ระบบบำนาญแห่งชาติ กับกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ เหมือนกันอย่างกับแพะกับแกะ
โดย วรวรรณ ชาญด้วยวิทย์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านหลักประกันทางสังคม สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย
ในช่วงไม่นานมานี้เรามักจะได้ยินข่าวดีเกี่ยวกับระบบบำนาญสำหรับคนไทยทุกคน บางครั้งก็ได้ยินข่าวว่ารัฐจะให้เงินบำนาญกับผู้สูงอายุไทยทุกคน โดยรัฐจะช่วยออมเดือนละ 200 บาท เป็นขวัญกระเป๋า
แต่ข่าวก็แว่วออกมาใหม่ว่ารัฐจะให้ช่วยขวัญกระเป๋าเดือนละ 50 บาท ถ้าคนไทยออมเดือนละ 100 บาท
ต่อมาก็มีข่าวว่าจะมีการตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ หรือ กบช. สำหรับแรงงานนอกระบบ แล้วก็จึงจะบังคับใช้กับแรงงานในระบบภายหลัง (ด้วยการแบ่งเงินของแรงงานจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาใส่กองใน กบช.ซึ่งไม่ทราบว่าจะแบ่งออกมาทำไม)
ข่าวที่ค่อยๆ ออกมาเป็นระลอกอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องเดียวกัน แต่แท้จริงแล้วก็ไม่ใช่ทีเดียวนัก มันเหมือนกันอย่างกับแพะกับแกะเท่านั้นเอง
การตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ มีเจตนาในการส่งเสริมการออม แล้วให้ประชาชนนำเงินออมนั้นไปใช้ยามชราภาพ...จบ
ที่ว่าจบหมายถึงจบหน้าที่ของกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติต่อประชาชนเท่านั้น คือ รับเงินจากแรงงานที่ต้องการออม นำเงินมาลงทุน เมื่อเกษียณอายุก็ให้รับเงินที่ออมพร้อมผลตอบแทนจากการลงทุนไป ต่อจากนั้นก็ไปจัดการวิธีการใช้เงินเอง หน้าที่ลักษณะนี้ในขณะนี้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเอกชนก็ทำอยู่แล้ว
ระบบบำนาญแห่งชาติไม่ได้มองแค่การมีกองทุนเพื่อการออมของแรงงานเท่านั้น แต่มองรวมไปถึงการคุ้มครองด้านรายได้ประชาชนที่เกษียณอายุไปจนกระทั่งสิ้นอายุขัย ประชาชนที่ไม่ใช่แรงงาน เช่น แม่บ้าน ผู้ว่างงาน ผู้ทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง เขาเหล่านี้ที่เสี่ยงต่อความเป็นผู้สูงอายุยากจน ควรที่จะได้รับการคุ้มครองในระบบบำนาญแห่งชาติเช่นกัน
ระบบบำนาญแห่งชาติต้องมีกลไกตั้งแต่การสมทบออมของรัฐ และการจ่ายบำนาญพื้นฐานของรัฐ (ตามรูป) เช่น รัฐให้สัญญาว่าจะสมทบการออมให้กับประชาชนที่อายุ 20-59 ปี ทุกคนที่ออมผ่าน กบช.
และเมื่อประชาชนเกษียณอายุ รัฐสัญญาว่าจะให้บำนาญพื้นฐานคนละ 500 บาทต่อเดือน ส่วนยอดรวมของบำนาญที่ประชาชนเกษียณอายุจะได้รับนั้นขึ้นอยู่กับว่าในแต่ละเดือนที่ผ่านมาเขาได้ออมเข้า กบช.มากน้อยเพียงใด ถ้าออมมากก็จะได้รับยอดรวมของบำนาญมากไปด้วย
การจัดตั้งกองทุนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของระบบบำนาญแห่งชาติ ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนมีบำนาญมากเกินกว่า 500 บาทต่อเดือน จึงต้องมีกองทุนเพื่อให้ประชาชนออมและนำเงินนั้นไปลงทุน
รัฐควรจะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนด้วยว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนจะต้องไม่ต่ำกว่าผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว
นอกจากนี้ ระบบบำนาญยังอาจให้สิทธิประโยชน์อื่นๆ แก่ผู้ออมเพื่อเป็นการจูงใจ เช่น การมีบำเหน็จตกทอด หรือประกันอุบัติเหตุให้แก่ผู้ออม
สิ่งเหล่านี้ควรอยู่ในกฎหมายว่าด้วยระบบบำนาญแห่งชาติ การจัดตั้ง กบช.เป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบบบำนาญเท่านั้น
ด้วยสภาวะเศรษฐกิจเช่นปัจจุบัน มักจะมีการถามอยู่เสมอว่า กบช.จะไปลงทุนจนได้ผลตอบแทนติดลบได้หรือไม่ เงินออมที่ลงไป 150 บาท จะเหลือ 100 บาทหรือไม่
ถ้าเงินทั้งหมดของกองทุนใช้ในการลงทุนที่ไม่เสี่ยง เช่นซื้อพันธบัตรรัฐบาล ผลตอบแทนตามราคาตลาดที่ได้ก็ไม่น่าจะติดลบ แต่ก็จะไม่สูงจนน่าจูงใจ ด้วยเหตุที่ประชาชนบางท่านอาจจะชอบผลตอบแทนสูงๆ โดยยอมเสี่ยงกับความผันผวนของผลตอบแทน
ดังนั้น กบช.ควรมีแผนการลงทุนให้ประชาชนเลือกมากกว่าหนึ่งแผน ใครที่ต้องการความเสี่ยงต่ำก็เลือกการลงทุนทั้งหมดในพันธบัตร ใครที่ต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้นโดยยินดีเสี่ยง ก็ให้เลือกแผนการลงทุนที่เสี่ยงมากขึ้น แต่ก็มีโอกาสที่วันที่เกษียณอายุ เงิน 150 บาท จะได้เพิ่มเป็น 250 บาท หรืออาจลดเหลือ 50 บาท ก็ต้องเลือกเอาว่าต้องการแผนการลงทุนแบบใด
ระบบบำนาญแห่งชาติไม่ควรแบ่งการให้สิทธิประโยชน์เป็นสำหรับแรงงานนอกระบบและในระบบ ประชาชนทุกคนควรได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานจากรัฐเหมือนๆ กัน
ทั้งนี้ การไม่รวมข้าราชการเข้ากับระบบบำนาญแห่งชาติ เพราะข้าราชการได้รับบำนาญที่ดีกว่าอยู่แล้ว แต่ประชาชนที่ไม่ใช่ข้าราชการทั้งหมดยังไม่ได้รับการช่วยเหลือในรูปของบำนาญเลย บางท่านอาจจะกล่าวว่า ลูกจ้างในระบบประกันสังคมมีบำนาญแล้ว ถ้าพิจารณาให้ดีเราจะทราบว่ารัฐไม่ได้ช่วยสมทบในเรื่องบำนาญชราภาพให้แก่ลูกจ้างเลย เงินที่จะจ่ายบำนาญนั้นมาจากการสมทบของลูกจ้างและนายจ้างเท่านั้น (เงินนี้ก็ไม่ได้มากมายนัก และก็จะมีปัญหาถังแตกในอนาคตเช่นกัน)
ทำไมรัฐจะต้องเลือกปฏิบัติด้วยการช่วยออมแก่แรงงานนอกระบบเท่านั้น
แรงงานในระบบก็เป็นผู้เสียภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วยเช่นเดียวกัน
ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ที่อยู่ในระบบลูกจ้างที่จ่ายเงินให้แก่ประกันสังคม มักจะทำงานไม่ถึง 15 ปี ซึ่งจะทำให้หมดสิทธิการได้รับบำนาญจากประกันสังคม คนเหล่านี้มักเป็นแรงงานไร้ฝีมือ มีรายได้ต่ำ และมักจะเปลี่ยนงานบ่อยๆ เราจะทิ้งเค้าไว้ตรงไหนของระบบดี
รัฐบาลจะต้องชัดเจนว่าต้องการเสนอระบบบำนาญแห่งชาติ หรือแค่กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ ต้องชัดเจนว่าจะเสนอแพะหรือแกะ แต่ที่แน่ๆ คือไม่มีใครอยากได้เด็กเลี้ยงแกะ
หน้า 7
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01act02050652§ionid=0130&day=2009-06-05
Invite your mail contacts to join your friends list with Windows Live Spaces. It's easy! Try it!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น