"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Blognone
Share |

Suthichai Online - ข่าวประจำวัน

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เคาะ 7 ประเด็นร้อนอนุแก้รธน.ไม่ตกผลึก

เคาะ 7 ประเด็นร้อนอนุแก้รธน.ไม่ตกผลึก

รายงานโดย :...ทีมข่าวการเมือง:
วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
การประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีพล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช เป็นประธาน

พิจารณาสรุปรายงานการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 7 ประเด็น เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 4 มิ.ย. และวันที่ 9 มิ.ย.  
ในรายงานของคณะอนุกรรมการฯ มี 3 ประเด็น ที่มีความเห็นเป็น 2 แนวทางคือ
1.การยุบพรรคการเมืองและการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค ตามมาตรา 68 และมาตรา 237 คณะอนุกรรมการฯ ส่วนใหญ่เห็นควรยกเลิก แต่ให้เพิกถอนสิทธิเฉพาะกรรมการบริหารพรรคที่กระทำผิดเท่านั้น ขณะที่บางส่วนให้คงการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารทั้งหมดไว้ตามเดิม

2.ที่มาของ สส. มีการเสนอให้มี สส.จำนวน 500 คน ตามรัฐธรรมนูญ 2540 แบ่งเป็นแบบเขตเดียวคนเดียว 400 คน บัญชีรายชื่อ 100 คน และเสนอให้มีสส. 480 คน ตามรัฐธรรมนูญ 2550

3.ที่มาของ สว. คณะอนุกรรมการฯ มีการเสนอ 2 แนวทางคือ ให้กลับไปใช้ระบบเลือกตั้งทั้งหมด 200 คน และให้ใช้ระบบสรรหาและเลือกตั้ง จำนวน 150 คน

สำหรับประเด็นที่คณะอนุกรรมการฯ มีความเห็นชอบร่วมกัน คือ ให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมหลักการในมาตรา 265 และ 266 ที่ห้ามไม่ให้ สส.และสว.ใช้ตำแหน่งเข้าไปแทรกแซงการปฏิบัติราชการและการดำรงตำแหน่งทางการเมือง

และการให้คงหลักการเดิมในมาตรา 190 ไว้ตามเดิมในการทำหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา แต่เสนอให้เร่งรัดออกกฎหมายว่าด้วยการกำหนดขั้นตอนและวิธีการจัดทำหนังสือสัญญา

นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้เสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 เพิ่มเติมอีก 3 ประเด็น ได้แก่

1.การบัญญัติให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ

2.กรณีการกำหนดให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นกระบวนการที่ตัดสินโดยศาลเดียว

3.การให้อำนาจคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วินิจฉัยให้มีการเลือกตั้งใหม่หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งสส.และสว.ก่อนการประกาศผลเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมให้ชะลอการเสนอแนวทางแก้ไขไว้เพราะเห็นควรให้รอผลการศึกษาของคณะ อนุกรรมการศึกษาแนวทางการปฏิรูปการเมืองที่มีนายประเสริฐ ชิตพงศ์ สว.สงขลา เป็นประธาน และคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางสร้างความสมานฉันท์ทางการเมืองของสังคมไทยที่มีนายตวง อันทะไชย สว.สรรหา เป็นประธาน ก่อน

โดยเฉพาะกรณีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพราะยังมีคดีที่จะนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลดังกล่าวอีกหลายคดี จึงเกรงว่าหากมีการแก้ไขประเด็นนี้อาจกระทบต่อการพิจารณาของศาล เว้นแต่คณะอนุกรรมการฯ ทั้งสองคณะเห็นว่าควรแก้ไขในประเด็นนี้
 
http://www.posttoday.com/politics.php?id=49685



Windows Live™: Keep your life in sync. Check it out!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
http://facthai.wordpress.com/ ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew