"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Blognone
Share |

Suthichai Online - ข่าวประจำวัน

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2552

การได้มา ของสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ชุดที่ 3

วันที่ 02 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11406 มติชนรายวัน


การได้มา ของสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ชุดที่ 3


โดย บุญมา นากลางเมือง



เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา การเลือกกันเองให้เป็นสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) ชุดที่ 3 จากจำนวน 991 คนให้ได้ 99 คน นับว่ารุนแรงในการจะตัดสินใจให้ได้หนึ่งในสิบพอสมควรและต้องเลือกกันมากกว่า 1 รอบ เพราะคะแนนเท่ากันในบางกลุ่ม

เมื่อการเลือกกันเองสิ้นสุดลงมีการนินทาทางลบเกี่ยวกับการจัดกลุ่มเลือกกันเองนั้นมีสิ่งแฝงเร้นอยู่เป็นอันมาก อันจะนำมาสู่การฟ้องร้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมา

จากอดีตที่มีข่าวฟ้องร้องศาลปกครองจนพิพากษาแล้วมีการอุทธรณ์ ยุ่งเหยิงเป็นวัวพันหลักเพราะความไม่ชัดเจนของข้อกฎหมายที่ใช้ตาม พ.ร.บ.การจัดตั้ง การได้มาของสมาชิกโดยเฉพาะการลอกเลียนแบบใช้บล็อคโหวต บังคับให้กลุ่มเลือกคนที่มีความคาดหวังจะได้เป็นด้วยจำนวนเสียงข้างมาก

คนที่รับจ้างโหวตจึงเกิดขึ้นจะเต็มใจหรือไม่ขึ้นกับอิทธิพลของกลุ่ม เพราะมีเสียงซุบซิบนินทามาตลอดว่ามีการจ่ายเงินให้คนละแสนถึงล้านบาทเพื่อให้ได้เป็นสมาชิกเพราะแรงจูงใจคือเกียรติยศ ชื่อเสียง และถึงขั้นได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย หากพ่อค้าบางคนใช้เงินว่าจ้างขบวนการกลุ่มให้จ้างคนโหวตเลือกตนเข้าไปด้วยคะแนนสูงสุดด้วยเงินเพียงเท่านั้นนับว่าคุ้มทุนมาก นิสัยเช่นนี้ไม่ใช่มีเฉพาะพ่อค้า นักการเมืองก็เข้าไปมีอิทธิพลทางอ้อมด้วย

การเลือกตั้งที่อาจเป็นการทุจริตทำผิดตามระเบียบข้อบังคับ ด้วยเจตนาของศรีธนญชัย หัวหมอเกิดขึ้นต้องฟ้องร้องเรียกร้องให้ศาลไต่สวนและตัดสินให้เด็ดขาดต่อไป

หากคำนินทานั้นเป็นจริงก็น่าเสียดายว่าองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่เป็นอิสระนี้ได้สมาชิกที่ใช้เงินซื้อเข้าไปจะทำให้ภาพลักษณ์ไม่แจ่มใสนัก จะไปคาดหวังความสง่างามได้อย่างไรกับสภาอันทรงเกียรติที่ปรึกษาของ ครม.ต้องนำไปใช้งาน

ประเด็นที่สำคัญคือการได้มาของสมาชิก สป.ต้องสะสางกันใหม่เพื่อให้โปร่งใสและตรวจสอบด้วยภาคประชาชนอย่างเข้มงวดและเพื่อให้บริสุทธิ์ยุติธรรมควรใช้วิธีจับสลากเหมือนนักเรียนเข้าเรียนในโรงเรียนที่อยากได้ เมื่อปริมาณความต้องการมากกว่าของที่มีอยู่ต้องเล่นเก้าอี้ดนตรีหรือขึ้นกับโชควาสนาที่เสี่ยงจับสลากแทน เพราะการบล็อคโหวตเป็นต้นเหตุ

ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินว่าข้อกฎหมายใดที่เกิดข้อขัดแย้งในกฎหมายรัฐธรรมนูญ จะเห็นจากการยุบพรรคการเมืองที่ทุจริต การวินิจฉัยสิ่งที่องค์กรทำการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นแบบให้ปฏิบัติ การปฏิวัติรัฐประหารแต่ละครั้งมักโทษว่ามีช่องโหว่ทางกฎหมายที่ ส.ส.ในรัฐสภาซื้อสิทธิขายเสียงมาแล้วชักทุนคืนในภายหลัง ต้องแก้กฎหมายการได้มาของ ส.ส. อุดช่องว่างไม่ให้ใช้เงินซื้อเสียง แต่ดูเหมือนศรีธนญชัยจะหลบหลีกไปได้เสมอ แม้ กกต.จะตรวจสอบเข้มงวดก็จับได้เป็นส่วนน้อย ส่วนที่เล็ดลอดได้ก็จะไม่แสดงออกให้พิรุธ แต่ความเป็นจริงนั้นคนซื้อเสียง คนขายเสียงรู้กัน เพราะโลกนี้ไม่มีใครโกหกตนเองได้

ความไม่โปร่งใสของกรรมการสรรหาที่ให้สมาชิก สป.เดิม มีส่วนได้เสียเป็นกรรมการ และซ้ำร้ายกรรมการบางคนยังส่งคู่สมรส บุตร เข้าไปรับการคัดเลือกอีก มีประเด็นทางกฎหมายที่ศาลสั่งว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้วเช่นกันในการคัดเลือกลักษณะนี้

การที่องค์กรเสนอตัวสมัครให้คัดเลือกในระดับความมีตัวตนแท้จริง มีกิจกรรมแล้วองค์กรเสนอชื่อสมาชิก บุคคลที่มีคุณสมบัติเข้าไปประกวด เหมือนพรรคการเมืองส่งสมาชิกเข้ารับการเลือกตั้ง การสรรหาผู้เหมาะสมให้ไปเลือกกันเองก็เหมือน ส.ส.ไปเลือกกันเองว่าใครจะเป็นรัฐบาล เสียงข้างน้อยจะเป็นฝ่ายค้าน

แต่ สป.นั้นเลือกกันเองด้วยคะแนนอิงกลุ่มบล็อคโหวต คนที่ไปโหวตด้วยการเสียสละคะแนนเลือกตัวเองให้คนที่กลุ่มคาดหวังจะไปเป็นสมาชิก จึงมีบางคนได้คะแนนศูนย์เพราะยกคะแนนให้กลุ่มบางกลุ่มจึงได้คะแนน 3 เท่าของจำนวนที่ต้องการ เช่นฐานอาชีพจะแบ่งเป็น 7 หมวดมีคน 96 คน เลือกกันเองให้ได้ 17 เสียง จึงจะสอบติด ปรากฏว่า แต่ละคนได้คะแนนถึง 38-49 คะแนน เป็นจำนวนที่สอบผ่าน ที่เหลือ 79 คนสอบตก

ตัวเลขนี้น่าศึกษามากว่ากลุ่มบล็อคโหวตทำได้อย่างไรที่ได้คะแนนมากขนาดนั้น คำตอบคือการจัดตั้งมุ้งใหญ่ขึ้น ส่งคนที่อยากจะเป็นให้ได้คะแนนสูง คนที่ไม่อยากเป็น (เพราะถูกว่าจ้างหรือจับสลากไม่ให้ลงคะแนนให้ตนเอง) ก็ไม่ต้องใช้คะแนน คนนอกกลุ่มก็เป็นเพียงตัวประดับจะมีการจัดตั้งกลุ่มบล็อคโหวตนี้สองสามกลุ่มในแต่ละกลุ่มภาคต่างๆ ที่รวมแล้ว 991 คน ที่คัดให้เหลือ 99 คนดังกล่าว

การตั้งบล็อคโหวตจะต้องเจตนาซื้อขายตำแหน่งหรือไม่ก็ตามทำให้เห็นถึงการจัดตั้งรัฐบาลที่ล้มลุกคลุกคลานเพราะทุจริตเป็นต้นเหตุ แต่ที่ สป.คงไม่ได้กินคำใหญ่ขนาดนั้น เพียงแต่ว่าการสมประโยชน์เกื้อกูลกันในการแบ่งปันงบประมาณ การจัดกิจกรรม วิจัย การเดินทางไปทัศนศึกษา การใช้เงินไปเพื่อกิจกรรมในการประชุมการรับรองต่างๆ แม้เงินงบประมาณไม่มากนัก แต่เป็นสิ่งที่เชิดหน้าชูตาเพราะอยู่ในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญที่ทรงเกียรติ มีสมาชิกทุกภาคส่วน ความรู้ประถมศึกษาจนถึงดุษฎีบัณฑิต ฐานะทางเศรษฐกิจจากเดือนละเป็นพันบาทจนถึงระดับสิบล้านบาท สมาชิกอยู่ร่วมกันได้ในฐานะเดียวกันคือที่ปรึกษาและมีเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตอบแทนความดีความชอบที่เสียสละตนเองมาเป็นที่ปรึกษาซึ่งได้เพียงค่าเบี้ยประชุมเดือนละไม่ถึงหมื่นบาทและค่าที่พัก ค่าเดินทางระดับซี 9 ของข้าราชการวาระละ 3 ปีเป็นได้ไม่เกิน 2 วาระ

พฤติกรรมของสมาชิกมีงานวิจัยบ่งบอกว่ามีทั้งรู้จริงและไม่รู้อะไรมากนัก เพราะซื้อเสียงเข้ามา บางรายเซ็นชื่อเข้าประชุมเอาเบี้ยเลี้ยงแล้วรีบออกจากห้องเพราะพูดไม่เป็นเนื่องจากขาดสติปัญญาที่แท้จริง บางรายขาดประชุมเพราะไม่มีเวลาต้องทำธุรกิจส่วนตัว บางรายเอาแต่ทัวร์ต่างจังหวัด ต่างประเทศ เกาะกลุ่มดูงานทัศนศึกษา หรือทำงานฉาบหน้า เป็นข่าวในสื่อมวลชน พฤติกรรมนี้เหมือน ส.ส. และ ส.ว.เช่นกัน

การฟ้องร้องของคนที่ผิดหวังไม่ได้รับการคัดเลือกตั้งแต่การสรรหาจนถึงการคัดเลือกกันเอง เป็นเหตุไม่สงบซึ่งข้อครหาที่รัฐบาลต้องสะสางคือ การได้มาซึ่งกรรมการสรรหา คัดเลือกองค์กรกระดาษ (เสมือนตั้งโต๊ะบิลเลียด) สมาชิกที่องค์กรส่งมีการเล่นพรรคเล่นพวก ติดสินบนกันขนาดไหน กรรมการบางคนเป็นสมาชิก สป.อยู่ย่อมมีส่วนได้เสีย แล้วส่งลูกผัวเมียตนเองก็มี กรรมการบางคนไม่ได้ไปประชุมด้วยตนเอง ให้ลูกน้องไปทำการแทนและตัดสินใจได้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ประเด็นเหล่านี้มีการฟ้องกันอยู่ทุกครั้ง เมื่อคัดกันเองก็มีเสียงบล็อคโหวตที่แลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน

ดูเหมือนเรื่องเงินจะเป็นเหตุทำให้คนที่จัดกระบวนการเรียกคนโหวตจะเป็นเหมือนซื้อสิทธิขายเสียงที่ทำได้เนียนมาก และแบ่งกันได้อิ่มเอมพอสมควร

ใครจะจัดการเรื่องซื้อสิทธิขายเสียงที่ระบาดไปทุกวงการได้บ้าง ข้าราชการอยากได้เลื่อนตำแหน่งต้องใช้เงินซื้อหรือแลกด้วยเพศสัมพันธ์ อธิบดีต้องจ่ายไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท จนถึงระดับรัฐบาลอยากเป็นรัฐมนตรีต้องจ่ายเป็นร้อยเป็นพันล้านเข้าพรรค ขนาดเด็กอนุบาลจะเป็นหัวหน้าชั้นยังต้องต้องติดสินบนด้วยขนม ติดนิสัยซื้อตำแหน่งไปจนโต แล้วคนดีๆ ที่ไม่มีปัญญาหาเงินจะทำอย่างไร คนที่มีเงิน (โกงมาหรือเป็นร่างทรงเศรษฐี) ย่อมได้โอกาสมากกว่า

หากได้คนโง่ก็โชคร้าย ได้คนฉลาดแกมโกงก็จะวิบัติเพราะคนเฉลียวฉลาดนั้นหากโกงแล้วยากที่จะจับได้

ส ป.เป็นที่รวมของคนที่มีสติปัญญา เป็นถึงที่ปรึกษา หากพ่อค้าที่มุ่งกำไรกระทำสิ่งใดที่แฝงเร้นน่าเป็นห่วงมากสำหรับความคาดหวังของสังคม

จึงได้บอกว่าเลิกบล็อคโหวตนี้เสีย

ให้การสรรหาโปร่งใสและจับสลากกันจะดีกว่า เพื่อมิให้วงการต่างๆ เลียนแบบการบล็อคโหวตนี้อีก

เลิกเสียทีกับการทำงานไม่โปร่งใสไม่เป็นธรรมไม่เป็นกลาง ไม่เป็นตามกฎระเบียบข้อบังคับ

ขณะนี้มีการฟ้องร้องศาลปกครองกลางคดี 705/2552 เรียบร้อยแล้ว และกำลังมีผู้มีส่วนได้เสียร้องทุกข์ แถลงข่าวต่ออีก อะไรจะขนาดนั้นกับเรื่องซื้อสิทธิขายเสียงที่ระบาดไปแทบทุกหย่อมหญ้าขนาดนี้


หน้า 6
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01act03020652&sectionid=0130&day=2009-06-02


What can you do with the new Windows Live? Find out

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
http://facthai.wordpress.com/ ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew