หุ่นลาดตระเวนพิเศษติดอาวุธ SWORDS
เป็นเวลานานพอสมควรแล้ว ที่คนเรารู้จักหุ่นยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกใช้ไปในวงการอุตสาหกรรม เพื่อให้ทำงานแทนมนุษย์ โดยเฉพาะงานที่ซ้ำซาก เช่น การใส่วงจรคอมพิวเตอร์ทั้งวันทั้งคืน หรืองานที่เสี่ยงอันตราย งานที่ต้องอยู่กับความร้อน ฯลฯ
แต่จนถึงปัจจุบัน การพัฒนาหุ่นยนต์ก็ยังไม่หยุดยั้ง โลกกำลังพยายามพัฒนาหุ่นยนต์ให้เหมือนคนมากที่สุด เพื่อให้เป็นเพื่อน เป็นผู้ดูแลมนุษย์ในอนาคต แต่ในอีกทางหนึ่ง ก็มีนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มที่พยายามพัฒนาหุ่นยนต์ที่มีความพลิกผันสูง ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่า หุ่นยนต์นักแปลงร่าง...หุ่นยนต์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงหน้าตา และลักษณะการทำงานได้ด้วยตัวเอง
พูดอย่างนี้ ท่านผู้อ่านไทยรัฐ ซันเดย์ สเปเชียล โดยทีมงานต่วย'ตูนอาจจะคิดว่า แหม ดูหนังมากเกินไปหรือเปล่า จะมีที่ไหน หุ่นยนต์ที่สามารถแปลงร่างได้จริงๆ
ถึงตรงนี้ ต้องยืนยันว่า "มี" และกำลังพัฒนาให้ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ หุ่นยนต์ที่แปลงร่างได้นั้น ส่วนใหญ่จะเกิดจากการประกอบขึ้นขององค์ประกอบขนาดเล็กที่เรียกว่าโมดูลหลายๆโมดูล คล้ายๆลักษณะของเล่นที่เรียกว่าเลโก้ คือสามารถทำโมดูลนั้นย้ายมาเชื่อมต่อกับโมดูลนี้ หรือขยับไปอีกนิดทางโน้น ฯลฯ และนั่นก็คือหัวใจของการแปลงร่าง ซึ่งในปัจจุบันก็เกิดหุ่นยนต์ที่สามารถแปลงร่างได้ในบางรูปแบบ เช่น เป็นลักษณะเหมือนห่วงโซ่ ตาราง หรือเส้นยาวคล้ายหนอน
หุ่นแปลงร่างขนาดยักษ์ที่สักวันอาจมีขึ้นจริง (ภาพจาก Transformers ภาค 2)
แล้วทำไมหุ่นยนต์ต้องแปลงร่างได้ด้วย
แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่คิดว่า ในการทำงานบางอย่าง เช่น การสำรวจ หากใช้หุ่นยนต์ที่มีลักษณะเพียงแบบใดแบบหนึ่ง หรือสามารถทำงานได้ลักษณะใดลักษณะหนึ่ง อาจจะไม่เพียงพอสำหรับการสำรวจในพื้นที่ที่มนุษย์เองก็ไม่รู้ว่าพื้นที่สำรวจนั้นมีลักษณะอย่างไร เช่น ส่งหุ่นยนต์ถ่ายภาพเข้าไปดีๆเกิดไปเจอท่อแคบๆก็คงต้องถอยกลับ แต่หากหุ่นยนต์สามารถแปลงร่างเป็นเหมือนตัวหนอน ก็สามารถแทรกร่างเข้าไปในท่อที่ว่านั้น และสำรวจต่อได้ หรือหากพบพื้นที่ขรุขระ ก็อาจจะแปลงร่างให้เกิดเป็นลักษณะมีขาเหมือนแมงมุม เพื่อให้เกาะยึดได้ดี หรือขดตัวกลมเหมือนลูกบอล เพื่อให้ไปเร็วขึ้น ฯลฯ
ในอนาคตอาจมีการนำหุ่นมาใช้ในการสู้รบกันอย่างจริงจัง
แนวคิดนี้ ถูกพัฒนาขึ้นด้วยความหวังที่ว่า อีกไม่ช้าไม่นาน การสำรวจอวกาศในอนาคตจะง่ายมากขึ้น ด้วยหุ่นยนต์นักแปลงร่าง ที่สามารถทำงานได้ทุกสภาพ แม้ไม่รู้สถานการณ์ล่วงหน้า
ปัจจุบันการพัฒนาหุ่นยนต์แปลงร่างนี้ ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น และคาดว่าจะเป็นความท้าทายอันยิ่งใหญ่ในอนาคตอันใกล้นี้ ที่การแปลงร่างจะเกิดขึ้นได้ในรูปแบบใหม่ๆ และยิ่งใหญ่ขึ้น จากการประกอบเพียงไม่กี่สิบโมดูล ก็จะกลายเป็นนับพันนับหมื่นโมดูล เกิดเป็นหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ที่อาจจะมาช่วยมนุษย์เราบุกเบิกการสร้างอาณานิคมบนดวงดาวอื่นๆ หรือแม้แต่การทำงานบนโลก เช่น การสำรวจทะเลลึก การทำเหมือง หรือการช่วยเหลือมนุษย์ในสภาพแวดล้อม ที่ลำบาก
หุ่นยนต์งูสายลับตัวล่าสุดของกองทัพอิสราเอล
พูดถึงสภาพแวดล้อมที่ลำบากแล้ว อดไม่ได้ที่จะต้องเอ่ยถึงการแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัยระดับนานาชาติ ซึ่งเด็กไทยเรานี่แหละที่เจ๋งสุดๆ เพราะเราได้เป็นแชมป์โลกมาแล้วถึง 3 สมัย โดยล่าสุดในการประกวดที่ประเทศจีนเป็นเจ้าภาพเมื่อกลางปีที่แล้ว คณะนิสิตจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามารถคว้ารางวัลที่ 1 มาครองได้สำเร็จ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทีมจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอม เกล้าพระนครเหนือเคยครองแชมป์โลกติดต่อกันมา 2 ปีซ้อน เรียกว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เด็กไทยเราไม่เคยยอมแบ่งรางวัลให้ใครเลยทีเดียว และนี่ ก็กำลังจะเข้าแข่งกันอีกเร็วๆนี้
และไม่ ว่าอย่างไร การแปลงร่างของหุ่นยนต์ เป็นสิ่งที่จะก้าวหน้าต่อไป ซึ่งคงจะต้องรอดูกันอีกสักพักว่าอีกหน่อยการแปลงร่างจะเกิดขึ้นได้ในรูปแบบไหนอีกบ้าง แต่สำหรับคนที่ขี้เกียจรอ ก็อาจจะมองต้นแบบของอนาคตได้ก่อนจากค่ายรถยนต์จีเอ็ม ซึ่งตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา จีเอ็ม ได้เผยโฉมออโต้บอทส์ รถยนต์สุดเท่ ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นที่จีเอ็มได้ร่วมมือกับผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง Transformers ภาคใหม่ ให้เป็นรถต้นแบบที่สามารถแปลงร่างมาจากหุ่นยนต์สุดเจ๋งได้และรถต้นแบบบางคันนี้ ก็จะมีการผลิตออกมาขายจริงๆในอีกปีสองปีข้างหน้า ส่วนการแปลงร่างได้จริงๆนั้น คงต้องรออีกนาน
หุ่นยนต์ที่สามารถเปลี่ยนไปเป็นเครื่องเล่นเอ็มพี 3
แต่หากจะเอาให้เร็ว เหล่าผู้ประดิษฐ์ของเล่นก็ดูเหมือนจะไปไกลกว่า อย่างตอนที่ภาพยนตร์เรื่อง Transformers ออกฉายเป็นครั้งแรก ผู้ผลิตชาวญี่ปุ่นก็ได้เปิดตัวรองเท้ากีฬาที่ "แปลงร่าง" ได้
มันคือ Transformers Sports Label หุ่นยนต์ที่สามารถแปลงร่างเป็นรองเท้ากีฬา ตบตาใครต่อใครได้อย่างแนบเนียน และที่คล้ายๆ กันเป็นเครื่องเล่นเอ็มพี 3 ชื่อ Transformers Music Label Soundwave ที่ใช้แนวคิดเดียวกันกับเจ้ารองเท้าหุ่นยนต์ นั่นคือ เป็นนักแปลงร่างที่สามารถเปลี่ยนไปมาระหว่างการเป็นหุ่น ยนต์หน้าตาขึงขังกับเอ็มพี 3 ได้
และเร็วๆนี้ก็มีการเปิดตัวหุ่นยนต์มิคกี้เมาส์ ที่สามารถแปลงร่างเป็นรถพ่วงได้ด้วย และอันที่จริง ยังมีของเล่นอีกหลายอันในรูปแบบคล้ายๆกันนี้ออกวางขายมาเรื่อยๆ
หุ่นยนต์นักแปลงร่างทั้งหลาย ได้รับการออกแบบโดยเลียนแบบมาจากภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Transformers ที่กล่าวถึงหุ่นยนต์ที่แปลงร่างได้ แล้วก็พากันกระโจนเข้าสู่สนามรบในดวงดาวอันไกลโพ้น
ทหารที่ควบคุมหุ่น SWORDS ด้วยคอมพิวเตอร์
ส่วนในโลกของเรานี้ หุ่นยนต์ก็มีเอี่ยวเข้าไปในสงครามกับเขาด้วยเหมือนกัน เริ่มตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่มีการใช้สิ่งที่เรียกว่าเทเลโรบ็อต หรือหุ่นยนต์ที่สามารถบังคับได้จากระยะไกล เดิมทีเทเลโรบ็อตถูกสร้างขึ้นเพื่อเข้าไปทำงานในสถานที่ หรือสภาพแวดล้อมที่มนุษย์เข้าไปไม่ได้ หรือเข้าไปแล้วอาจจะมีอันตราย เช่น สถานที่หนาวจัด ร้อนจัด หรือสถานที่กู้ภัย และในที่สุด พวกมันก็กระโจนเข้าสู่สงคราม เมื่อต้องเข้าไปทำงานในสนามรบ ด้วยหน้าที่ต่างๆ เช่น ติดกล้องสอดแนม ฝ่าดงระเบิด กู้ระเบิด เก็บตัวอย่างสารพิษ ฯลฯ สารพัดทีเดียวที่คนเราให้หุ่นยนต์เข้าทำงานเสี่ยงๆแทน
ปัจจุบันนี้หุ่นยนต์ บางรุ่นถึงกับถือปืนประจำ การอยู่ในสมรภูมิเลยทีเดียว เช่น ในอิรักและอัฟกานิสถาน ซึ่งมีหุ่น ยนต์ Special Weapons Observation Reconnaissance Detection System (SWORDS) หรือเจ้าหุ่นลาดตระเวนพิเศษติดอาวุธ ที่เปิดตัวออกใช้เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.2007 ที่อิรัก ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่หุ่นยนต์ถือปืนยืนอยู่ในชีวิตจริง แถมยังเป็นปืนกล พร้อมด้วยระบบที่ว่ากันว่ายิงแม่นสุดๆอีกด้วย
หุ่นยนต์ที่สามารถแปลงร่างเป็นรองเท้ากีฬาได้
แต่ก็ยังนับว่าโชคดีที่เจ้าหุ่นมูลค่า 230,000 เหรียญสหรัฐฯนี้ ได้แต่ลาดตระเวนและยืนจังก้าไม่เคยถูกสั่งให้ลั่นกระสุนจริงๆแต่ประการใด ดังนั้น จึงอาจถือได้ว่าบนโลกเรานี้ หุ่นยนต์ยังคงความเป็นมิตรมากกว่าที่จะเป็นจักรกลแห่งสงคราม
แต่บรรดาคนรักหุ่นยนต์ที่ชอบภารกิจแอ็กชั่นแบบบู๊สะบั้นด้วยนั้น มักจะชอบเจ้าหุ่นแปลงกายอย่างที่เล่าไว้ตอนต้นนั่นแหละ และจะว่าไป คนมักจะคิดว่าเจ้าหุ่นยนต์ที่แปลงกายได้นี้มีต้นตอดั้งเดิมมาจากภาพยนตร์ฮอลลีวูดเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ใช่หรอก
อันว่าเรื่อง Transformers ที่โด่งดังนั้น ที่แท้แล้วเคยเป็นการ์ตูนมาก่อน การ์ตูนเรื่องนี้เขียนขึ้นในสหรัฐอเมริกา แต่ถูกหอบข้ามนํ้าข้ามทะเลมาทำเป็นการ์ตูนอนิเมชั่นในญี่ปุ่น เพื่อออกฉายทางโทรทัศน์ตั้งแต่ ค.ศ.1984 และหลังจากฮิตระเบิดระเบ้อ ก็มีการออกเป็นการ์ตูนในลักษณะการ์ตูนเล่มตามมาอีก ก่อนจะกลายเป็นภาพยนตร์ในที่สุด และเจ้าหุ่นยักษ์ก็สร้างความฮือฮาให้บรรดาคนรักหุ่นยนต์อีกครั้ง เมื่อภาพยนตร์เรื่อง Trans-formers ภาค 2 กำลังจะเข้าฉาย ซึ่งทีมงานต่วย'ตูนเชื่อเหลือเกินว่า ด้วยแรงบันดาลใจจากหนังบวกกับจินตนาการอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์เรา จะทำให้มีหุ่นยนต์แปลงกายที่สามารถใช้งานได้จริง ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาในเร็ววันอย่างแน่นอน.
ทีมงาน ต่วย'ตูน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น