วันที่ 3 มิถุนายน 2552 เวลา 08:23 น. ถึงเวลาแก้ 'ต้นเหตุ' ปัญหา ขสมก. | ยืนยันหนักแน่นต่อให้เอาช้างมายื้อยุดหยุดรั้งก็เอาไม่อยู่ เมื่อรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยดาหน้าหัวชนฝานำโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคันขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่ได้รับการปรับแต่ง แปลงโฉมขจัดประเด็นที่ค้างคาใจไม่ว่าเรื่องสาเหตุการใช้วิธีเช่า ไม่ใช้วิธีซื้อหรือเช่าซื้อ ค่าซ่อมบำรุงรักษามหาโหด หรือเสียงครหาโครงการนี้ มี "ค่าต๋ง" ค่าคอมมิสชั่นหรือไม่ ซึ่งกระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ ได้ร่วมกันพิจารณาเป็นที่เรียบร้อย พร้อมนำเสนอโดยนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม จะทำหน้าที่ชี้แจงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาขออนุมัติเป็นครั้งที่สามในวันที่ 3 มิถุนายนนี้ น่าจับตา ไม่ว่าโครงการนี้จะได้รับการอนุมัติหรือไม่ได้รับการอนุมัติ ล้วนมีผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หาก ครม. ไม่อนุมัติ ย่อมหมายถึงรอยปริร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล จากพรรคภูมิใจไทยที่เบื้องหลังคือ "กลุ่มเพื่อนเนวิน" จะปรากฏร่องรอยฉายภาพให้เห็นเด่นชัดขึ้น ถือเป็นจุดเสี่ยงอันตรายยิ่งต่อสัญญาณเริ่มนับถอยหลังของรัฐบาล "อภิสิทธิ์" แต่ถ้า ครม. ทุบโต๊ะอนุมัติ ก็จะ ต้องเผชิญหน้าปัญหาแรงกดดันจากสมาชิกวุฒิสภาที่คัดค้านและพร้อมจับ มือร่วมกับการเมืองภาคประชาชนตรวจสอบรัฐบาล โดยใช้ช่องทางตาม กฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 164 ที่ระบุให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวนไม่น้อยกว่าสองหมื่นคนมีสิทธิเข้าชื่อร้องขอต่อประธานวุฒิสภา เพื่อ ให้วุฒิสภามีมติถอดถอนคณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งได้ นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการ ขสมก. ยอมรับว่า โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟู ขสมก. ปรับปรุงการบริหารจัดการและการบริการของระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ถือเป็นหัวใจหลักในการแก้ไขปัญหาการขาดทุน หากไม่มีโครงการนี้ ขสมก. ก็จะมีหนี้สะสมเป็น 100,000 ล้านบาท ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราจะเห็นว่า ในอดีตทุก ๆ รัฐบาลได้พยายามหาวิธีแก้ปัญหาลดการขาดทุนให้หน่วยงาน ที่ได้ก่อตั้งมาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2519 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จสักที น่าสนใจ สำหรับข้อเสนอให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) รับโอนรถเมล์ ขสมก. มาดูแล เฉกเช่นกรณีหน่วยงานตำรวจดับเพลิง ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ของชาวกรุง ทำให้การแก้ปัญหาจราจรสามารถทำได้อย่างเบ็ดเสร็จ แต่มีข้อแม้ว่า ไม่ขอรับหนี้ที่ขณะนี้มีประมาณ 5-7 หมื่นล้านบาทมาด้วย โดยให้รัฐบาลเป็นผู้รับภาระแทน ถือเป็นโอกาสดีที่รัฐบาลซึ่งมีแกนนำคือพรรคประชาธิปัตย์และผู้ว่าฯ กทม. ก็มาจากพรรคเดียวกัน หากข้อเสนอนี้เป็นประโยชน์จริง "ประชาธิปัตย์" ก็ไม่ควรพลาด โอกาสแก้ปัญหาที่ "ต้นเหตุ" มิใช่หรือ แต่ถ้าจะโยนปัญหาให้ "คนกลาง" ตัดสินก็เป็นการซื้อเวลา เพื่อหวังยืดอายุรัฐบาลเท่านั้น.
| http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=74574&NewsType=2&Template=1 |
Invite your mail contacts to join your friends list with Windows Live Spaces. It's easy!
Try it!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น