สังคมไทยเหลื่อมล้ำ ตามก้นสังคมอเมริกัน
คอลัมน์ สยามประเทศไทย
โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ
สังคมไทยมีความเหลื่อมล้ำมาก เช่น เหลื่อมล้ำด้านรายได้, เหลื่อมล้ำด้านศักดิ์ศรี, เหลื่อมล้ำด้านชนชั้น, ฯลฯ อาจมีความเหลื่อมล้ำด้านอื่นๆ อีก ล้วนเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งแตกร้าวอย่างลุ่มลึก
ความเหลื่อมล้ำนี้เป็นที่รู้ทั่วกันว่ามีต้นแบบอยู่ที่สังคมอเมริกัน สังคมไทยเอาอย่างสังคมอเมริกัน เลียนแบบอเมริกัน อยากเป็นอย่างอเมริกัน
สังคมอเมริกันเลือกเป็นทุนนิยมอุตสาหกรรม มีความเหลื่อมล้ำสูง "เพราะสังคมอเมริกันเลือกที่จะเป็นเช่นนั้นเอง ด้วยเชื่อว่าความเหลื่อมล้ำเป็นแรงจูงใจให้เศรษฐกิจเติบโต จึงไม่ได้ดำเนินมาตรการลดความเหลื่อมล้ำ" อาจารย์ผาสุก พงษ์ไพจิตร คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกไว้ในรายงานเรื่องความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ ความเหลื่อมล้ำด้านศักดิ์ศรี บาดแผลที่ร้าวลึกยิ่งกว่า (พิมพ์ในเนชั่น สุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม 2552 หน้า 23)
ราคา 195 บาท หลายคนคงนึกไม่ถึงว่าโครงสร้างทางประชากรไทยที่เป็นอยู่และที่กำลังเปลี่ยนไป เช่น จำนวนคนแก่ที่เพิ่มขึ้น จำนวนผู้หญิงที่มีมากกว่าชาย หรือจำนวนคนเกิดที่มีน้อยลง จะมีผลต่อเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าจะในฐานะลูกหลานของครอบครัว คนวัยกลางคนหรือใกล้เกษียณ ข้าราชการ นักเรียนนักศึกษา นักวิชาการ นักการเมือง นักธุรกิจ ลูกจ้าง หมอและพยาบาล นักสังคมสงเคราะห์ และคนในทุกสาขาอาชีพ คำถามที่เคยสงสัย เช่น ทำไมคนรุ่นอายุราว 26-46 ปี ใน พ.ศ.2552 หรือคนที่เกิดใน พ.ศ.2506-2526 ซึ่งปราโมทย์ ประสาทกุล เรียกคนรุ่นนี้ว่า "ประชากรรุ่นเกิด (เกิน) ล้าน" จะต้องสอบแข่งขันกันสอบเข้ามหาวิทยาลัย จนทำให้โรงเรียนสอนพิเศษผุดขึ้นราวดอกเห็ด ผิดกับคนรุ่นพ่อแม่ที่การแข่งขันนั้นยังไม่หนักหน่วง หรือทำไมเวลานี้ สาวๆ มักจะบ่นกันว่า เมื่อมองไปทางไหนก็พบเจอแต่เพื่อนฝูงเพศเดียวกัน หาชายหนุ่มที่ยังไม่มีคู่ครองได้ยากขึ้นทุกที ฯลฯ เรื่องราวพร้อมข้อมูลสถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับประชากรไทยและประชากรโลกในหนังสือเล่มนี้ จะตอบคำถามเรื่องประชากรศาสตร์ที่ค้างคาใจของใครหลายคนได้ |
ย้อนหลังกลับไปราว พ.ศ.2502-2503 50 ปีมาแล้วพอดิบพอดี เริ่มแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับแรก สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ครั้งนั้นมีนักคิดนักเขียน นักหนังสือพิมพ์กับนักวิชาการแสดงความเห็นคัดค้านการพัฒนาประเทศเป็นแบบอเมริกัน หรือ Americanization
แต่แล้วพวกคัดค้านถูกจับติดคุกขังลืมด้วยข้อหาคอมมิวนิสต์โดยถ้วนหน้าถึงกัน
ผลของการพัฒนาตามก้นอเมริกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา คือความเหลื่อมล้ำด้านรายได้, ด้านศักดิ์ศรี, ด้านชนชั้น, ฯลฯ จนหาช่องประนีประนอมให้ลดเข้าหากันลำบากมาก หรืออาจทำให้แคบลงไม่ได้เลย
สังคมไทยมีทางเลือกไหม? ถ้าไม่ตามก้นอเมริกัน
อาจารย์ผาสุกเล่าว่า ญี่ปุ่นและยุโรปเหนือเลือกไปสู่สังคมเสมอหน้า ด้วยเชื่อว่าความเสมอหน้าจะทำให้สังคมมีสันติสุขมากกว่า ขณะเดียวกันความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
แต่สังคมไทยเลือกตามก้นอเมริกันนาน 50 ปีมาแล้ว โดยไม่บันยะบันยัง และไม่เหลียวหลังแลหน้า เลยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาแนวทางสังคมเสมอหน้าแบบยุโรปเหนือกับญี่ปุ่น
สังคมไทยเลือกทุ่มเทสุดตัวสุดหัวใจให้อยู่ในโอวาทของสังคมอเมริกันที่มีความเหลื่อมล้ำสูงมาก คนชั้นนำและผู้มีส่วนกำหนดนโยบายเศรษฐกิจสังคมจึงเห็นเป็นปกติที่สังคมไทยมีความเหลื่อมล้ำสูงทั้งด้านรายได้, ด้านศักดิ์ศรี, ด้านชนชั้น ด้วยหวังว่าความเหลื่อมล้ำเป็นแรงจูงใจให้เศรษฐกิจเติบโต
แต่คนชั้นนำของไทยลืมไปว่าสังคมไทยอยู่ในโลกของวัฒนธรรมเถรวาทไทย ที่ท่องจำตามคำครูสอนเป็นนกแก้วนกขุนทองโดยไม่ยอมคิดค้นด้วยตนเอง เสมือนเรียนดนตรีไทยต้องไม่แหกคอกนอกครู มิฉะนั้นโดนกระทืบด้วยวัฒนธรรม
"คนไทยจำนวนมากรู้สึกว่าถูกเลือกปฏิบัติไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือถูกกดดันใจด้วยกลไกต่างๆ เสมือนมีเพดานที่มองไม่เห็นกดทับพวกเขาไว้ไม่ให้พุ่งทัดเทียมคนอื่นๆ หรือทำให้เขาไม่สามารถพัฒนาศักยภาพด้วยตนเอง" อาจารย์ผาสุกบอกถึงเพดานที่มองไม่เห็นกดทับคนไทยจำนวนมาก
ในแง่ประวัติศาสตร์โบราณคดีและวัฒนธรรมก็มีเพดานที่มองไม่เห็นกดทับความรู้แท้จริงไว้มากมาย เช่น จารึกพ่อขุนรามคำแหง กับพระแท่นมนังคศิลาบาตร ฯลฯ เลยทำให้มีความเหลื่อมล้ำด้านวัฒนธรรมอย่างเจ็บปวดรวดร้าวถึงปรโลก
หน้า 21
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01pra03020652§ionid=0131&day=2009-06-02
See all the ways you can stay connected to friends and family
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น