"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Blognone
Share |

Suthichai Online - ข่าวประจำวัน

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2552

พา “สมอง” เข้าโรงยิมกันเถอะ / ดร.แพง ชินพงศ์

พา "สมอง" เข้าโรงยิมกันเถอะ / ดร.แพง ชินพงศ์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 มิถุนายน 2552 14:13 น.
       หากจะเปรียบว่าสมองเหมือนเครื่องจักรเครื่องกลชิ้นสำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของมนุษย์ขับเคลื่อนไปได้คงจะไม่ผิด เพราะสมองเป็นตัวควบคุมพฤติกรรมตลอดจนสร้างความสามารถในการเรียนรู้และการรับรู้สิ่งต่างๆให้กับมนุษย์ ดังนั้นสมองจึงเป็นอวัยวะสำคัญที่เราทุกคนต้องใส่ใจดูแลให้แข็งแรงอยู่เสมอ
       
       สมองของคนเรามี 2 ซีก คือ สมองซีกซ้ายและสมองซีกขวา สมองซีกซ้ายทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์ ภาษา ตรรกะและความคิดในเชิงวิเคราะห์ ส่วนสมองซีกขวานั้นทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับความสามารถทางด้านศิลปะ ดนตรี สุนทรียศาสตร์ จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ทั้งนี้สมองทั้ง 2 ซีกมีความสำคัญอย่างเท่าเทียมกัน เพราะการเรียนรู้ของคนเราจะมีประสิทธิภาพสูงสุดก็ต่อเมื่อสมองทั้งซีกซ้ายและซีกขวาทำหน้าที่ประสานสัมพันธ์กันอย่างเหมาะสมในลักษณะที่สมดุลกัน
       
       การออกกำลังสมอง หรือ Brain Gym (คิดค้นโดย ดร.พอล เดนนิสัน) เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยให้สมองทั้งซีกซ้ายและซีกขวาทำงานประสานกันได้ดี กิจกรรม Brain Gym นี้เป็นการบริหารสมองโดยการเคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งโดยหลักก็คือเมื่อร่างกายของเรามีการเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อจะยืดหยุ่นเกิดความคล่องตัว จังหวะการเต้นของหัวใจจะเร็วขึ้น ระบบการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ออกซิเจนเข้าสู่สมองได้มากขึ้น เกิดความรู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกมีความสุข ซึ่งจะส่งผลให้สมองทำงานได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเปิดรับการเรียนรู้ต่างๆได้เป็นอย่างดี และไม่ว่าเราจะเป็นคนเพศใดวัยใดก็สามารถทำกิจกรรม Brain Gym นี้ได้เช่นเดียวกัน
       
       การออกกำลังสมอง (Brain Gym) มีอยู่ 3 ประเภท ซึ่งยกตัวอย่างได้ดังนี้

       1. การเคลื่อนไหวแบบสลับข้าง เป็นการเคลื่อนไหวที่ช่วยให้การทำงานของสมองทั้ง 2 ซีกประสานสัมพันธ์กันอย่างสมดุล
       
       ท่า Free Flow
       ใช้มือซ้ายและมือขวา ทำรูปเลียนแบบกัน ไขว้กันตรงกลาง

       2.การเคลื่อนไหวแบบยืดส่วนต่างๆของร่างกาย เป็นการเคลื่อนไหวที่ช่วยทำให้เกิดสมาธิ อีกทั้งช่วยผ่อนคลายความเครียด ช่วยให้เกิดการสมดุลระหว่างจิตใจและร่างกาย
       
       ท่า The Owl
       มือขวาจับไหล่ซ้าย แล้วเอียงหน้าไปในทางตรงข้าม หายใจเข้าช้าๆพร้อมทั้งดึงหัวไหล่เข้าหาตัวและหายใจออกยาวๆ หลังจากนั้นเปลี่ยนมาเป็นมือซ้ายจับไหล่ขวาทำแบบเดียวกัน

       3.การเคลื่อนไหวเพื่อกระตุ้นและเพิ่มพลังสมอง เป็นการเคลื่อนไหวที่ช่วยกระตุ้นระบบประสาทและเพิ่มพลังสมองในการสร้างแรงจูงใจที่ดีและการมีความคิดในทางบวก ซึ่งก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่รวดเร็วขึ้น
       
       ท่า Brain Buttons
       
ใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือ วางที่บริเวณกระดูกคอ แล้วถูเบาๆ ส่วนอีกมือหนึ่งวางไว้ที่สะดือ กวาดสายตาจากพื้นขึ้นบนเพดาน และจากด้านซ้ายไปด้านขวา
       
       โดยสรุปแล้วการออกกำลังสมองมีประโยชน์อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของร่างกายและจิตใจ ช่วยให้เกิดสมาธิ และความรู้สึกสงบ ช่วยเพิ่มออกซิเจนให้สมองซึ่งทำให้สมองแข็งแรง ช่วยให้สมองทำงานประสานสัมพันธ์กันอย่างสมดุลระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา และช่วยให้อารมณ์ดี มีสมองแจ่มใส สามารถเปิดรับการเรียนรู้ใหม่ๆอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รู้อย่างนี้แล้วจะรอช้าทำไม พา "สมอง" เข้าโรงยิมกันเถอะ ^_^
http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9520000061146

Windows Live™: Keep your life in sync. Check it out!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
http://facthai.wordpress.com/ ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew