"ชวรัตน์"อ้างส.ส.ภท.ออกเงินเอง หลัง "35กมธ."ทัวร์นอกผลาญงบฯ วิจารณ์แซดครม.ห้ามขรก.ไม่ห้ามส.ส.
ข้าราชการวิจารณ์ "35 กมธ."อาศัยช่วงปิดสภาฯ รอ"ชัย"ติดภารกิจออสเตรเลียอนุมัติ เตรียมทัวร์ยุโรป อ้างดูงานต่างประเทศ อัดผลาญงบประมาณแผ่นดินในช่วงศก.ไม่ดี สงสัยครม.ออกหนังสือห้ามขรก. ไม่ยอมห้ามส.ส. แนะจัดสัมมนาในไทยให้เงินหมุนเวียน
"ชวรัตน์"อ้างส.ส.ภท.ออกเงินเองเปิดหูเปิดตาทัวร์ยุโรป
นายชวรัตน์ ชายวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ถึงการวิพากษ์วิจารณ์ความไม่เหมาะสมของกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร ที่จะเดินทางไปดูงานต่างประเทศทั้งที่นายกฯได้ออกหนังสือเวียนสั่งห้ามข้าราชการดูงานต่างประเทศ ว่า คงไม่เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย เพราะ ส.ส.ของพรรคที่จะเดินทางไปยุโรปในช่วงปิดสมัยประชุมนั้นจ่ายเงินเอง พรรคเพียงช่วยดูแลในเรื่องการจัดหาอาหารหรือที่อยู่เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะส.ส.ที่เป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีหรือไม่เพราะรัฐบาลได้ออกมาขอให้คนไทยเที่ยวไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ แต่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยกลับเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเสียเอง นายชวรัตน์ กล่าวว่า ถามอย่างนี้ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร ก็เงินของเขา ถ้าเขาไปกู้หนี้ยืมสินก็เป็นอีกเรื่อง แต่นี่เงินเหลือใช้ ก็เอาไปเปิดหูเปิดตาต่างประเทศก็ไม่น่ามีอะไร แล้วก็ไม่ได้ไปบ่อย
เมื่อถามว่านายกฯบอกเป็นนโยบายว่า อยากให้เที่ยวเมืองไทย นายชวรัตน์ กล่าวว่า ก็คงเที่ยวเมืองไทยด้วย ไปครั้งนี้ แล้วอีก 1-2 ปีค่อยไปอีกครั้ง เมื่อถามอีกว่า จะไม่มีการทบทวนการเดินทางไปทัวร์ยุโรปใช่หรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ใช่
กรรมาธิการ (กมธ.) สามัญประจำสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 35 คณะ ได้วางแผนเตรียมการเดินทางไปศึกษาดูงานยังต่างประเทศ หลังปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไป เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่เน้นเดินทางไปประเทศแถบยุโรป ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมที่จะใช้งบประมาณของแผ่นดินในการเดินทางไปศึกษาดูงานในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศไม่ดี
ทั้งนี้ มีรายงานจากสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ว่า กมธ.คณะต่างๆ ที่จะเดินทางไปศึกษาดูงาน เช่น
กมธ.การต่างประเทศกำลังพิจารณาว่าจะเดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศใด ระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนกับสเปน,
กมธ.การป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด และ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ วางแผนไปประเทศแถบยุโรป,
กมธ.กิจการชายแดนไทยวางแผนว่าจะไปสาธารณรัฐประชาชนจีน,
กมธ.กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ และผู้พิการ วางแผนจะไปแถบออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ฯลฯ
ทั้งนี้ กมธ.แต่ละคณะจะมีงบประมาณเดินทางคณะละ 3 ล้านบาท รวม 35 คณะ เป็นเงิน 105 ล้านบาท ล่าสุด กมธ.บางคณะได้ทำหนังสือสอบถามแนวทางการขออนุมัติการเดินทางไปยังสำนักงานเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ติดภารกิจที่ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ระหว่างวันที่ 24 พฤษภาคม-2 มิถุนายน จึงยังไม่มีการอนุมัติ
รายงานข่าวจากสภาผู้แทนราษฎรแจ้งว่า กรณีดังกล่าวทำให้เริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ข้าราชการเกี่ยวกับการเดินทางไปดูงานในต่างประเทศของ กมธ. โดยมองว่าไม่มีความเหมาะสมเนื่องจากขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ ขณะเดียวกัน คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังเคยมีหนังสือเวียนจากสำนักเลขาธิการ ครม. ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ นร 0506/ว29 ถึงรัฐมนตรีและหัวหน้าหน่วยงานของราชการ ขอความร่วมมือไม่ให้เดินทางไปดูงานในต่างประเทศหากไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมถึงห้ามแต่ข้าราชการ แต่ไม่ห้าม ส.ส. นอกจากนี้ ยังมีการมองกันว่าหากจะมีการดูงานก็ควรทำในรูปแบบการจัดสัมมนาภายในประเทศ เพื่อให้เงินไหลเวียนลงชุมชนเกิดการใช้จ่ายและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศมากกว่า อย่างไรก็ตาม หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ กมธ.บางคณะ เริ่มมี ส.ส.เห็นแตกต่าง โดยบางส่วนมองว่าไม่ควรไป เพราะประเทศกำลังประสบภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ขณะที่บางส่วนมองว่าควรไปเพราะได้ไปศึกษาดูงานเพื่อนำมาปรับใช้ในการบริหารประเทศ ที่สำคัญถ้าใช้งบประมาณไม่หมด ก็ต้องนำเงินคืนคลัง
ข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ ช่วงปิดสมัยประชุมเมื่อครั้งที่ผ่านมา ก่อนการเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2551 นายชัยมีคำสั่งด่วนไม่อนุญาตให้ กมธ.คณะใดเดินทางไปต่างประเทศ เนื่องจากต้องการควบคุมเสียงโหวต มีเพียงคณะเดียวที่หลุดไปได้ เนื่องจากใช้แบบฟอร์มการอนุมัติชุดเดิม และขณะนี้ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกำลังดำเนินการเรียกเงินคืนจาก กมธ.ชุดดังกล่าวอยู่ เนื่องจากผิดระเบียบการขออนุญาตเดินทางไปดูงานในต่างประเทศ และนายชัยมีคำสั่งให้นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย
ด้านนายสามารถ รักษาราชการแทนประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงว่า การอนุมัติการเดินทางไปดูงานยังต่างประเทศของ กมธ. ประธานสภาให้นโยบายว่า
1.อย่าพึ่งอนุมัติการเดินทาง รอให้ประธานกลับมาก่อน เพราะตอนนั้นยังไม่ชัดเรื่องวันเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ซึ่งตอนนี้เมื่อชัดเจนแล้วว่าจะประชุมกันวันที่ 15-23 มิถุนายน ประธานคงไม่อนุมัติให้คณะใดเดินทางไปช่วงดังกล่าว
2.หลังจากนั้นให้เป็นดุลพินิจของแต่ละคณะ เพราะรัฐบาลประสานมาว่าเมื่อภาวะเศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้ อยากให้สภาเป็นแบบอย่างที่ดี ถ้าชะลอการเดินทางไว้ก่อนได้ก็ดี
"การเรียกเงินคืนจากประธาน กมธ.คณะหนึ่งที่ไปดูงานต่างประเทศเมื่อปลายปีที่แล้ว ที่ผมดำเนินการสอบสวนนั้น ยังไม่ได้ข้อสรุป อย่างไรก็ดี ไม่ต้องห่วงว่างบฯจะรั่วไหล เพราะ กมธ.จะไปไหน ก็ต้องมาขออนุมัติตามระเบียบ ซึ่งเป็นการทำเรื่องขอยืมมา แล้วมาเคลียร์หลังกลับ ซึ่งถ้าไปไม่ถูก สภาก็อาศัยสัญญาการยืมเงินบังคับให้เอามาคืนได้ และถ้าไม่คืนก็มีระเบียบข้ออื่นประกอบกับสัญญาบังคับ เช่น การหักเงินเดือนเพื่อนำมาคืน เป็นต้น อย่างไรก็ดี ตอนนี้ประธาน กมธ.คนดังกล่าวเอาเงินมาคืนแล้วส่วนหนึ่ง" นายสามารถกล่าว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1243861172&grpid=00&catid=01
What can you do with the new Windows Live? Find out
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น