้มีการเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตซีซีประเภทที่ต้องระบุที่มา, ห้ามเปลี่ยนแปลง และห้ามใช้เพื่อการค้า สิ่งที่เพื่อนของผู้เขียนทำหลังจากที่ได้ค้นพบว่างานของตัวเองนั้นถูกนำไปแสดงในเว็บไซต์อื่นก็คือ เขียนอีเมลไปยังเจ้าของเว็บไซต์ดังกล่าว พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวทั้งหมดรวมถึงการที่บทความของตัวเองนั้นอยู่ภายใต้ซีซีแอลประเภทดังกล่าว เจ้าของเว็บไซต์ดังกล่าวนั้นก็ได้ทำการแก้ไขข้อมูลและมีการอ้างอิงถึงแหล่งที่มาอย่างถูกต้อง

เห็นหรือไม่ครับว่าการใช้ซีซีแอล รวมถึงความเคารพในซีซีแอลของทั้งสองฝ่ายนั้นทำให้การเผยแพร่ข้อมูลในอินเทอร์เน็ตสามารถทำได้โดยถูกใจทั้งสองฝ่าย ทางฝ่ายผู้จัดทำก็มี ผู้ช่วยเผยแพร่บทความมากขึ้น และไม่ได้เสียเครดิตในผลงานของตัวเอง ในขณะที่ทางฝ่าย ผู้นำเอาผลงานไปเผยแพร่ ก็สามารถดึงดูดผู้ชมเข้ามาสู่เว็บของตัวเองได้โดยที่ไม่ต้องเสี่ยงกับการละเมิดลิขสิทธิ์

สุดท้ายนี้ ผู้เขียนหวังว่าท่านผู้อ่านทุกท่านจะรู้จักการใช้ซีซีแอลในการปกป้องและเผยแพร่ผลงานของตัวเอง รวมถึงเคารพในสัญญาอนุญาตต่าง ๆ ทั้งซีซีแอลหรือสัญญาอื่น ๆ ด้วยนะครับ เพื่อสร้างสังคมอินเทอร์เน็ตที่น่าอยู่ให้กับทุก ๆ คนนะครับ

(สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องของซีซีสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://cc.in.th/ และ http://creativecommons.org/ ครับ ส่วนเว็บไซต์สอนการใช้งาน Photoscape ที่กล่าวถึงในช่วงท้ายจะอยู่ที่ http://www.bombik. com/)

 

นัทที นิภานันท์
nattee@eng.chula.ac.th
ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
คณะวิศวกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

http://www.eng.chula.ac.th/?q=node/941

--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
http://www.thaifreedompress.blogspot.com/
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.media4democracy.com/th/
http://www.youngtelecom.org/
http://www.logex.kmutt.ac.th/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm

วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เปิดตัว Office Starter 2010 ใช้ฟรีมีโฆษณา

เปิดตัว Office Starter 2010 ใช้ฟรีมีโฆษณา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 ตุลาคม 2552 16:24 น.
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
หน้า เพจอธิบายคุณสมบัติ Office 2010 ล่าสุดไมโครซอฟท์เตรียมแผนโปรโมทโปรแกรมออฟฟิศเวอร์ชันใหม่ด้วย Office Starter 2010 ซึ่งจะเปิดให้ผู้บริโภคทดลองใช้งานโดยไม่มีกำหนดหมดอายุ
ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เปิดตัวโปรแกรมสร้างงานเอกสารเวอร์ชันใหม่ที่เปิดให้ใช้งานฟรีแต่มีโฆษณาใน ชื่อ Office Starter 2010 มั่นใจว่าจะเป็นการเปิดช่องทางใหม่ที่ทำให้ผู้ซื้อพีซีรายใหม่สามารถซื้อ Office 2010 ได้ง่ายขึ้น
       
       ทาเคชิ นูโมโตะ ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ออฟฟิศของไมโครซอฟท์กล่าวว่า เป้าหมายของไมโครซอฟท์เกี่ยวกับ Office Starter 2010 คือการดึงดูดผู้ซื้อพีซีรายใหม่ให้กับ Office 2010 โดยผู้ใช้ที่ชื่นชอบ Office Starter 2010 จะสามารถซื้อรหัสใช้งานจากตัวแทนจำหน่ายของไมโครซอฟท์เพื่อเลือกอัปเกรดเป็น Office Home & Student 2010, Office Home & Business 2010 หรือ Office Professional 2010
       
       Office Starter 2010 จะถูกติดตั้งในเครื่องพีซีระบบปฏิบัติการวินโดวส์ที่ส่งออกจากโรงงานเพื่อ วางจำหน่ายในสหรัฐฯ ความพิเศษคือไม่มีกำหนดวันหมดอายุใช้งาน ซึ่งแตกต่างจากโปรแกรมเวอร์ชันทดลองทั่วไป ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ยาวนานเท่าที่ต้องการ
       
       Office Starter 2010 จะมาพร้อม Word Starter และ Excel Starter เท่านั้น ไม่มี Outlook, OneNote หรือ PowerPoint เป็นการจำกัดให้นักธุรกิจมืออาชีพทั้งหลายไม่สามารถใช้ Office Starter 2010 สร้างสไลด์เสนองานได้

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
Product Key Card ซึ่งผู้บริโภคสามารถซื้อหาจากร้านค้าพันธมิตรไมโครซอฟท์
ผู้ที่ต้องการใช้งาน Office 2010 เวอร์ชันเต็ม สามารถซื้อ Product Key Card จากร้านค้าปลีกเพื่อปลดล็อกได้โดยสะดวก สำหรับโฆษณาใน Starter 2010 นั้นจะปรากฎในส่วนล่างของ Task Pane ซึ่งจะแวดล้อมด้วยลิงก์แนะนำการใช้งาน ภาพตัดปะ และรูปแบบเทมแพลต ไมโครซอฟท์ ยังไม่เปิดเผยว่าโฆษณาที่จะปรากฏบริเวณนี้จะมีลักษณะอย่างไร แต่เชื่อว่าจะไม่ใช่รูปแบบข้อความกระพริบ หรือรูปแบบฉูดฉาดซึ่งจะรบกวนการทำงานของผู้ใช้ได้
       
       สำหรับผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าออฟฟิศอยู่แล้ว ไมโครซอฟท์เปิดตัวเทคโนโลยีทำงานเสมือนนาม Click To Run ให้ผู้ใช้ดาวน์โหลด Office 2010 เวอร์ชันทดลองใช้เพื่อเทียบกับออฟฟิศเวอร์ชันที่ใช้อยู่ เชื่อว่าจะสามารถทำให้ผู้บริโภคเห็นความต่างได้อย่างชัดเจน
       
       จุดต่างสำคัญระหว่าง Office 2010 และ 2007 คือหน้าตาโปรแกรมซึ่งไมโครซอฟท์ปรับให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม โดยในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคมปี 2008 ถึงเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา Office 2007 มียอดดาวน์โหลดสูงถึง 23 ล้านครั้ง คิดเป็นอัตราเติบโตต่อปีถึง 92%
       
       สำหรับ Office 2010 นั้นมีจุดเด่นเรื่องความสามารถในการทำงานร่วมกันของผู้ใช้ออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ทีมพัฒนาของไมโครซอฟท์ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงสำคัญอยู๋ที่แพลตฟอร์มการทำงาน ในโปรแกรมออฟฟิศ ซึ่งเป็นเบื้องหลังที่ทำให้ออฟฟิศเวอร์ชันใหม่มีฟังก์ชันการทำงานที่พัฒนา ขึ้นมาก
       
       การ ออกโปรแกรมเวอร์ชันทดลองที่ไม่มีวันหมดอายุนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่าง มากของท่าทีไมโครซอฟท์ ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นเพราะอิทธิพลของโปรแกรมโอเพ่นซอร์สมาตรฐานเปิดที่ ขยายวงกว้างในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานกำหนดการเปิดศักราช Office Starter 2010 ในประเทศอื่นนอกสหรัฐฯในขณะนี้ รวมถึงประเทศไทย
       
       Company Related Links :
       Microsft
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9520000119803

--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
http://www.thaifreedompress.blogspot.com/
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.ksmecare.com/docSeminar/520902031848987.pdf
http://www-01.ibm.com/software/th/events/lotusliveevent/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm

จีนสะสางยุทธภพออนไลน์

จีนสะสางยุทธภพออนไลน์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 ตุลาคม 2552 22:27 น.
       (เอเอฟพี) – ล่าสุด ทางการจีนได้แถลงถึงแผนการจำกัดควบคุมเกมออนไลน์ที่ดำเนินการอย่างผิดกฎหมาย และมีเนื้อหาเป็นภัย ซึ่งถือเป็นความพยายามครั้งล่าสุดในการชำระสะสางโลกออนไลน์ในประเทศจีน ที่มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมากที่สุดในโลก (เกือบ 338 ล้านคน) สื่อของรัฐรายงาน
       

       ปักกิ่ง นิวส์กล่าวว่า รัฐได้จัดการปิดเกมออนไลน์ 45 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่ามีเนื้อหาสนับสนุนให้ผู้เล่นกระทำความผิดกฎหมายเช่น การค้ายาเสพติดและโสเภณี โดยหน่วยงานกำกับดูแลสื่อของรัฐ จะเร่งจัดการตรวจสอบและควบคุมบรรดาเกมออนไลน์ล่อแหลมทั้งหลายภายในสิ้นปีนี้
       
       แถลงการณ์ที่โพสต์บนเว็บไซต์ของฝ่ายบริหารฯ กล่าวว่า 45 เกมออนไลน์ที่ปิดไปนั้น เป็นเกมส์ที่มาจากต่างประเทศและยังไม่ได้รับการอนุมัติก่อนการดำเนินงานใน จีน.
       
       ในโครงการนี้ มีเกมส์ออนไลน์ที่โดนตรวจสอบ และได้รับคำสั่งให้เปลี่ยนแปลงมากกว่า 200 เกม ซึ่งโดยปกติเนื้อหาที่รัฐเห็นว่าเป็นภัย ได้แก่เว็บไซต์จำพวกสื่อลามกและสร้างความรุนแรงไปจนถึงให้ข้อมูลวิพากษ์ วิจารณ์เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาล
       
       โดยเดือนที่แล้ว ทางการก็เพิ่งจะประกาศว่าเพลงทุกเพลงที่โพสต์บนเว็บไซต์จะต้องได้รับการ อนุมัติและเนื้อเพลงต่างประเทศต้องแปลเป็นภาษาจีนก่อนด้วย

http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9520000119871


--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
http://www.thaifreedompress.blogspot.com/
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.ksmecare.com/docSeminar/520902031848987.pdf
http://www-01.ibm.com/software/th/events/lotusliveevent/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
http://facthai.wordpress.com/ ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew