วันที่ 04 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11408 มติชนรายวัน
สื่อ-เป็นกลาง-เลือกข้าง-ความรุนแรง
โดย บุญเลิศ ช้างใหญ่
มีคนทำสื่อสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์จำพวกหนึ่งประกาศตัวตนว่าเป็นสื่อที่ "เลือกข้าง" โดยจะเลือกอยู่ข้างความถูกต้อง และขอทำหน้าที่เป็น "ตะเกียง" ไม่เอาแล้วกับการเป็น "กระจก" ที่คอยสะท้อนภาพ เพราะสังคมไทยทุกวันนี้มันมืดมิดสิ้นดี
ขณะเดียวกันก็วิพากษ์ (ความจริงควรใช้คำว่าโจมตี) สื่อที่ประกาศว่าจะทำหน้าที่อย่าง "เป็นกลาง" ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง พร้อมกับเปรียบเทียบว่าระหว่างพระกับโจรจะไม่มีคำว่าเป็นกลาง แต่ต้องเลือกเอาการอยู่ข้างพระ
และระหว่างข้าวกับขี้ ถ้าเป็นกลางก็กินข้าวกับขี้ผสมกันอย่างนั้นหรือ ที่ถูกต้องเลือกกินข้าว
ฟังดูผิวเผินก็น่าจะเข้าท่าเข้าที มีเหตุผล แต่หากพิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนบนหลักการของการเป็นสื่อในสังคมในประชาธิปไตย ที่ถือเอาการมีเสรีภาพในการเสนอข่าวสารและการแสดงความคิดเห็นเป็นหัวข้อสำคัญที่จะต้องควบคู่ไปกับความรับผิดชอบทั้งต่อกฎหมายและจริยธรรมแห่งวิชาชีพแล้ว คำว่า "เป็นกลาง" กับ "เลือกข้าง" จำเป็นจะต้องทำความเข้าใจในหมู่คนทำสื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การละทิ้งบทบาทของการเป็น "กระจก" กระทำได้หรือ หาไม่แล้วการวิวาทะอาจไม่ได้เกิดผลในทางสร้างสรรค์ต่อวงการสื่อและความเข้าใจผิดก็จะขยายไปยังผู้รับสื่อ จนสุดท้ายวิชาชีพสื่อก็จะลดทอนความศรัทธาในหมู่ประชาชนเฉกเช่นเดียวกับนักการเมืองไทยที่กำลังประสบภาวะ "วิกฤตศรัทธา" อยู่ในเวลานี้
ในตำราวิชาการด้านสื่อสารมวลชนว่าด้วยข่าว บางสำนักบอกว่าข่าวจะต้องมีความเป็นกลาง ความหมายก็คือ การรายงานข้อเท็จจริงของเหตุการณ์โดยปราศจากอคติและความลำเอียงใดๆ แม้จะทำได้ยากยิ่งเพราะบางครั้งคนทำสื่อที่มีกระบวนการทำงานของนักข่าว หัวหน้าข่าว รีไรเตอร์ บรรณาธิการข่าว ฯลฯมักใช้อารมณ์ความรู้สึกและความคิดเห็นส่วนตัวหรือนโยบายขององค์กรสื่อใส่ลงไปปะปนในเวลารายงานข่าวหรือเหตุการณ์ต่างๆ
การพาดหัวข่าว การเขียนความนำหรือโปรยข่าวก็ต้องมีความเป็นกลางตามนัยยะที่ว่านี้ด้วย
ส่วนการแสดงความคิดเห็นนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตำราวิชาการบอกว่า สามารถแสดงออกผ่านบทวิเคราะห์ วิจารณ์ ไม่ใช่ไปใส่ไว้ในข่าว กระนั้นบทความแสดงความคิดเห็นจะเลือกข้างไหน อย่างไรก็พึงให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ในแง่ของข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ประกาศโดยสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ พ.ศ.2541 ทั้งการเสนอข่าวสารหรือการแสดงความคิดเห็นไม่ได้ใช้คำว่า "เป็นกลาง" ขอนำเสนอ ดังนี้
ข้อ 8 หนังสือพิมพ์ต้องละเว้นการเสนอข่าวเพราะความลำเอียงหรือมีอคติจนเป็นเหตุให้ข่าวนั้นคลาดเคลื่อนหรือเกินจากความเป็นจริง
ถามว่า สื่อที่บอกว่าเลือกข้างความถูกต้องและจะเลือกกินข้าวนั้น การเสนอข่าว การเขียนโปรยข่าวและพาดหัวข่าวนั้นลำเอียงหรือมีอคติต่อบุคคล กลุ่มหรือพรรคที่ตนถือว่าเป็นคนละข้าง คนละสีหรือไม่ และการกระทำเช่นนั้นขัดต่อจริยธรรมข้อ 8 นี้หรือไม่
ข้อ 18 ในการแสดงความคิดเห็นหรือการวิพากษ์วิจารณ์หนังสือพิมพ์ต้องให้ความเที่ยงธรรมแก่ฝ่ายที่ถูกพาดพิงเสมอ
นี่ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่การเลือกข้างความถูกต้องของสื่อบางจำพวกจะต้องตอบให้ได้ว่า ให้ความเที่ยงธรรมกับฝ่ายที่ถูกพาดพิงมากน้อยแค่ไหนหรือไม่มีความเที่ยงธรรมให้กับคนเหล่านั้น
การใส่ความเห็นและด่วนวินิจฉัยว่าคนนั้นผิด คนนี้เลวไปเสียก่อน สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติเคยมีคำวินิจฉัยเมื่อ 15 ตุลาคม 2550 ว่าเป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรมและให้ลงโทษด้วยการตักเตือนหนังสือพิมพ์
พฤติการณ์ก็คือ หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ประจำวันที่ 20 ธันวาคม 2549 เขียนบรรยายใต้ภาพว่า "แคชเชียร์แสบ" โดยรายงานข่าวว่าแคชเชียร์สตรี ระบุชื่อ นามสกุล ประจำร้ายเซเว่นอีเลฟเว่น ในปั๊มน้ำมันปิโตรเลียม อ.เถิน จ.ลำปาง ทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายหลังขโมยเงิน 7,000 บาท ไปซื้อโทรศัพท์มือถือ ต่อมาแคชเชียร์ผู้นี้ได้ร้องมายังสภาการหนังสือพิมพ์ว่าได้รับความเสียหายต่อประวัติชีวิต ครอบครัว ญาติพี่น้อง
คำวินิจฉัยของสภาการหนังสือพิมพ์ฯมีดังนี้ "...คำบรรยายใต้ภาพที่ระบุว่า "แคชเชียร์แสบ" เป็นการใส่ความเห็นในข่าวเพราะถือเป็นการตัดสินไปเองก่อน ทั้งที่ขณะนั้นผู้ตกเป็นข่าวเป็นเพียงผู้ต้องหา ยังไม่อาจถือว่าเป็นผู้กระทำความผิดจนกว่าศาลจะได้พิพากษา การเสนอข่าวเช่นนี้ถือว่าเป็นการละเมิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ข้อ 7 และ 8..."
แม้สภาการหนังสือพิมพ์ฯจะมีคำวินิจฉัยไว้เช่นนี้ แต่การละเมิดจริยธรรมของหนังสือพิมพ์ในลักษณะนี้ก็ยังปรากฏกันอยู่โดยทั่วไปและดูเหมือนว่าจะหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าการเขียนว่า "แคชเชียร์แสบ" เป็นหลายเท่า
กับการแสดงบทบาทของสื่อประเภทเป็น "กระจก" หรือ "ตะเกียง" หรือทั้งสองอย่างต่อวิกฤตความขัดแย้ง แตกแยก แบ่งฝ่าย ปฏิเสธไม่ได้ว่าสื่อได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง แตกแยก แบ่งฝ่ายนั้นด้วยและวงการสื่อก็ถูกตั้งคำถามจากผู้คนในสังคมว่าทำนองว่าสื่อใช้ไม่ได้ สื่อไม่เป็นกลาง สื่อไม่ให้ความเป็นธรรม จึงไม่ดู ไม่อ่าน ขณะเดียวกัน สื่อก็โจมตีกันเอง
อาจเป็นเรื่องยากหรือเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาแพ้เอาชนะโดยพิจารณาจากการกล่าวหา โจมตีกันเองของสื่อ แต่สิ่งที่ควรคำนึงก็คือ องค์กรวิชาชีพสื่อได้ออกแถลงการณ์มาเป็นระยะซึ่งน่าจะเป็นแนวทางที่คนทำสื่อควรรับฟังแล้วนำมาทบทวนเพื่อปรับปรุงการทำหน้าที่ให้ดีขึ้น เช่น
1 ธันวาคม 2551 สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ ข้อ 3 ระบุว่า
"... ในสถานการณ์ความขัดแย้ง แตกแยกอย่างรุนแรงของสังคมขณะนี้ สื่อควรนำเสนอข่าวที่สมดุล รอบด้าน ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นักข่าว ผู้ประกาศข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวต้องทำงานอยู่บนพื้นฐานความเป็นมืออาชีพ ไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลใดๆ ที่จะไปเพิ่มความรุนแรงหรือความขัดแย้งในสังคม......"
4 พฤษภาคม 2552 7 องค์กรสื่อประกอบด้วย สภาการหนังสือพิมพ์ฯ สมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์ฯ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ สมาคมผู้ดูแลเว็บไทยและสมาคมเคเบิลทีวีฯ รียกร้อง "ยุติความรุนแรง" ออกแถลงการณ์วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก ข้อ 5 ระบุว่า
"สื่อมวลชนทุกแขนง โดยเฉพาะสื่อที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือการต่อสู้ทางการเมืองของกลุ่มการเมืองต่างๆ ต้องไม่นำเสนอข่าวที่ยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งและนำไปสู่ความรุนแรง โดยขอให้ยึดการปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพที่ต้องคำนึงถึงความถูกต้อง รอบด้าน ไม่แข่งขันด้านความเร็วในการนำเสนอ เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสนและเข้าใจผิดต่อสถานการณ์"
4 พฤษภาคม 2552 เครือข่าย 21 องค์กรประกาศปฏิญญาประชาชน 9 ข้อ "ไม่ทำร้ายประเทศไทย ไม่ใช่ความรุนแรง" ข้อ 6 ระบุว่า
"เราขอวิงวอนให้สื่อมวลชนรักษาจรรยาบรรณ โดยไม่ใช้สื่อซึ่งเป็นพาหะนำข่าวสารที่ถูกต้องไปยังประชาชนไปเพื่อประโยชน์ทางการเมืองหรือเศรษฐกิจของตนเองหรือของกลุ่ม และละเว้นการแสดงความคิดเห็นในลักษณะที่สร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนด้วยกันเอง"
ทั้งนี้ เครือข่าย 21 องค์กรแสดงความวิตกไว้ในส่วนอารัมภบทของปฏิญญาประชาชนก่อนจะเรียกร้อง วิงวอน 9 ข้อ ด้วยประโยคที่ว่า "...ความขัดแย้งรุนแรงทางการเมืองนี้ก็ยังสร้างรอยร้าวทางสังคมลึกลงไปยังภูมิภาคต่างๆ จนถึงในครอบครัว เราเห็นว่าหากปล่อยให้การณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ สังคมไทยก็จะแตกเป็นเสี่ยง ทั้งยังอาจเกิดสงครามกลางเมืองที่คนไทยลงมือเข่นฆ่าคนไทยด้วยกันเอง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของราชอาณาจักรและชาติไทยก็จะสูญสลาย นำความพ่ายแพ้ สูญเสียยับเยินมาสู่คนไทยทุกคนทั้งชาติ..."
ท่าทีและจุดยืนขององค์กรวิชาชีพสื่อ ตลอดจน 21 องค์กรเครือข่าย "หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ความรุนแรง" ที่เรียกร้องไปยังสื่อมาตามลำดับนั้น ไม่น่าจะเข้าใจยากและหากหวนกลับมาตั้งหลักในความเป็นสื่อที่แท้จริงก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะแสดงบทบาทเพื่อนำความปรองดองกลับคืนสู่สังคมไทย
เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ อยากเห็นสื่อมีส่วนช่วยคลี่คลายวิกฤตความขัดแย้ง แตกแยก ไม่ใช่ไปขยายให้ขัดแย้ง แตกแยกกันมากขึ้น ไม่เช่นนั้น "สงครามกลางเมืองที่คนไทยลงมือเข่นฆ่าคนไทยด้วยกันเอง" ที่ 21 องค์กรเครือข่ายกำลังกังวล อาจจะเป็นจริงก็ได้
ถึงตอนนั้นสื่อจะเป็นกระจกหรือตะเกียงไปเพื่ออะไร
และจะตอบอย่างไรหากมีคนไทยชี้หน้าถามมายังคนทำสื่อทั้งหลายว่าตกลงกันได้หรือยังว่า สื่อควรเป็นกลางหรือเลือกข้าง จะเป็นตะเกียงหรือกระจก
หรือควรทำหน้าที่ทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กันด้วยความรับผิดชอบต่อจริยธรรมที่องค์กรวิชาชีพสื่อเพียรเรียกร้อง วิงวอนเสียแต่วันนี้ เพราะบางทีการรอถึงวันพรุ่งนี้อาจสายเกินไปก็ได้ ?!?
หน้า 6
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01act03040652§ionid=0130&day=2009-06-04
check out the rest of the Windows Live™. More than mail–Windows Live™ goes way beyond your inbox. More than messages
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ผู้ติดตาม
คลังบทความของบล็อก
-
▼
2009
(430)
-
▼
มิถุนายน
(326)
- ไขปริศนาคดีฆาตกรรม “พระสุพจน์” ไฉนต้องเบี่ยงประเด็...
- [netizen] วิดีโอ จากการอบรมเรื่องสื่อพลเมือง Video...
- ประชาไท | Prachatai.com
- White Ocean Strategy โลกนี้ไม่ได้มีแค่ด้านเดียว
- จับตายัดไส้งบไทยเข้มแข็ง 5.7 แสนล. พัฒนาน้ำรับเหนา...
- "อาสาดำนาเพื่อน้อง" ในวันที่ 25-26 กรกฎาคม 2552 โ...
- ทุน API Fellowships Program
- โครงการ The Rockefeller Bellagio Residency Program
- ทีโอที-CAT เร่งติดตั้งไวไฟทั่วกรุง-หัวเมือง
- คดี"212คาเฟ่"ส่อยืดศาลนัดสืบพยานเม.ย.53
- ก.ไอซีทีเดินหน้า GCC 1111 ยันใช้งบคุ้มค่า
- วิจัยศักยภาพไอซีที
- เปิดสื่อสารความถี่ใหม่
- วอนรัฐสางปมไอที (1) : ช่วยทำอะไรสักอย่างกับกูเกิล
- ‘ไอทีเอส’ ระบบขนส่งอัจฉริยะ ฝันของคนใช้…ความจริงขอ...
- หลักเกณฑ์บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ภา...
- "ปฏิวัติทวิตเตอร์" กรณีศึกษา"นิวมีเดีย"ที่อิหร่าน
- เปิดชื่อ "16 ส.ส.ปชป.-6 พรรคร่วม-7 ฝ่ายค้าน "ถือคร...
- ประชาไท | Prachatai.com
- อบรมฟรีกับวิศวฯ จุฬาฯ
- เปิดรายชื่อส.ว.งัดข้อรัฐบาล คว่ำพรก.สรรพสามิต-ไม่เ...
- [netizen] ใบแจ้งข่าวเครือข่ายพลเมืองเน็ต เรื่อง กา...
- "เอลโมโต" สองผสานเป็นหนึ่งเดียว
- ยูเอ็นเอชซีอาร์ รายงานจำนวนผู้ลี้ภัย และผู้พลัดถิ่...
- ทายาท 24 มิถุนา
- ดร.หนุ่มคลื่นลูกใหม่จิราธิวัฒน์
- หุ่นยนต์ นักแปลงร่าง
- สานฝัน นวัตกรรมภูมิปัญญาไทย
- ศูนย์บริการภาครัฐที่มีเสมือนไม่มี / คอลัมน์ส่องควา...
- "ทีวีไทย"จัดทัพท้าชนช่อง 3-7 มุ่งสู่สื่อสาธารณะเต็...
- "เวลคอม"เปิดเกมรุกจับมือ"ทรูมูฟ"ซื้อมือถือแถมค่าโท...
- ไมโครซอฟท์ ยอม "อียู" "วินโดวส์ 7" ไม่พ่วง "ไออี"
- 5 ปี"เจริญ วัดอักษร" จุดพลุสู้เพื่อชุมชน
- แนะนำห้องสมุดเจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ รูปลักษณ์ให...
- เตือนภัย!...ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ ถูกโคลนนิ่งซิมฯ.....
- เปิดใจ "ศุภจี สุธรรมพันธุ์" ประสบการณ์และความท้าทา...
- ศึกแห่งศักดิ์ศรี การประปาฯ VS การทางพิเศษฯ เมื่อปม...
- กทช.เร่งแก้ปัญหาผูกขาดตลาดโทรคมนาคม
- "สอ เศรษฐบุตร" ตำนานดิกชันนารีไทย
- ดีกรีการเมือง"ร้อนฉ่า" "ไวรัส"ถล่มพรรคร่วม "มาร์ค"...
- ป.ป.ช.เผยอดีต"เลขาฯ สปส."ปิดข้อมูลคอมพ์ฉาวจน"บอร์ด...
- สุนทรภู่เข้าสำนักเรียนของ"ผู้ดี" วัดศรีสุดารามวรวิ...
- เผยเด็ก 3 จังหวัดชายแดนใต้ถูกละเมิดทางเพศ-ถ่ายคลิป
- รายงาน: สงครามเทคโนโลยี ในการประท้วงที่อิหร่าน
- สีสันประท้วงการเลือกตั้งในอิหร่าน จากสนามฟุตบอลสู่...
- SUI: "สงครามเน็ต" ว่อนอิหร่าน นักรบไซเบอร์แคนาดาช่...
- เสวนาสื่อหลัก V.S. สื่อทางเลือก ชวนพลเมืองทำข่าวเอง
- ตั้งแล้ว....สมาคมสมาพันธ์เครือข่ายเด็กและสตรีหูหนว...
- แฉกลเกมช่อง 3 สูบรายได้ อสมท เสียค่าโง่กว่าหมื่นล้...
- ประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทย "จอมบงการ"ความรุนแรงสา...
- วันที่ 19-21 มิ.ย.2552 เวลา 12.00-20.00 น. ที่สวนเ...
- เปิด FTA ภาคขนส่ง-โลจิสติกส์ (1) ผู้ประกอบการไทยจะ...
- เปิด FTA ภาคขนส่ง-โลจิสติกส์ (จบ) ผู้ประกอบการไทยจ...
- ลุ้นไม่ระทึกไลเซนส์ "3G" กทช. เรื่องเศร้าของค่ายมื...
- เปิดบัญชี อาวุธยุทธภัณฑ์และสิ่งที่ใช้ในการสงคราม ห...
- เปิดไส้ในเงินกู้ปั๊มศก.เฟสแรก 2 แสนล.ลงทุนแหล่งน้ำ...
- ตราไปรษณียากร ชุด 60 ปี ความสัมพันธ์ไทย-ฟิลิปปินส์
- ทำไม?คนไฟฟ้า นครหลวงชอบหม้อ.!
- ลั่น 4 เดือนผุด "เขื่อนไม้ไผ่"กู้แผ่นดิน
- ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด (2) / ทางเสือผ่าน
- NBC: Thai tabloids lurch btwn lurid and deferentia...
- บันทึกสมุดสีแดง (2) ว่าด้วย : สื่อ การสร้างสื่อและ...
- สภาที่ปรึกษาฯ : สภาที่ไม่ยอมเรียนรู้
- ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ติงสื่อไม่ควรเล่นกับ...
- วิทยุชุมชน: การมีส่วนร่วมของประชาชนในสื่อเพื่อชีวิ...
- ทุจริตสหกรณ์ห้วยบางทรายไม่จบ! รัฐล้มประชุมอ้างผิดก...
- แม่หญิงลาว...เธอผู้น่าสงสาร
- แรงงานพม่าที่แม่สอดสนใจข่าว ออง ซาน ซูจี
- รัฐสวัสดิการด้านสุขภาพ: ตรวจสอบระบบหลักประกันสุขภาพ
- "คพช." เสนอ รัฐบาล และทหารทบทวน "นโยบายการเมืองนำก...
- สถาบันอิศรา: รัฐไขปมใต้เดือดระลอกใหม่ กับคำถามถึงค...
- เครือข่ายพลเมืองเน็ต แจ้งข่าวการดำเนินคดี พ.ร.บ.คอ...
- บทบรรณาธิการ TIME: Twitter และสื่อใหม่ กำลังเปลี่ย...
- ประชาไท | Prachatai.com
- ซิมโฟนี 80 ปี จิตร ภูมิศักดิ์ "คนยังคงยืนเด่นโดยท้...
- 6 ว่าที่"ตุลาการศาล ปค.สูงสุด
- สนามบิน"เกาหลีใต้"คว้าที่ 1 ดีสุดในโลก เฉือนชนะฮ่อ...
- กก.สมานฉันท์เห็นชอบ"เลิกยุบพรรค-เพิ่มโทษคนทำผิด"
- "อัษฎางค์"จี้มท.สังคายนา ราชการภูมิภาค"แต่งตั้ง-เล...
- แผนกู้ 4 แสนล.เคลื่อนจีดีพีลบเกิน 4%
- "เรืองไกร"ร้องกกต.ใช้เงินกองทุนมิชอบ ชี้เปิดอบรมส....
- ตั้งกก.ศึกษารถเมล์ 4 พันคัน ป.ป.ช.ลุยเอง สภาพัฒน์ฯ...
- เตรียมดันร่างยุทธศาสตร์จัดการปัญหาบุคคลไร้สัญชาติ ...
- ใช้เป็น-รักษาดี 'ล้ำค่า' 'ฐานชีวภาพ' 'ขุมทรัพย์' ใ...
- พินัยกรรมชีวิต สิทธิการตาย...เลือกได้
- เว็บมาสเตอร์กับการกระทำผิดบนเน็ต : ความซับซ้อน และ...
- [netizen] บทความ : เว็บมาสเตอร์กับการกระทำผิดบนเน็...
- "เรืองไกร" ยื่น ป.ป.ช.สอบ กกต.ใช้เงินกองทุนพัฒนาพร...
- ก.เกษตรฯ เล็งของบ. 90 ล้าน เผาทำลายลำไยอบแห้ง
- เปิดรายงาน สตง.ชำแหละ"บ้านเอื้ออาทร" มรดกบาป"ทักษิ...
- ลำดับเหตุการณ์ประท้วง ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน เมษาย...
- ยานเกราะยูเครนจอดสนิท วิ่งเต้นกองทัพบกขอเปลี่ยนสเป...
- ชิงเค้กแสนล้านโครงการ"ไทยเข้มแข็ง"เพื่อ"นักการเมือ...
- 6 หน่วยสางปัญหารถ-เรือดับเพลิง "สุขุมพันธุ์" ชงเว้...
- ยธ.ชู "5 รั้วล้อมไทย พ้นภัยยาเสพติด" สกัดลอบขนยาแน...
- ส.ส.ใต้ ปชป.ฟันธง มือมืดสร้างสถานการณ์ไฟใต้ระอุ ลั...
- เลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับสีผิว
- 'ชิราคาวา-โก' หมู่บ้านในตำนาน
- การทาบกิ่งมะม่วงแนวใหม่
- จัดโซนทำเกษตรอินทรีย์ 100%
-
▼
มิถุนายน
(326)
เกี่ยวกับฉัน
- Net
- http://facthai.wordpress.com/ ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น