"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Blognone
Share |

Suthichai Online - ข่าวประจำวัน

วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2552

นวัตกรรมทำมือ สื่อการสอนสู้เศรษฐกิจ เสริมการศึกษาเด็กไทย

วันที่ 03 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11407 มติชนรายวัน


นวัตกรรมทำมือ สื่อการสอนสู้เศรษฐกิจ เสริมการศึกษาเด็กไทย


โดย พนิดา สงวนเสรีวานิช




ทรงห่วงใยราษฎร์ พระราชทานฝนหลวง ชาวนาทั้งปวง ยินดีปรีดา
ในยุคที่ "เสิร์ช เอนจิ้น" กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญของการเรียนการสอน เพราะการติดต่อสื่อสาร การค้นข้อมูลสามารถเกิดขึ้นได้ชั่วปลายนิ้วคลิก คนจำนวนมากจึงเสพติดเทคโนโลยีที่มากับความสะดวกสบาย

ไม่แปลกที่รัฐบาลก่อนๆ จะมีนโยบายส่งเสริมการศึกษาเยาวชนของชาติ โดยจัดแบ่งงบประมาณแผ่นดินจำนวนหนึ่งสำหรับการจัดหาเทคโนโลยีสารสนเทศไปเพิ่มคุณภาพการศึกษาของประชาชน

เช่น โครงการซื้อคอมพิวเตอร์แจกโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศเมื่อปี พ.ศ.2548 โครงการซื้อโน้ตบุ๊ก 1 ล้านเครื่อง แจกนักเรียน ป.1-6 ที่เรียนดีแต่ยากจนในต่างจังหวัดเมื่อต้นปีก่อน ฯลฯ

กระนั้นก็มีหลายโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร ที่ที่สิ่งอำนวยความสะดวกเบื้องต้น อย่างไฟฟ้ายังไปไม่ถึง คอมพิวเตอร์ที่ได้มาจึงยังคงถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี เพราะแม้แต่ครูสอนหนังสือ ทั้งโรงเรียนยังมีไม่ครบอัตราจ้างด้วยซ้ำ

สื่อการสอนแบบพื้นๆ ที่อาศัยวัสดุหาง่ายใกล้ตัว เช่น กระดาษ กาว เส้นเอ็น เข็มหมุด กรรไกร ฯลฯ ที่ "พระมหาสมพงษ์ มหาปุญโญ" วัดชลประทานรังสฤษฏ์ ได้จัดทำขึ้นเมื่อประมาณ 7-8 ปีก่อน เพื่อใช้ประกอบการบรรยายให้ความรู้ตามโรงเรียน จึงเป็นของมีคุณค่ามหาศาล

ครั้งนั้นกระทรวงศึกษาธิการเห็นประโยชน์ของสื่อชนิดนี้ และผลักดันเข้าไปในระบบการศึกษา มีการจัดงบประมาณให้จัดทำเพื่อแจกจ่ายไปตามโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษาทั้งหมด 300 โรง ในปี พ.ศ.2548 แต่กลับไม่ประสบผลสำเร็จ มีโรงเรียนที่ได้ใช้สื่อที่จัดทำขึ้นในการเรียนการสอนจริงก็เพียงไม่กี่แห่ง

ถึงวันนี้ผ่านมาราว 5-6 ปีแล้ว พระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท ประธานกองทุน "กองทุนธรรมะเพื่อสันติภาพของโลก" วัดชลประทานรังสฤษฏ์ เข้ามาทำหน้าที่สืบต่อ

ด้วยเห็นความสำคัญของสื่อการสอน ที่ใครๆ ก็สามารถทำเองได้โดยง่าย พระมหาไพฑูรย์จึงจัดทำสื่อชุดใหม่ เพื่อสู้กับวิกฤตเศรษฐกิจ นำแนวพระราชดำริ "เศรษฐกิจพอเพียง" ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นกุญแจสำคัญ ปลูกฝังความคิดเรื่องการกินอยู่อย่างพอเพียงให้กับเยาวชนรวมทั้งฆราวาสทั่วไปที่เข้าฟังการบรรยาย

พระมหาไพฑูรย์กับสื่อการสอน


พระมหาไพฑูรย์เล่าถึงจุดตั้งต้นของการจัดทำสื่อการสอนชนิดนี้ว่า ท่านอาจารย์ "มหาสมพงษ์ มหาปุญโญ" วัดชลประทานรังสฤษฏ์ ซึ่งมรณภาพไปเมื่อ 6-7 ปีก่อนเป็นผู้ที่คิดจัดทำขึ้น เพื่อใช้สอนประกอบการบรรยายทั่วไป ส่วนมากจะนำสุภาษิต คำพังเพย ชาดก นิทานพื้นบ้าน ฯลฯ มาใช้สอน ภายหลังกระทรวงศึกษาธิการเห็นว่ามีประโยชน์ จึงผลักดันเข้าไปในระบบการศึกษา

แต่ก็บูมอยู่เพียงพักเดียว บางโรงเรียนได้สื่อแล้วเก็บ ไม่ได้ใช้ประโยชน์ คิดว่าไม่จำเป็นเพราะเห็นว่ามีสื่อไอทีอยู่แล้ว

บางคนบอกว่าเป็นสื่อสำหรับเด็กเล็ก แต่ไม่ใช่ เพราะสื่อนี้สามารถใช้สอนเด็กได้ตั้งแต่ชั้น ป.1-ม.6 อย่างถ้าเราให้ภาพ (สื่อการสอน) กับเด็กโตแล้วให้เขาระดมสมองออกพรีเซ็นต์ พร้อมกับการแสดงละคร จะสนุกมาก เพราะจุดเด่นของสื่อคือ จะขยับได้ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคนดูคนฟัง รวมทั้งปลูกฝังคุณธรรมซึ่งได้จากภาพและที่เขาแสดงเอง

ตัวอย่างเช่น โรงเรียนลาซาลจันทบุรี (มารดาพิทักษ์) เริ่มเรียนรู้จากอาตมาและนำไปทำสื่อการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ภาษาไทย สุขศึกษา ทุกสาระการศึกษาเลย เนื่องจากอธิการฯโรงเรียนส่งเสริมให้บรรดาครูอาจารย์ใช้สื่อทำจากกระดาษ แล้วได้ผลด้วย ปัจจุบันโรงเรียนลาซาลฯ เป็นที่หนึ่งของจังหวัดจันทบุรีในการทำสื่อชนิดนี้ ถือเป็นต้นแบบของการทำสื่อการสอน

พระมหาไพฑูรย์บอกอีกว่า เมื่อก่อนการทำสื่อการสอนด้วยกระดาษของพระมหาสมพงษ์จะสอนจะเน้นเรื่องประเพณีเป็นส่วนใหญ่ ให้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม สอนให้รู้จักความกตัญญู รวมทั้งนำเอาสุภาษิต คำพังเพย ฯลฯ มาสอน ส่วนสื่อที่เพิ่งจัดทำขึ้นใหม่เป็นชุด "พอเพียง" เพื่อให้เข้ากับสภาวการณ์ของสังคมไทยในปัจจุบัน

(บน) ถนนทุกสาย มากมายรถยนต์ ควันพิษลอยวน ต้องรีบแก้ไข (ล่าง) ร่วมกันปลูกป่าให้เขียวขจี รักษ์วนาลีชีวีร่มเย็น


"ชุด "พอเพียง" เดินตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งสังคมไทย เราฟังในหลวงตรัส แต่ถ้าถามว่าเอามาทำกันได้สักกี่คน...น้อยมาก และไม่ค่อยจะเข้าใจด้วยว่า "พอเพียง" นั้นเป็นอย่างไร ฉะนั้น ในส่วนของเนื้อหาที่นำมาสร้างสื่อชุดใหม่มีด้วยกันหลายเรื่อง โดยอาจารย์ธรรมวิทย์ สุวรรณพฤกษ์ เป็นคนวาดให้ แบ่งเป็นเรื่องของชนบท 6 ภาพ และในเมือง 6 ภาพ เราจะให้มุมมองของการเป็นอยู่อย่างพอเพียง จากนั้นคนที่พอฉลาดมีความรู้ก็จะต่อยอดของเขาเอง"

ยกตัวอย่างเช่น เรื่อง "สามสหาย" พูดถึงเพื่อน 3 คน ที่ไม่พอใจในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน จนเกิดการทะเลาะวิวาทและทำลายต้นไม้ที่อยู่อาศัยของตน นอกจากนี้ ก็จะพูดถึงการปลูกพืชผักรับประทานเอง

ถ้าเป็นเรื่องสอนคนในเมืองจะพูดถึงการประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ เพราะถ้าเราใช้โดยไม่รู้จักปิดจะเป็นการเปลืองมาก

"ตอนนี้เสร็จหมดแล้ว แต่เรายังไม่ได้ตีพิมพ์เป็นแผ่นสำเร็จรูป เพราะต้องใช้ทุนเป็นจำนวนมาก ในเบื้องต้นจึงทำเพียงแค่เราพอใช้ได้เองก่อน โดยใช้เงินจาก "กองทุนธรรมะเพื่อสันติภาพของโลก" ซึ่งทางคณะกรรมการบริหารของวัดชลประทานรังสฤษฏ์ดูแลอยู่"

พระมหาไพฑูรย์บอกอีกว่า เงินจากกองทุนธรรมะเพื่อสันติภาพของโลกเมื่อครั้งที่จัดทำสื่อการสอนชุดแรกๆ พอมีการประชาสัมพันธ์ออกไปก็มีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินสนับสนุนเข้ามาเพื่อใช้ในการทำสื่อ แต่ตอนนี้เราเอาเงินตัวนี้มาสร้างสื่อชุดใหม่ แต่ยังไม่ได้ประกาศออกไป จึงยังไม่มีเงินเข้ามา

"อาตมาไปดูแล้วเห็นว่ามีความจำเป็นต่อการศึกษาระดับล่างเป็นอย่างมาก เพราะโรงเรียนหลายๆ แห่งไม่มีเงินซื้อคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้แล้วก็ยังมีเพราะครูผู้ใหญ่มากๆ ใช้ไอทีไม่สันทัด ก็ให้ความสนใจ และสื่อกระดาษชนิดนี้ทำเองได้ง่าย ทนไม้ทนมือด้วยและเมื่อชำรุดเสียหายก็สามารถซ่อมเองได้

ก่อนหน้านี้มีฆราวาสที่กำลังทำปริญญาโทเรื่องสื่อการสอน มาขออนุญาตทำการวิจัยเรื่องนี้ พบว่าใช้ได้ผลจริง ซึ่งผลการวิจัยพบว่า ร้อยละ 88.9 คนพอใจมาก เด็กนักเรียนพอใจ ผู้ปกครองพอใจ อย่างที่โรงเรียนลาซาลจันทบุรีมีผู้ปกครองที่พาลูกมาเรียนกันมาก

ที่วัดชลประทานรังสฤษฏ์ วันเสาร์-อาทิตย์ก็ใช้สื่อนี้สอนเด็ก แต่อาตมาใช้สอนอยู่ผู้เดียว เพราะจะต้องเป็นพระหรือโยมที่มีความรู้ หรือที่เคยอ่านแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงจะเข้าใจและสามารถใช้สื่อนี้สอนได้"

ส่วนครูอาจารย์ที่ต้องการจะได้สื่อการสอนชุด "พอเพียง" นี้ไปสอนในโรงเรียน พระมหาไพฑูรย์บอกว่า ตอนนี้ทางวัดไม่มีวัตถุดิบสำหรับผลิตแจกจ่ายไปตามโรงเรียน เพราะไม่มีคนสนับสนุน แต่ถ้าครูอาจารย์สนใจ สามารถเข้ามาเรียนรู้การทำสื่อ แล้วกลับไปทำใช้เองได้ โดยติดต่อมาได้ที่ พระมหาไพฑูรย์ วัดชลประทานรังสฤษฏ์ โทร.0-2583-8217, 08-9509-6682

หรือถ้าจะให้การสนับสนุน สามารถผ่านทางบัญชี ชื่อบัญชี พระมหาไพฑูรย์ วรรณบุตร และ/หรือ นางลัดดาวัลย์ แก้วสว่าง และ/หรือนางสุกัญญา นิยยตรุษ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาย่อยคาร์ฟูร์ แจ้งวัฒนะ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 376-2 04054-8

เพราะการส่งเสริมเยาวชนของชาติให้เติบโตขึ้นอย่างเข้มแข็ง ในสังคมการเรียนรู้อย่างพอเพียงเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งในปัจจุบัน

หน้า 20
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01pra01030652&sectionid=0131&day=2009-06-03


Invite your mail contacts to join your friends list with Windows Live Spaces. It's easy! Try it!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
http://facthai.wordpress.com/ ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew