"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Blognone
Share |

Suthichai Online - ข่าวประจำวัน

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552

นศ.สละสิทธิเรียนมหา'ลัยพุ่งถึง 2 หมื่น


วันที่ 8 มิถุนายน 2552 เวลา 07:32 น.

 

ฮือ ฮา นักเรียนสละสิทธิ์สอบสัมภาษณ์เข้ามหาวิทยาลัย ยอดสูงถึง 2 หมื่นคน จากผู้สอบผ่านแอดมิชชั่น 7 หมื่นคน ระบุ ม.เกษตรศาสตร์ อันดับหนึ่งสละสิทธิ์มากกว่าเพื่อน 1,690 คน เชื่อต้นตอจากเหตุยื่นเผื่อเลือก พอไม่ได้คณะที่ตั้งใจไว้เลยสละสิทธิ์ ขณะที่สมาคมอธิการบดีฯ ขึ้นข้อความบนเว็บไซท์ จวกยับตัดโอกาสคนที่อยากเข้าเรียน “สกอ.” ยอมรับเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องหาคำตอบ ด้าน “อธิการบดีมอ.” ยืนยันไม่ประกาศรับนักศึกษาเพิ่ม วอนให้เห็นใจเด็กที่อยากเข้าเรียนแต่สอบไม่ได้

จากการประกาศผลการคัดเลือกบุคคล เข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาด้วยระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา หรือแอดมิชชั่น ประจำปีการศึกษา 2552 ซึ่งมีผู้ทำคะแนนผ่านและมีสิทธิสอบสัมภาษณ์จำนวนกว่า 70,000 คนนั้น เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในปีนี้มีนักเรียนผ่านระบบแอดมิชชั่นสละสิทธิการสอบสัมภาษณ์ของสถาบันอุดม ศึกษาต่าง ๆ รวมจำนวน 21,910 คน ทำให้สมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (สอท.) ได้ขึ้นข้อความประกาศในเว็บไซต์ของ สอท. www.cuas.or.th ในส่วนของการสร้างความเข้าใจระหว่าง สอท.กับผู้สมัครแอดมิชชั่น โดยระบุถึงข้อควรพิจารณาในการสมัครเข้าระบบแอดมิชชั่นของสมาคมอธิการบดีแห่ง ประเทศไทย (สอท.) ว่าจากผลการประกาศผู้มีสิทธิสอบสัมภาษณ์เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา จำนวนประมาณ 7-8 หมื่นคนที่ผ่านมา
 
เบื้องต้นพบว่ามีผู้มีสิทธิสอบสัมภาษณ์ประมาณ 2 หมื่นคนไม่มาสัมภาษณ์ เป็นผลทำ ให้คณะและสาขาวิชาของสถาบันอุดมศึกษา ไม่สามารถรับผู้เข้าศึกษาได้ครบตามจำนวนประกาศรับ เป็นการตัดโอกาสของผู้ที่มีความต้องการเข้าศึกษาในคณะและสาขาวิชานั้น ๆ ดังนั้นทาง สอท.จึงขอให้ผู้สมัครสอบพิจารณาให้ดีก่อนที่จะเลือกคณะและสาขาวิชาในการสอบ ระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลางการรับนิสิต นักศึกษา (แอดมิชชั่น) ในปีต่อไป
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา พบว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีเด็กสละสิทธิสอบสัมภาษณ์ 416 คน ม.เกษตรศาสตร์ 1,690 คน ม.ขอนแก่น 664 คน ม.เชียงใหม่ 514 คน ม.ทักษิณ 379 คน ม.พระจอมเกล้าธนบุรี 336 คน ม.เทคโนโลยีสุรนารี 404 คน ม.ธรรมศาสตร์ 579 คน ม.นครพนม 30 คน ม.นราธิวาสราชนครินทร์ 17 คน ม.นเรศวร 1,101 คน ม.บูรพา 1,335 คน ม.มหาสารคาม 1,549 คน ม.มหิดล 295 คน ม.แม่โจ้ 633 คน ม.แม่ฟ้าหลวง 545 คน ม.วลัยลักษณ์ 593 คน ม.ศรีนครินทรวิโรฒ 390 คน ม.ศิลปากร 854 คน ม.สงขลานครินทร์ 1,359 คน ม.อุบลราชธานี 818 คน และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 455 คน
 
ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะ กรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า การสละสิทธิสอบสัมภาษณ์ของนักเรียนเกิดขึ้นทุกปี การที่เด็กสละสิทธิปีนี้จึงถือเป็นเรื่องปกติ ส่วนที่ตัวเลขสูงถึง 2 หมื่นกว่าคนนั้น คิดว่าอาจจะ   มีผลกระทบบ้างในบางมหาวิทยาลัย แต่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ก็ได้ประกาศจำนวนรับเผื่อเด็กสละสิทธิ   ไว้แล้วจึงไม่น่าจะมีปัญหา อย่างไรก็ตามการที่เด็ก สละสิทธิถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่จะต้องหาคำตอบว่า ทำไมเด็กที่มีโอกาสได้เข้าเรียนจึงไม่ใช้โอกาสเหล่านี้ ซึ่งตนคิดว่าเด็กที่สละสิทธิส่วนใหญ่น่าจะมีที่เรียนแล้ว แต่อาจจะยื่นแอดมิชชั่นเผื่อไว้
 
ด้าน รศ.ดร.บุญสม ศิริบำรุงสุข อธิการบดี ม.สงขลานครินทร์ (มอ.) กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมามีนักเรียนที่ไม่มาสอบสัมภาษณ์และรายงานตัวที่ มอ.ประมาณ 900 คน แต่ปีนี้เด็กที่ไม่มาสัมภาษณ์มีมากขึ้น ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเพราะสาเหตุใดหรืออาจเป็นเพราะเด็กไม่ถูกใจคณะที่ได้จึงไป สมัครเข้ามหาวิทยาลัยอื่นแทน เช่น มหา  วิทยาลัยเอกชนหรือมหาวิทยาลัยที่มีการเปิดรับตรงเพิ่มเติม ทั้งนี้แม้การสละสิทธิของนักเรียนจะไม่กระทบกับมหาวิทยาลัยมากนัก แต่ตนอยากให้เห็นใจนักเรียนที่ตั้งใจจะเข้าเรียนแต่สอบเข้าไม่ได้ด้วย อย่างไรก็ตามมอ.จะไม่ประกาศรับเพิ่มเพื่อให้เต็มจำนวนที่ประกาศรับ.อีกปัญหา หนึ่งที่รัฐบาลต้องแก้ไข อย่างกรณีการประกาศรับจำนำข้าวนาปรังที่กำหนดถึงวันที่ 31 ก.ค.นี้ ตนเห็นว่าต้องทบทวนแนวทางในเรื่องของการแทรกแซงพืชผล เพราะถ้าเราใช้วิธีการแบบเดิมจะกลายเป็นปัญหาไปกดราคาสินค้าเกษตรเอง ส่วนก่อนหน้านี้ที่หยุดรับจำนำนั้นไม่ได้เกี่ยวกัน แต่เพราะเต็มโควตาที่กำหนดไว้ 4 ล้านตันแล้ว และที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) อนุมัติขยายโควตาไปอีก 2 ล้านตันแล้ว
 
ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ มีการจัดงาน  “ร่วมมือประสานใจ นำเอสเอ็มอี-โอทอปไทย ก้าวพ้นวิกฤติ” ซึ่งเป็นการรวมพลเจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอี และโอทอป โดย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกฯ และ รมว.คลัง กล่าวในการเสวนาหัวข้อ “ผ่าวิกฤติเศรษฐกิจอย่างไร เพื่อให้ธุรกิจเอสเอ็มอี-โอทอปไทยอยู่รอด” ตอนหนึ่งว่า รัฐบาลขณะนี้เป็นรัฐบาล 3 ไม่ คือ

1.ไม่พร้อม เนื่องจากเข้ามาไม่ได้เตรียมการแผนการกู้เศรษฐกิจอย่างเพียงพอ

2.ไม่ว่าง วันนี้รัฐบาลมีงานเยอะ ปัญหายาเสพติด ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ปัญหาพืชผลทางการเกษตร ก็ยังหาทางแก้ไม่ได้ และ

3.ไม่มีเงิน เป็นตัวสะท้อนว่า เมื่อไม่พร้อม ไม่ว่าง จัดลำดับความสำคัญไม่ได้ เงินที่จะได้จากระบบเศรษฐกิจก็ลดน้อยลง รายได้จัดเก็บจากภาษีก็น้อยลง การกู้เงินวันนี้หลักใหญ่คือรัฐบาลไม่มีเงินบริหารราชการแผ่นดินเพียงพอ เป็นการกู้เอาหน้ารอด เอาเงินมาหมุนเวียนก่อน.

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=201445&NewsType=1&Template=1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
http://facthai.wordpress.com/ ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew