บันทึกสมุดสีแดง (2) ว่าด้วย : สื่อ การสร้างสื่อและการจัดตั้งของคนเสื้อแดง โดย : ใจ อึ๊งภากรณ์ เมื่อ : 9/06/2009 11:45 AM |
สมุดบันทึกสีแดง ก่อนเข้าสู่ประเด็นเรื่องสื่อ ผู้เขียนอยากชวนเพื่อนๆ เสื้อแดงให้มาร่วมกันพัฒนาเสนอแนวคิดเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม ปัจจุบันมาตรฐานในสังคมไทยมันอยู่ในขั้นเน่าเฟะ ไม่ว่าจะเป็นระบบความยุติธรรม มาตรฐานในการเสนอข่าวของสื่อสารมวลชนกระแสหลัก กติกาความเป็นประชาธิปไตย การอัดฉีดอุดมการณ์ขวาจัดแบบไทยๆ ที่ใช้ราชวงศ์จักรีเป็นเครื่องมือหลักอย่างเว่อร์ๆมอมเมาประชาชน องค์ประกอบเหล่านี้ การปฏิรูปภายในกรอบเดิมนั้นไม่สามารถที่จะเยียวยาสังคมไทยมันเดินทางมาถึงจุดที่ต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งหมดอย่างถอนรากถอนโคน อย่างไรก็ตามโครงสร้างเน่าๆ จริงอยู่มันมีความเสื่อม แต่ความเสื่อมนี้จะไม่ตายไปเองอย่างอัตโนมัติ หน้าที่ของพวกเราคือจี้จุดอ่อนของมันให้มากที่สุดเพื่อลดความชอบธรรมของการดำรงอยู่ของมัน เปิดโอกาสให้โครงสร้างสังคมที่เหมาะสมกับทุกคนเกิดขึ้นมา ความขัดแย้งทางการเมืองขณะนี้มันมีหน่ออ่อนของสังคมใหม่ ในหลายด้านพวกเราคนธรรมดานี่แหละได้ช่วยกันสร้างขึ้นมาภาระกิจต่อไปนั้นเราต้องช่วยกันคิดและพัฒนาต่อ เพราะพวกนักวิชาการเสื้อเหลืองจะคิดหาทุกวิธีการพยุงโครงสร้างเน่าๆ ให้กดขี่เราต่อไป (ล่าสุด บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ถูกจับผิดว่าพร้อมจะโกหกเรื่องกฎหมายหมิ่นฯ ในสังคมสากล แต่คนแบบนี้หน้าด้านไม่อายใคร) คนเสื้อแดงอยู่ในทุกส่วนของสังคมฉะนั้นเราเริ่มจากตรงนั้นได้เพราะเรารู้ดีว่าในวงการของเรามันแย่อย่างไร มันรับใช้ใครอย่าง และเราอยากให้มันเป็นอย่างไร สื่อ วงการสื่อสารมวลชนมันจะเลวร้ายกว่านี้ไปไม่ได้อีกแล้วเพราะมันเดินทางมาถึงจุดต่ำสุดของความเสื่อมทรามในทุกด้าน อย่างไรก็ตามสิ่งที่ตามมาติดๆจากวิกฤติ คือ การเกิดขึ้นของคลื่นลูกใหม่ที่น่าทึ่งในหลากหลายรูปแบบ การใช้บล็อคใช้อินเตอร์เนตเป็นเครื่องมือต่อสู้กับเผด็จการ ปรากฎการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในไทยเท่านั้น มันเกิดขึ้นในตะวันออกกลางไม่ว่าจะเป็น อิหร่าน อียิปต์ หรือ ประเทศจีน ก็เช่นเดียวกัน คนเสื้อแดงต้องแปรเปลี่ยนอารมณ์โกรธให้เป็นพลัง เป็นหอกทิ่มแทงพวกอำมาตย์ ในระยะยาวเราต้องรณรงค์ให้เอาสื่อมาเป็นของประชาชน พร้อมๆกับต้องจัดการกับพวกสื่อเหลืองขี้ข้ารับใช้เผด็จการ การรณรงค์เรื่องสื่อเราจะต้องทำความเข้าใจอย่างชัดเจนในประเด็นต่อไปนี้ สื่อล้างสมองคนได้จริงหรือ? คำโกหกติดปากของพวกเหลือง คือ "ชาวบ้านเข้าไม่ถึงข้อมูล" หรือ "ได้ข้อมูลมาก็ถูกหลอก" ไม่ว่าจะพูดยังไงพวกนั้นก็ยังวนเวียนอยู่ในตรรกะของการเมืองว่าชาวบ้านเป็นเหยื่อ..โง่ ส่วนความวิตกกังวลของเสื้อแดงนั้นจะอยู่ที่ประเด็นการคุมสื่ออย่างเบ็ดเสร็จของเผด็จการ ทำให้ความเป็นจริงในสังคมถูกผูกขาด "ทำให้สังคมไม่เข้าใจคนเสื้อแดง" ความกังวลที่มีเหตุผลเหล่านี้เราต้องมาพิจารณาจากข้อมูล ความเป็นจริงที่ดำรงอยู่ ตัวอย่างที่หนึ่ง ข่าวพระราชสำนักของพวกกษัตริย์และราชวงศ์ ข่าวนี้มีออกอากาศทุกวันเพื่อสร้างภาพว่าพวกนี้ทำเพื่อประชาชนและประชาชนรัก คนที่ชอบดูและเลื่อมใสจริงก็คงมีแต่คนที่เห็นต่างก็มีด้วยอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ถ้าเรามีโอกาสดูร่วมกับชาวบ้านบางส่วนจะพบว่าเขาดูข่าวนี้แบบ "ดูไปด่าไป" ข่าวลือในเชิงลบทั้งหลายถูกใส่สีตีไข่สนุกสนานเพื่อฆ่าเวลา หรือ การฉวยโอกาสที่มีข่าวราชสำนักไปนั้นอาบน้ำอาบท่า หรือ ออกไปสูบบุหรี่เพื่อเตรียมตัวดูละครทีวีน้ำเน่าอันเป็นความบันเทิงราคาถูกที่สรรหาได้ง่าย แล้วก็เปิดทีวีทิ้งไว้ให้หมาให้แมวดูข่าวในพระราชสำนักแทน ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่าว่าคนไม่ได้เป็นเหยื่อของสื่อ ตัวอย่างที่สอง ข่าวการลงประชามติเพื่อรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 เมื่อก่อนพวกเหลืองมักอ้างว่ายุคทักษิณนั้นรัฐบาลแทรกแซงสื่อ แต่พอรัฐประหาร 19 กันยา พวกท๊อปบู๊ทเข้ามาคุมสื่ออย่างเบ็ดเสร็จ พวกเหลืองก็ไม่มีใครมาวิจารณ์เรื่องนี้สักแอะ! หนำซ้ำยังช่วยรณรงค์อย่างขันแข็งให้ประชาชนช่วยๆ รับร่างรัฐธรรมนูญนี้ไปก่อน มีปัญหาแล้วค่อยมาแก้ทีหลัง ในขณะเดียวกันนั้นรัฐบาลเผด็จการทหารได้ห้ามอย่างเด็ดขาดไม่ให้มีการโฆษณารณรงค์เพื่อไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ แต่รัฐบาลเผด็จการทหารได้ใช้สื่อทุกชนิดเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญของตนเอง เท่านั้นยังไม่พอยังมีการประกาศกฎอัยการศึกกว่า 30 จังหวัดบังคับไม่ให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองซึ่งกินความถึงการรณรงค์ไม่รับร่างฯ 50 ด้วย ผลออกมาประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญ 50 แต่ด้วยคะแนนเฉียดฉิวเท่านั้น ทั้งๆ ที่เผด็จการใช้สื่อในทุกช่องทาง ตัวอย่างนี้ก็ยืนยันอีกว่าประชาชนคิดเองและเลือกเองได้ มีอีกหลายตัวอย่างที่ยืนยันว่าสื่อมีขีดจำกัดในการล้างสมอง จะจัดการสื่อขี้ข้าเผด็จการอย่างไร สื่อมีขีดจำกัดในการชักชวนให้คนเชื่อเผด็จการ แต่ความจริงข้อนี้ไม่ได้หมายความว่าเราจะปล่อยให้พวกนี้เห่าไปเรื่อยๆ คนเสื้อแดงต้องทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านตรวจสอบสื่อที่รับใช้เผด็จการโดยเฉพาะในด้านจรรยาบรรณ มาตรฐานแท้ในสังคมถึงจะเกิดขึ้นได้ หนทางมีหลายสายให้เลือก เช่น คนเสื้อแดงจะต้องมาเริ่มจัดเรตความน่าเชื่อถือของสื่อ ข่าวแต่ละช่องมีความน่าเชื่อถือกี่ % หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับมีความเชื่อถือฉบับละกี่ % นักวิเคราะห์ข่าวแต่ละคนจุดยืนเหลืองกี่% ยึดมั่นประธิปไตยกี่ % นักข่าวคนไหนชอบโกหก เปิดโปงออกมาให้หมดไปตามเครือข่ายของพวกเรา และชักชวนให้ส่วนอื่นของสังคมมาร่วมตั้งคำถามกับสื่อพวกนี้ด้วย จากนั้นอาจจะจัดงานเพื่อมอบรางวัลนักข่าวยอดแย่แต่ยอดเยี่ยมในการรับใช้เผด็จการเปิดโปงให้สุดๆไปเลย นี่เป็นการเขียนประวัติศาสตร์ไว้ให้คนรุ่นหลัง รุ่นลูกรุ่นหลานของเราดูอย่างเป็นรูปธรรม อย่าให้พวกนั้นมันทำเราฝ่ายเดียว ถ้านักข่าวภาคสนามของสื่อกระแสหลักอยากพิทักษ์ความจริง คนเสื้อแดงก็ต้องชักชวนนักข่าวภาคสนามให้สู้กับกอง บก. ของพวกเขาเองว่าต้องรายงานข่าวทั้งสองด้าน ถ้าพวกกอง บก.มันไม่เอา ให้ส่งข่าวเหล่านั้นมาที่สำนักข่าวของเสื้อแดงเพื่อตีแผ่ความจริง ใครควรเป็นเจ้าของสื่อ ประเด็นต่อไปที่เราจะต้องชัดเจน คือ ใครควรจะเป็นเจ้าของสื่อ ปัจจุบันคนที่เป็นเจ้าของคือรัฐบาล นายทุนหนังสือพิมพ์ และทหาร ตามหลักการแล้วคนที่ควรจะเป็นเจ้าของสื่อคือประชาชน นั่นหมายความว่าเราต้องขับไล่ทหารออกไปจากวงการสื่อสารมวลชนให้หมด มันไม่ใช่หน้าที่ของพวกสีเขียวแม้แต่น้อยที่จะมาจุ้นจ้านเรื่องสื่อ สำหรับสื่อหนังสือพิมพ์ยุคนี้ถูกควบคุมโดยนายทุนใหญ่ที่หมอบคลานกับอำมาตย์ ในอนาคตหนังสือพิมพ์ไม่ควรจะตกอยู่ภายใต้อำนาจนายทุนใหญ่แต่ควรจะมีรูปแบบสหกรณ์ที่บริหารโดยนักข่าวเองภายใต้จรรยาบรรณการเสนอความจริงของนักหนังสือพิมพ์ สื่อที่สามคือสื่อของรัฐบาลซึ่งไม่ควรถูกควบคุมโดยรัฐบาลแต่ควรจะเป็นสื่อสาธารณะที่มีผู้แทนประชาชน เข้ามาเป็นคณะกรรมการบริหารโดยสะท้อนทุกมุมมองของสังคม ซึ่งจะต่าง TPBS ในยุคนี้หรือ NBT ที่ถูกควบคุมโดยอิทธิพลของพวกเสื้อเหลือง ถ้าจะมีสื่อเสรีจะต้องยกเลิก กฎหมายเซ็นเซ่อร์ กฎหมายหมิ่นฯ กฎหมายคอมพิวเตอร์ เพราะกฎหมายพวกนี้มันทำลายมาตรฐานของระบบสื่อสารมวลชนลงอย่างย่อยยับ รัฐบาลไม่ควรจะมีสิทธิในการตรวจสอบเนื้อหาของวิทยุชุมชนหรือสถานีวิทยุที่ถ่ายทอดผ่านอินเตอร์เนต เพราะอำนาจแบบนั้นขัดกับหลักการประชาธิปไตย อย่างไรก็ตามในสังคมอารยะจะต้องมีการควบคุมสื่อแบบ ASTV ที่จงใจโกหกและชักชวนให้มีการใช้ความรุนแรงต่อผู้ที่รักประชาธิปไตย ทีนี้เราต้องมาดักคอข้อเสนอของพวกเหลืองในประเด็นว่าใครควรจะเป็นเจ้าของสื่อ พวกนี้จะเสนอเป็นประจำว่าว่า ต้องมีการแต่งบอร์ดบริหารโทรทัศน์โดยผู้ทรงคุณวุฒิมีความรู้ความสามารถซึ่งบอร์ดบริหารเหล่านี้จะต้องเป็นอิสระ คอนเซพต์เหล่านี้ล้วนแต่เป็นคำโกหกคำโต เพราะในรูปธรรมคำว่าอิสระนั้นมันเป็นความอิสระจากการตรวจสอบของประชาชน เราต้องฟันธงไปเลยว่าโทรทัศน์มันต้องเป็นของประชาชน หากต้องการฝ่ายค้านนั้นก็ให้เลือกตั้งตัวแทนแต่ละฝ่าย ต้องเอาคนที่กล้าประกาศตรงๆ ว่าเป็นสีเหลือง เป็นสีแดง ในปริมาณที่เท่ากันให้มาคานกัน ส่วนพวกที่อ้างว่าเป็น "กลาง" (อีแอบ) เราต้องเขี่ยออกไปเช่นเดียวกันเพราะพวกนี้ตอแหลเรื่อยๆ เพื่อให้ตัวเองดูดี สุดท้ายมันก็เป็นเหลืองอ๋อยหมด อย่างไรก็ตามในขณะที่สื่อมันยังไม่ได้เป็นของประชาชน คนเสื้อแดงต้องมีสื่อเป็นของตัวเอง แต่เป้าหมายระยะยาวเราต้องเอาสื่อมาเป็นของประชาชน สื่อของคนเสื้อแดง ลักษณะหน่ออ่อนที่น่าชื่นชมและต้องช่วยกันประคับประคอง คือ ในระดับชาวบ้านจะเจอปรากฎการณ์ข่าวเราๆ เล่าเองผ่านวิทยุชุมชน รูปแบบเหมือนที่พวกเขาเห็นในทีวีนั่นแหละแต่ทิศทางนั้นตรงกันข้ามกับนักข่าวน้ำเน่าในทีวี ชาวบ้านเสื้อแดงวิจารณ์นักการเมืองทั้งสองฝ่าย ตบท้ายด้วยการด่าเผด็จการเชิดชูประชาธิปไตย มันคือความน่าทึ่งของคนธรรมดาที่พัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นผู้นำเป็นผู้ตามอย่างมีคุณภาพเพราะมีส่วนร่วมซึ่งกันและกัน สังคมในโลกไซเบอร์ก็เช่นเดียวกันเราเห็นนักวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองประเด็นต่างๆ เกิดขึ้นมาอย่างหลากหลายข้อเสนอเหล่านี้ก็มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ก็วิจารณ์กลับภายใต้การใช้เหตุผลให้ข้อมูลเพิ่มซึ่งเป็นลักษณะของการร่วมกันนำในระดับฐาน บางคนเริ่มจากการด่า เมื่อด่าเบื่อแล้วก็หันมาสนใจในระดับแนวความคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และอะไรคืออุปสรรคแท้ที่เป็นก้างขวางคอประชาธิปไตยอยู่ เอาเข้าจริงๆ คนที่สังเกตุคนเสื้อแดง แม้แต่คนเสื้อแดงเองก็เห็นว่านักการเมืองเก่ามีขีดจำกัดในการนำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างถอนรากถอนโคลน เพราะเป็นนักเลือกตั้งและต้องการอยู่ในกติกาของกรอบปัจจุบัน บ่อยครั้งประเด็นทางการเมืองจึงย่ำอยู่กับที่ในขณะที่คนธรรมดาทั้งใจและอารมณ์นั้นไปไกลแล้ว เพียงแต่หาทางกำหนดรูปร่างองค์กรของตัวเองยังไม่ได้ แต่ใช่ว่าในประวัติศาสตร์การเมืองไทยจะไม่มีนักการเมืองหัวก้าวหน้า ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงชนิดถอนรากถอนโคน ซึ่งพวกเขาทำได้โดยมีองค์กรจัดตั้งทางการเมืองของตัวเอง เช่น ปรีดี พนมยงค์ คณะราษฏร พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย นักการเมืองแนวสังคมนิยมในยุคหลัง 14 ตุลา หรือบางส่วนของนักการเมืองในกลุ่มเสื้อแดงปัจจุบัน วกเข้าสู่หน่ออ่อนสื่อของคนเสื้อแดง ซึ่งลักษณะเหล่านี้มันเป็นรูปแบบของการมีส่วนร่วมเพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพของแต่ละคน แค่ข่าวการเมืองไม่พอเริ่มมีการนำข่าวสถานการณ์เรื่องเศรษฐกิจ ข่าวต่างประเทศที่เขียนเกี่ยวกับประเทศไทยคนที่รู้ภาษาต่างประเทศก็ช่วยกันแปลผ่านการเปิดบล็อคอย่างง่ายๆ เพราะทนกับท่าทีของนักข่าวน้ำเน่าไม่ได้ หน่ออ่อนเหล่านี้พัฒนาตนเองภายใต้เป้าหมายที่อยากให้พวกเราเข้าใจความจริงมากที่สุด มีประชาธิปไตยมากที่สุด มีการระดมเงินทุนกันเองเพื่อสนับสนุนให้สื่อทางเลือกเหล่านี้คงอยู่ ความจริงอันนี้บอกได้อย่างเดียวว่า "น่าทึ่งและตื่นเต้น" วิทยุชุมชนซึ่งเป็นสื่อที่มีความสำคัญลำดับต้นๆของคนเสื้อแดง พวกเราคงต้องทำงานหนักเพื่อต่อสู้ให้ได้สิทธิในวิทยุชุมชนมา หากรัฐบาลมันพยายามปราบและห้ามไม่ให้คนเสื้แดงใช้มันก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลงใต้ดิน เพื่อหาทางใช้คลื่นให้ได้ ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็ต้องอาศัยช่างเทคนิคของคนเสื้อแดงช่วยกันคิดค้นหาวิธีการ บทเรียนจากประเทศอื่นยุคที่รัฐบาลคุมสื่อทั้งหมด ได้มีความพยายามสร้างสถานีวิทยุของของตนเองขึ้นมา เป็นการส่งคลื่นความถี่แบบเถื่อนๆ เอาเครื่องส่งสัญญานใส่ในรถกะบะหรือบนเรือ แบบนี้พวกฝ่ายรัฐมันจะจับไม่ได้ว่าแหล่งส่งข่าวออกมาจากไหน ลักษณะสื่อของคนเสื้อแดง ขอสดุดีช่างเทคนิคที่เปิดเพลง "แสงดาวแห่งศรัทธา" ของ จิตร ภูมิศักดิ์ ในงานวันนั่งเก้าอี้ของกษัตริย์ภูมิพล ตอนนี้เรากำลังทำสงครามทางความคิดกับฝ่ายเผด็จการ ซึ่งหนังสือพิมพ์ของเสื้อแดงมีความสำคัญตรงที่มันจะเป็นกลไกในการติดอาวุธทางความคิดเพื่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนั่นหมายความว่าหนังสือพิมพ์นี้จะต้องจัดหาความรู้ทฤษฏีทางการเมืองชนิดต่างๆ อันไหนให้ผลประโยชน์กับพวกเผด็จการอันไหนให้ผลประโยชน์สำหรับเสื้อแดง เก็บเกี่ยวประสบการณ์การต่อสู้ในต่างประเทศว่าเขาทำกันอย่างไร เรียนบทเรียนในประวัติศาสตร์ของเราเองเพื่อสร้างสังคมใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยแท้ เช่น อุดมการณ์ของคณะราษฏร คืออะไร โมเดลทางเศรษฐกิจของคณะราษฏรที่เคยมีการนำเสนอคืออะไร ลักษณะของรัฐสวัสดิการในแถบสแกนดิเนเวียเป็นอย่างไร การมีเนื้อหาแบบนี้เป็นการประกาศจุดยืนของคนเสื้อแดงและเป็นวิธีที่จะนำคนที่ยังไม่มีจุดยืนเข้ามาเป็นพรรคเป็นพวก จากนั้นหนังสือพิมพ์เสื้อแดงจะต้องเปิดโปงการคอรัปชั่นอย่างเป็นระบบของฝ่ายสีเหลือง เช่น สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มีทรัพย์สินอยู่เท่าไหร่ เสียภาษีเท่าไหร่ เคยไล่ที่ชาวบ้านบ้างหรือไม่ ถือหุ้นในบริษัทไหนบ้างจ่ายค่าแรงในระดับที่คนงานพอใจไหม อนุญาติให้คนงานจัดตั้งสหภาพแรงงานหรือไม่ สำนักแห่งนี้นี้ควรจะถือสินทรัพย์เท่าไหร่ ควรจะยกให้แผ่นดินเพื่อดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนเท่าไหร่? ลองออกแบบงบประมาณว่าควรจะใช้ไปในทางไหน งบประมาณทหาร งบพิธีกรรม ถ้านำเงินเหล่านี้มาเป็นทุนการศึกษา พัฒนาบริการสาธารณสุขจะมีคุณค่าเพียงไร คุณภาพของแต่ละคนในสังคมไทยจะเพิ่มขึ้นขนาดไหน สื่อของคนเสื้อแดงจะต้องทำหน้าที่สำรวจความไม่เป็นธรรมในสังคมอย่างเป็นระบบ เสนอการต่อสู้ของคนเสื้อแดงในพื้นที่ต่างๆเพื่อให้กำลังใจกับคนเสื้อแดงอื่นๆ พร้อมกับเสนอแนวทางแก้ปัญหาที่มันควรจะเป็น สื่อกระแสหลักเลือกไม่ทำและไม่อยากทำ พวกนี้ยินดีที่จะถ่ายทอดชีวิตคนแก่ที่ถูกทอดทิ้ง เด็กๆถูกทอดทิ้ง พร้อมกับโยนความผิดไปที่สมาชิกของครอบครัวนั้น มากกว่าจะแตะสาเหตุแท้ของปัญหานั่นคือความเหลื่อมล้ำทางสังคมนั่นเอง ทั้งสองลักษณะข้างต้น คือ การเรียนทฤษฏีทางการเมืองและเปิดโปงความฉ้อฉลของทุกสถาบันอย่างเป็นระบบนั้น ทำให้หนังสือพิมพ์รูปแบบนี้จะไม่เหมือนรูปแบบเหมือนหนังสือพิมพ์รายวัน หนังสือพิมพ์เสื้อแดงจะต้องทำหน้าที่มากกว่าแค่การติดอาวุธทางความคิดและการเปิดโปงการคอรัปชั่นหรือการกระทำความผิด สื่อของคนเสื้อแดงควรจะให้ข้อมูลทางเทคนิคในเรื่องการเผยแพร่ข่าวสาร เช่น การใช้วิทยุชุมชน การใช้อินเตอร์เนต การใช้บล็อค การถ่ายเอกสาร การเชื่อมโยงกับชาวบ้านที่ไม่มีอินเตอร์เนตใช้ และการหลีกเลี่ยงการปราบปรามโดยรัฐ การจัดตั้ง การจัดตั้งหมายถึง การเปลี่ยนแปลงคนเสื้อแดงจากคนที่แค่ลงคะแนนเสียงให้ไทยรักไทยหรือคนที่แค่รับรู้ข่าวสารมาเป็นคนที่ร่วมสร้างขบวนการเคลื่อนไหวหรือพรรคการเมือง หรือ กลุ่มของคนเสื้อแดง ดังนั้นประเด็นที่สำคัญเกี่ยวกับการจัดตั้งคือการรวมกลุ่ม การมีสมาชิก การมีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวที่มากกว่าผู้บริโภคทางการเมือง ซึ่งนั่นหมายความว่าจะต้องมีกิจกรรมร่วมกันสม่ำเสมอ ต้องมีโครงสร้างและระบบในการจัดตั้งที่ชัดเจน ต้องมีรายชื่อสมาชิกเราจะต้องปกป้องรายชื่อสมาชิกจากฝ่ายรัฐ ต้องมีการเชื่อมโยงเพื่อการเคลื่อนไหวระยะสั้นและระยะยาว เนื้อหาหนังสือพิมพ์ของคนเสื้อแดงที่กล่าวไปข้างต้นจะมีบทบาททำให้คนเสื้อแดงคิดเป็นและวิเคราะห์สถานการณ์ยากๆ เองเป็น ไม่ได้อาศัยผู้นำคนใดคนหนึ่งคิดแทนพวกเราในทุกๆ เรื่องเพราะเป็นเรื่องอันตรายและมีความผิดพลาดสูง เช่น เรื่องการที่เราจะคล้อยตามคนอย่าง ชูพงศ์ ถี่ถ้วน หนังสือพิมพ์เสื้อแดง นอกจากจะเป็นช่องทางในการสื่อสารข่าวสารของคนแดงแล้ว หนังสือพิมพ์ของคนเสื้อแดงจะต้องเป็นมีบทบาทในการจัดกิจกรรมของคนเสื้อแดงอีกด้วย การสร้างสรรค์กิจกรรมนั้นขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน เพราะพวกเราแต่ละคนสังกัดหน่วยทางสังคมอยู่แล้ว และที่สำคัญปัจจุบันมีการจับกลุ่มทางการเมืองในเกือบทุกพื้นที่ กลุ่มย่อยๆ ทางการเมืองเหล่านี้ต้องหาทางรวมตัวกันภายใต้สถาบันเสื้อแดง กลุ่มเสื้อแดงก้าวหน้าหรือพรรคเสื้อแดง ซึ่งการมีองค์กรจะทำให้เสื้อแดงเมืองกับเสื้อแดงชนบทต้องมีกิจกรรมร่วมกันหลากหลายมากขึ้นกว่าการมาร่วมชุมนุมกันที่กรุงเทพเพียงอย่างเดียว สำหรับคนชั้นกลางเสื้อแดงในเมืองอาจจะไปออกค่ายเพื่อไปพบปะเสื้อแดงในพื้นที่ชนบท อาจจะจัดงานแรลลี่โดยอาศัยสถานการณ์ที่เหมาะสมในแต่ละช่วง หน้าหนาว หน้าร้อน หน้าฝน เช่น ถ้าหากพี่น้องเสื้อแดงในชนบทเจอน้ำท่วมเราก็ต้องไปช่วย ฉวยโอกาสนี้คุยกับคนเสื้อแดงว่าถ้ารัฐดูแลประชาชนมากกว่านี้เราจะไม่ลำบากขนาดนี้ ถ้าประเทศไทยมีการเสียภาษีก้าวหน้าเราจะมีความเป็นอยู่ดีกว่าปัจจุบัน มีความมั่นคงในชีวิต รวมถึงอาจจะพูดคุยว่าเราจะควบคุมนักการเมืองที่เราเลือกเข้าไปอย่างไร หรือ การเจาะกลุ่มเป้าหมายกับแรงงานคนหนุ่มสาวซึ่งโดยส่วนใหญ่มาจากชนบทให้มาเข้าร่วมกิจกรรมกับคนเสื้อแดง ซึ่งจะเป็นหนทางหนึ่งที่พวกเราจะนำข่าวสารที่รัฐบิดเบือนรวมถึงข่าวสารของคนเสื้อแดงเมืองกรุงลงสู่ชนบทอีกด้วย เราสร้างกิจกรรมขึ้นมาอย่างเดียวไม่พอ พวกเราคนเสื้อแดงจะต้องมีจุดยืนทางการเมืองต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เช่น กรณีคำตัดสินของศาลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ตากใบ จุดยืนของเรานั้นจะต้องพูดว่าระบบศาลไม่ยืนอยู่บนหลักการของความเป็นธรรม บางทีเราควรมีคำขวัญให้ระบบศาลว่า "ฆ่าคนตายเป็นเรื่องปกติ พูดความจริงเป็นอาชญากร" หรือ การแบนสารคดีชีวิตเกี่ยวกับคนเป็นเอสด์ไม่ให้ออกอากาศฯ การมีจุดยืนทางการเมืองกรณีต่างๆคือการร่วมบริหารสังคมของพวกเราเองอย่างเป็นรูปธรรม เป็นการลดอำนาจของคนส่วนน้อย (พวกเหลือง พวกอำมาตย์ พวกเหลือบไรในนามระบบเทวดา) ที่พยายามควบคุมสังคม |
วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2552
บันทึกสมุดสีแดง (2) ว่าด้วย : สื่อ การสร้างสื่อและการจัดตั้งของคนเสื้อแดง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ผู้ติดตาม
คลังบทความของบล็อก
-
▼
2009
(430)
-
▼
มิถุนายน
(326)
- ไขปริศนาคดีฆาตกรรม “พระสุพจน์” ไฉนต้องเบี่ยงประเด็...
- [netizen] วิดีโอ จากการอบรมเรื่องสื่อพลเมือง Video...
- ประชาไท | Prachatai.com
- White Ocean Strategy โลกนี้ไม่ได้มีแค่ด้านเดียว
- จับตายัดไส้งบไทยเข้มแข็ง 5.7 แสนล. พัฒนาน้ำรับเหนา...
- "อาสาดำนาเพื่อน้อง" ในวันที่ 25-26 กรกฎาคม 2552 โ...
- ทุน API Fellowships Program
- โครงการ The Rockefeller Bellagio Residency Program
- ทีโอที-CAT เร่งติดตั้งไวไฟทั่วกรุง-หัวเมือง
- คดี"212คาเฟ่"ส่อยืดศาลนัดสืบพยานเม.ย.53
- ก.ไอซีทีเดินหน้า GCC 1111 ยันใช้งบคุ้มค่า
- วิจัยศักยภาพไอซีที
- เปิดสื่อสารความถี่ใหม่
- วอนรัฐสางปมไอที (1) : ช่วยทำอะไรสักอย่างกับกูเกิล
- ‘ไอทีเอส’ ระบบขนส่งอัจฉริยะ ฝันของคนใช้…ความจริงขอ...
- หลักเกณฑ์บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ภา...
- "ปฏิวัติทวิตเตอร์" กรณีศึกษา"นิวมีเดีย"ที่อิหร่าน
- เปิดชื่อ "16 ส.ส.ปชป.-6 พรรคร่วม-7 ฝ่ายค้าน "ถือคร...
- ประชาไท | Prachatai.com
- อบรมฟรีกับวิศวฯ จุฬาฯ
- เปิดรายชื่อส.ว.งัดข้อรัฐบาล คว่ำพรก.สรรพสามิต-ไม่เ...
- [netizen] ใบแจ้งข่าวเครือข่ายพลเมืองเน็ต เรื่อง กา...
- "เอลโมโต" สองผสานเป็นหนึ่งเดียว
- ยูเอ็นเอชซีอาร์ รายงานจำนวนผู้ลี้ภัย และผู้พลัดถิ่...
- ทายาท 24 มิถุนา
- ดร.หนุ่มคลื่นลูกใหม่จิราธิวัฒน์
- หุ่นยนต์ นักแปลงร่าง
- สานฝัน นวัตกรรมภูมิปัญญาไทย
- ศูนย์บริการภาครัฐที่มีเสมือนไม่มี / คอลัมน์ส่องควา...
- "ทีวีไทย"จัดทัพท้าชนช่อง 3-7 มุ่งสู่สื่อสาธารณะเต็...
- "เวลคอม"เปิดเกมรุกจับมือ"ทรูมูฟ"ซื้อมือถือแถมค่าโท...
- ไมโครซอฟท์ ยอม "อียู" "วินโดวส์ 7" ไม่พ่วง "ไออี"
- 5 ปี"เจริญ วัดอักษร" จุดพลุสู้เพื่อชุมชน
- แนะนำห้องสมุดเจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ รูปลักษณ์ให...
- เตือนภัย!...ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ ถูกโคลนนิ่งซิมฯ.....
- เปิดใจ "ศุภจี สุธรรมพันธุ์" ประสบการณ์และความท้าทา...
- ศึกแห่งศักดิ์ศรี การประปาฯ VS การทางพิเศษฯ เมื่อปม...
- กทช.เร่งแก้ปัญหาผูกขาดตลาดโทรคมนาคม
- "สอ เศรษฐบุตร" ตำนานดิกชันนารีไทย
- ดีกรีการเมือง"ร้อนฉ่า" "ไวรัส"ถล่มพรรคร่วม "มาร์ค"...
- ป.ป.ช.เผยอดีต"เลขาฯ สปส."ปิดข้อมูลคอมพ์ฉาวจน"บอร์ด...
- สุนทรภู่เข้าสำนักเรียนของ"ผู้ดี" วัดศรีสุดารามวรวิ...
- เผยเด็ก 3 จังหวัดชายแดนใต้ถูกละเมิดทางเพศ-ถ่ายคลิป
- รายงาน: สงครามเทคโนโลยี ในการประท้วงที่อิหร่าน
- สีสันประท้วงการเลือกตั้งในอิหร่าน จากสนามฟุตบอลสู่...
- SUI: "สงครามเน็ต" ว่อนอิหร่าน นักรบไซเบอร์แคนาดาช่...
- เสวนาสื่อหลัก V.S. สื่อทางเลือก ชวนพลเมืองทำข่าวเอง
- ตั้งแล้ว....สมาคมสมาพันธ์เครือข่ายเด็กและสตรีหูหนว...
- แฉกลเกมช่อง 3 สูบรายได้ อสมท เสียค่าโง่กว่าหมื่นล้...
- ประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทย "จอมบงการ"ความรุนแรงสา...
- วันที่ 19-21 มิ.ย.2552 เวลา 12.00-20.00 น. ที่สวนเ...
- เปิด FTA ภาคขนส่ง-โลจิสติกส์ (1) ผู้ประกอบการไทยจะ...
- เปิด FTA ภาคขนส่ง-โลจิสติกส์ (จบ) ผู้ประกอบการไทยจ...
- ลุ้นไม่ระทึกไลเซนส์ "3G" กทช. เรื่องเศร้าของค่ายมื...
- เปิดบัญชี อาวุธยุทธภัณฑ์และสิ่งที่ใช้ในการสงคราม ห...
- เปิดไส้ในเงินกู้ปั๊มศก.เฟสแรก 2 แสนล.ลงทุนแหล่งน้ำ...
- ตราไปรษณียากร ชุด 60 ปี ความสัมพันธ์ไทย-ฟิลิปปินส์
- ทำไม?คนไฟฟ้า นครหลวงชอบหม้อ.!
- ลั่น 4 เดือนผุด "เขื่อนไม้ไผ่"กู้แผ่นดิน
- ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด (2) / ทางเสือผ่าน
- NBC: Thai tabloids lurch btwn lurid and deferentia...
- บันทึกสมุดสีแดง (2) ว่าด้วย : สื่อ การสร้างสื่อและ...
- สภาที่ปรึกษาฯ : สภาที่ไม่ยอมเรียนรู้
- ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ติงสื่อไม่ควรเล่นกับ...
- วิทยุชุมชน: การมีส่วนร่วมของประชาชนในสื่อเพื่อชีวิ...
- ทุจริตสหกรณ์ห้วยบางทรายไม่จบ! รัฐล้มประชุมอ้างผิดก...
- แม่หญิงลาว...เธอผู้น่าสงสาร
- แรงงานพม่าที่แม่สอดสนใจข่าว ออง ซาน ซูจี
- รัฐสวัสดิการด้านสุขภาพ: ตรวจสอบระบบหลักประกันสุขภาพ
- "คพช." เสนอ รัฐบาล และทหารทบทวน "นโยบายการเมืองนำก...
- สถาบันอิศรา: รัฐไขปมใต้เดือดระลอกใหม่ กับคำถามถึงค...
- เครือข่ายพลเมืองเน็ต แจ้งข่าวการดำเนินคดี พ.ร.บ.คอ...
- บทบรรณาธิการ TIME: Twitter และสื่อใหม่ กำลังเปลี่ย...
- ประชาไท | Prachatai.com
- ซิมโฟนี 80 ปี จิตร ภูมิศักดิ์ "คนยังคงยืนเด่นโดยท้...
- 6 ว่าที่"ตุลาการศาล ปค.สูงสุด
- สนามบิน"เกาหลีใต้"คว้าที่ 1 ดีสุดในโลก เฉือนชนะฮ่อ...
- กก.สมานฉันท์เห็นชอบ"เลิกยุบพรรค-เพิ่มโทษคนทำผิด"
- "อัษฎางค์"จี้มท.สังคายนา ราชการภูมิภาค"แต่งตั้ง-เล...
- แผนกู้ 4 แสนล.เคลื่อนจีดีพีลบเกิน 4%
- "เรืองไกร"ร้องกกต.ใช้เงินกองทุนมิชอบ ชี้เปิดอบรมส....
- ตั้งกก.ศึกษารถเมล์ 4 พันคัน ป.ป.ช.ลุยเอง สภาพัฒน์ฯ...
- เตรียมดันร่างยุทธศาสตร์จัดการปัญหาบุคคลไร้สัญชาติ ...
- ใช้เป็น-รักษาดี 'ล้ำค่า' 'ฐานชีวภาพ' 'ขุมทรัพย์' ใ...
- พินัยกรรมชีวิต สิทธิการตาย...เลือกได้
- เว็บมาสเตอร์กับการกระทำผิดบนเน็ต : ความซับซ้อน และ...
- [netizen] บทความ : เว็บมาสเตอร์กับการกระทำผิดบนเน็...
- "เรืองไกร" ยื่น ป.ป.ช.สอบ กกต.ใช้เงินกองทุนพัฒนาพร...
- ก.เกษตรฯ เล็งของบ. 90 ล้าน เผาทำลายลำไยอบแห้ง
- เปิดรายงาน สตง.ชำแหละ"บ้านเอื้ออาทร" มรดกบาป"ทักษิ...
- ลำดับเหตุการณ์ประท้วง ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน เมษาย...
- ยานเกราะยูเครนจอดสนิท วิ่งเต้นกองทัพบกขอเปลี่ยนสเป...
- ชิงเค้กแสนล้านโครงการ"ไทยเข้มแข็ง"เพื่อ"นักการเมือ...
- 6 หน่วยสางปัญหารถ-เรือดับเพลิง "สุขุมพันธุ์" ชงเว้...
- ยธ.ชู "5 รั้วล้อมไทย พ้นภัยยาเสพติด" สกัดลอบขนยาแน...
- ส.ส.ใต้ ปชป.ฟันธง มือมืดสร้างสถานการณ์ไฟใต้ระอุ ลั...
- เลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับสีผิว
- 'ชิราคาวา-โก' หมู่บ้านในตำนาน
- การทาบกิ่งมะม่วงแนวใหม่
- จัดโซนทำเกษตรอินทรีย์ 100%
-
▼
มิถุนายน
(326)
เกี่ยวกับฉัน
- Net
- http://facthai.wordpress.com/ ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น