สมใจ “สาวป่องผงขาว” ศาลลาวจำคุกตลอดชีวิต (รูปประกอบใหม่)

สมใจ "สาวป่องผงขาว" ศาลลาวจำคุกตลอดชีวิต (รูปประกอบใหม่)

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

4 มิถุนายน 2552 16:20 น.

ภาพรอยเตอร์วันที่ 3 มิ.ย.2552 เจ้าหน้าที่ลาวนำซามันธา โอโรบาเตอร์ (Samantha Orobator) ออกจากศาลนครเวียงจันทน์หลังการไต่สวนเสร็จสิ้นลง ศาลของลาวได้ลดโทษให้แก่จำเลยที่ตั้งครรภ์ได้ 5 เดือนเป็นจำคุกตลอดชีวิต         เพิ่มเติมเนื้อหา เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการอออนไลน์-- หญิงสาวชาวอังกฤษที่ตั้งครรภ์อย่างเป็นปริศนาในคุกลาว ถูกศาลลาวตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิตแล้วในวันพุธ (3 มิ.ย.) ซึ่งเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดหมาย แต่การพิพากษาดังกล่าว มีขึ้นท่ามกลางรายงานข่าวที่สับสนก่อนหน้านั้น                ศาลลาวได้ตัดสินให้ น.ส.ซามันธา โอโรบาเทอร์ (Samantha Orobator) มีความผิดฐานมีเฮโรอีน 680 กรัมในครอบครอง เธอถูกจับกุมวันที่ 5 ส.ค.2550 ที่สนามบินนครเวียงจันทน์ ขณะที่ขึ้นเครื่องบินไปยังกรุงเทพฯ เอเอฟพีรายงานอ้างการเปิดเผยของโฆษกสถานทูตอังกฤษในกรุงฮานอย                "มันเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิต" โฆษกคนเดียวกันกล่าว                ตามกฎหมายอาญาของลาว ผู้ที่มียาเสพติดประเภทเฮโรอีนในครอบครองเกิน 500 กรัมจะถูกตัดสินประหารชีวิตสถานเดียว แต่นายทองลุน สีสุลิด รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีต่างประเทศลาว กล่าวก่อนหน้านี้ว่า กฎหมายดังกล่าวได้ละเว้นโทษประหารสำหรับนักโทษหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ขณะที่ถูกคุมขังและให้ศาลลดโทษลงเหลือจำคุกตลอดชีวิตแทน                ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษคนหนึ่งกล่าวก่อนหน้านี้ว่า หากถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในลาว นักโทษเชื้อชาติไนจีเรียวัย 20 ปีคนนี้ก็อาจจะถูกส่งตัวไปรับโทษในอังกฤษ หลังจากสองประเทศเซ็นความตำลงว่าด้วยการแลกเปลี่ยนนักโทษกันเมื่อเดือนที่แล้ว                องค์การรีพรีฟว์ (Reprieves) ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณกุศลรณรงค์ช่วยเหลือนักโทษประหารทั่วโลก ที่เคยส่งทนายความไปพบ น.ส.โอโรบาเทอร์ในลาวกล่าวว่า นักโทษสาวมีกำหนดคลอดในเดือนก.ย.ปีนี้ ขณะที่การตั้งครรภ์ของ น.ส.โอโรบาเทอร์ ยังคงเป็นเรื่องลี้ลับต่อไป ท่ามกลางรายงานที่ว่าเจ้าหน้าที่ลาวจะสืบสวนหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้น ก่อนที่ศาลจะพิพากษาตัดสิน                นักโทษสาวได้บอกกับมารดาที่อาศัยอยู่ในประเทศไอร์แลนด์ก่อนหน้านี้ว่า เธอมิได้ถูกข่มขืนในเรือนจำ แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่ทำให้ตั้งครรภ์                โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของลาวกล่าวก่อนหน้านี้ว่า หลังถูกจับกุมในเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว ซามันธาได้บอกกับเจ้าหน้าที่ลาวว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ได้สองเดือน หลังจากมีเพศสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มที่ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อในประเทศอังกฤษ ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นเธอก็จะต้องคลอดทารกตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา                มีคำอธิบายต่อมาอีกว่าปลายปีที่แล้วซามันธาได้ร้องขอให้แพทย์ตรวจอาการติดเชื้อในช่องคลอด ซึ่งทำให้เข้าใจกันว่าเธออาจจะแท้งครรภ์แรก                ถ้าหากนักโทษสาวมีกำหนดคลอดครั้งใหม่ในเดือน ก.ย.จริง ก็ย่อมแสดงให้เห็นว่า เธอได้ตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 ในเดือน ธ.ค.2551 หรือ ม.ค.ปีนี้ ขณะถูกคุมขังในเรือนจำโพนต้อง ชานนครเวียงจันทน์                แต่เจ้าหน้าที่ลาวยืนยันว่าเรือจำดังกล่าวได้กลายมาเป็นทัณฑ์สถานหญิงโดยเฉพาะ ไม่มีนักโทษชายปะปนอยู่แม้แต่คนเดียว ซึ่งทำให้การตั้งครรภ์ครั้งใหม่ของเธอเต็มไปด้วยความลี้ลับ                สื่ออังกฤษหลายฉบับรายงานว่า มีความเป็นไปได้ที่ซามันธาพยายามตั้งครรภ์โดยวิธีใดก็ได้ ทั้งนี้เพื่อให้พ้นจากการถูกตัดสินประหารชีวิต หรือไม่ก็อาจจะถูกข่มขืนขณะถูกคุมขัง แต่ได้ยินยอมตกลงกับฝ่ายลาวจะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ เพื่อจะได้มีโอกาสเดินทางกลับประเทศ                รายงานยังเต็มไปด้วยความสับสน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในเวียงจันทน์ได้เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ลาวฉบับหนึ่งในสัปดาห์ปลายเดือนที่แล้วระบุว่า ทางการกำลังจะหาข้อสรุปเกี่ยวกับตั้งครรภ์ของนักโทษสาวให้ได้เสียก่อน ก่อนที่ศาลจะตัดสิน                อย่างไรก็ตามหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทมส์ อ้างการเปิดเผยของนายตำรวจที่ไม่ประสงค์ให้ระบุชื่อ ซึ่งกล่าวว่า น.ส.โอโรบาเทอร์ได้ยอมรับว่า ทำให้ตัวเองท้องโดยใข้สเปิร์มของนักโทษชายคนหนึ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงโทษประหาร ขณะที่สำนักข่าวและหนังสือพิมพ์ภาษาลาวฉบับอื่นๆ ยังปิดปากเงียบ                ถ้าหากเป็นความจริงเรื่องนี้ก็อาจจะขัดแย้งกับคำให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ของนายแคนทอง นวนทะสิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ที่ระบุว่าในเรือนจำโพนต้องไม่มีนักโทษชายปะปนอยู่แม้แต่คนเดียว                ปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา นางเจน โอโรบาเทอร์ (Jane Orobator) มารดาของซามันธากล่าวว่า ลูกสาวของเธอไม่ได้ถูกคุกคามทางเพศใดๆ ในเรือนจำลาว และ พ่อของเด็กในครรภ์ของเธอก็ไม่ใช่เจ้าหน้าที่เรือนจำ                นางโอโรบาเทอร์ระบุดังกล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่งของกระทรวงการต่างประเทศในกรุงลอนดอน หลังกลับจากเดินทางไปเยี่ยมลูกวาวในคุกโพนต้อง                เอเอฟพีกล่าวว่า นางโอโรบาเทอร์ได้ไปร่วมเป็นสักขีพยานการพิพากษาคดีเมื่อวันพุธนี้ด้วย แต่ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ.                 http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9520000062565

---

Invite your mail contacts to join your friends list with Windows Live Spaces. It's easy! Try it!