5 มิถุนายน ของทุกปีถูกกำหนดให้เป็น "วันสิ่งแวดล้อมโลก" หรือ "WORLD ENVIRONMENT DAY" โดย : ฝ่ายส่งเสริมการให้ มูลนิธิกองทุนไทย(2/06/2009 02:17 PM) ด้วยปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น ทำให้คนมีการตื่นตัวในด้านวิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อมขึ้นทั่วโลก จึงได้มีมติให้จัดการประชุมใหญ่ที่กรุงสตอกโฮลม์ ระหว่างวันที่ 5 – 16 มิถุนายน พ.ศ. 2515 โดยมีรัฐบาลของประเทศสวีเดนเป็นเจ้าภาพ เรียกการประชุมนี้ว่า "การประชุมสหประชาชาติเรื่องสิ่งแวดล้อมของมนุษย์" ( UN Conference on the Human Environment ) คะ ในการประชุมครั้งนั้นมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 1,200 คน จาก 113 ประเทศ และมีผู้สังเกตการณ์อีกกว่า 1,500 คน จากหน่วยงานของรัฐ องค์การสหประชาชาติ สื่อมวลชนแขนงต่างๆ เพื่อพิจารณาร่วมกันในการที่จะหาหนทางแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างไร ผลการประชุมครั้งนี้จึงก่อให้เกิดข้อตกลงร่วมกันหลายๆอย่าง เช่น การจัดตั้งโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ( United Nations Environment Programme:UNEP ) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา มีหน้าที่ติดตามและประเมินผลการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทางด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ทางที่ดี โดยมีความห่วงใยในเรื่องของ ดิน น้ำ มลพิษทางอากาศ สำหรับหัวข้อรณรงค์ในปี 2552 นี้ คือ "คุณคือพลัง ช่วยหยุดยั่งภาวะโลกร้อน" " Your Planet Needs you Unite to Combat Climate Change" จากปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ปัญหาโลกร้อนที่ตอนนี้กระแสกำลังมาแรง ทุกอย่างล้วนมีสาเหตุจากการกระทำของเราๆท่านๆนี้แหละคะ แอปเปิ้ลจึงอยากชวนเพื่อน givegang มาช่วยกันกกู้วิกฤติโลกร้อน ด้วย 14 วิธีง่ายๆ ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต เพื่อโลกที่น่าอยู่ของเราคะ (ข้อมูล : นิตยสารไทม์ วันที่ 9 เมษายน 2007) ไอเดียแคนดูแรกในการพิทักษ์โลกให้รอดพ้นจากภาวะโลกร้อนคือ 1. เปลี่ยนอาหารให้เป็นเชื้อเพลิง ในระยะหลายปี นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกทุ่มเทเวลาให้กับการคิดค้น วิธีผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพจากพืชพันธุ์ธรรมชาติ ข้าวโพด, ถั่วเหลือง, น้ำมันหุงต้ม ไปจนถึงเศษขยะ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ทดแทนพลังงานจากน้ำมัน ซึ่งนับวันมีแต่จะร่อยหรอลงเรื่อยๆ!! 2. เปลี่ยนหลอดไฟใหม่เป็นแบบประหยัด คือวิธีเซฟค่าไฟในบ้านที่ฮิตฮอตที่สุด "หลอดไฟตะเกียบ" ช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าหลอดไฟธรรมดาๆถึง 3-5 เท่า แถมยังมีอายุการใช้งานนานกว่าหลายเท่าตัว ปัจจุบันมีให้เลือกใช้มากมายหลายขนาด ทั้งหลอดไฟขนาด 26 วัตต์, 40 วัตต์ ไปจนถึง 100 วัตต์ 3. จัดระเบียบการซักผ้าใหม่ เช่น เปลี่ยนจากการซักผ้าด้วยน้ำอุ่นเป็นน้ำเย็น หรือไม่ก็รวบรวมเสื้อผ้าให้ได้กองโตพอสมควรก่อน ค่อยนำไปซักทีเดียว อย่างบ้านเรา แดดเปรี้ยงแรงดีอยู่แล้ว แค่นำเสื้อผ้าตากแดดตากลมให้แห้งตามธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องอบผ้าให้กินไฟและทำลายสิ่งแวดล้อม 4. จัดบ้านใหม่ให้สอดคล้องกับหลักธรรมชาติ ลองหาเวลาว่างจัดบ้านใหม่ให้สอดคล้องกับหลักธรรมชาติ และทิศทางลม แทนที่จะพึ่งแอร์ตลอดเวลา เพราะการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายช่วยเซฟพลังงานในบ้านได้ถึง 40% 5. ใส่เสื้อผ้ามือสองพิทักษ์โลก ในนิตยสารไทม์ฉบับล่าสุด ระบุไว้ว่า เสื้อผ้ามือสองเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าเสื้อผ้าใหม่ เพราะการซื้อเสื้อผ้ามือสองช่วยหลีกเลี่ยงการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง จากการผลิต และขนส่ง อันเป็นสาเหตุให้เกิดการแพร่กระจายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ 6. การจัดสรรให้พนักงานทำงานใกล้บ้านที่สุด ฟาสต์ฟู้ดใหญ่ๆทั่ว อเมริกานำวิธีนี้มาใช้อย่างได้ผล!! เพราะแทนที่หนุ่มสาวคนทำงานจะสูญเสียพลังงานจากการขับรถไกลๆมาทำงานในแต่ละวัน ทำไมเราไม่หาสาขาที่ทำงานใกล้บ้านให้แมตช์กับพนักงานละคะ!! หรือถ้าฟังดูยุ่งยากเกินไปก็อาจตั้งเป้าหมายไปเลยว่า ต่อไปนี้ฉันจะหางานทำเฉพาะทำเลที่อยู่ใกล้บ้านเท่านั้น!! 7. จ่ายบิลค่าใช้จ่ายทางอินเตอร์เน็ต หันมาจ่ายบิลค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ามือถือ รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต หรือ ไม่รับสลิปเมื่อเรากดเงินจากตู้ ATM จะช่วยกู้วิกฤติโลกร้อนได้ อย่างน้อยๆก็ช่วยลดการใช้กระดาษ ซึ่งนำไปสู่การตัดไม้ แถมยังช่วยลดความสิ้นเปลืองพลังงานจากการขนส่งกระดาษ วิธีนี้ช่วยลดปริมาณขยะลงถึงปีละ 1,450 ล้านตัน และจำกัดการแพร่กระจายของก๊าซกรีนเฮาส์ ปีละ 1.9 ล้านตัน 8. เปิดหน้าต่างรับลมแทนการเปิดแอร์ วิธีนี้ง่ายและคนไทยคุ้นเคยกันดี ผลการศึกษาของอเมริกาบ่งชี้ว่า 22.7 ตัน ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่แพร่กระจายอยู่ในอากาศมาจากบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ลองลดการใช้พลังงานและทำลายสิ่งแวดล้อมด้วยการเปิดหน้าต่างภายในบ้านเพื่อรับลม แทนที่จะเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืน 9. ปิดคอมพิวเตอร์ทุกครั้งที่ไม่ได้ใช้ เรื่องนี้ควรรณรงค์อย่างจริงจังในทุกออฟฟิศ นอกจากนี้ควรปิดคอมพิวเตอร์, โทรทัศน์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ โดยใช้ปุ่มปุ่ม off เท่านั้นที่เราต้องการ!! 10. ปิดไฟทุกครั้งที่เสร็จงาน หรือ ถ้าไม่จำเป็นใช้ไฟดวงไหนก็ปิดคะ ไม่เฉพาะแต่ช่วงพักกลางวัน หรือหลังเลิกงานที่ควรรณรงค์เรื่องการปิดไฟในออฟฟิศ แต่บางออฟฟิศในเมืองใหญ่ๆยังขอความร่วมมือจากพนักงานให้ปิดไฟทุกครั้งที่ทำงานเสร็จ แม้บรรยากาศในออฟฟิศอาจดูมืดๆทึมๆไปบ้าง แต่ก็ช่วยเซฟพลังงานได้อีกหลายเท่าตัว 11. ทายสิคะว่า ระหว่างการขับรถ BMW กับการกินเบอร์เกอร์บิ๊กแมค อะไรก่อให้ เกิดภาวะโลกร้อนหนักกว่ากัน!! คำตอบก็คือบิ๊กแมคค่ะ!! จากรายงานของนิตยสารไทม์ ระบุว่า อุตสาหกรรมผลิตเนื้อทั่วโลกก่อให้เกิดการแพร่กระจายก๊าซกรีนเฮาส์ ในชั้นบรรยากาศมากถึง 18% 12.เลิกบริโภคเนื้อสเต็ก เถอะนะคะ เพื่อให้ลูกหลานมีอากาศดีๆ ไว้หายใจในอนาคต!! 13. ปฏิเสธถุงพลาสติกลูกเดียว!! ใน แต่ละปีมีถุงพลาสติกถูกผลิตออกสู่ตลาดมากกว่า 50,000 ล้านถุง และมีเพียง 3% ของถุงพลาสติกที่นำไปรีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง โดยถุงพลาสติกแต่ละใบต้องใช้เวลาถึงพันปีกว่าจะย่อยสลายหมดไปจากโลก!! ทางที่ดีช่วยกันรณรงค์งดใช้ถุงพลาสติกจะดีกว่า แล้วหันมาพกถุงผ้าส่วนตัวไปช็อปปิ้งแทน!! 14. ปลดเนกไท-ถอดสูททิ้ง บริษัทใหญ่ๆในญี่ปุ่นเป็นผู้ริเริ่มการประหยัดพลังงานแนวใหม่ ด้วยการไฟเขียวอนุญาตให้พนักงานใส่เสื้อเชิ้ตธรรมดาๆ โดยไม่ต้องสวมสูทและผูกเนกไทมาทำงานในช่วงฤดูร้อนตับแตก เพื่อประหยัดค่าแอร์!! ปรากฏว่าได้ผลมาก เพราะฤดูร้อนที่ผ่านมา พี่ยุ่นสามารถลดการแพร่กระจายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศได้มากถึง 71,700 ตัน วันที่ 5 มิถุนายน 2552 นี้ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรม "วันสิ่งแวดล้อมโลก" ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อนๆคนไหนสนใจอยากเข้าชมงานเชิญคะ รายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.deqp.go.th |
check out the rest of the Windows Live™. More than mail–Windows Live™ goes way beyond your inbox. More than messages
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น