"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Blognone
Share |

Suthichai Online - ข่าวประจำวัน

วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

คนบาป


วันที่ 05 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11439 มติชนรายวัน


คนบาป


คอลัมน์ เดินหน้าชน

โดย ภาคภูมิ ป้องภัย



ผมไม่เชื่อว่าประกาศฉบับ 30 มิถุนายน 2552 ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันที่ 7-8 กรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นวัน "เข้าพรรษา-อาสาฬหบูชา" จะทำให้ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรมเสียหายมากมายอะไร

จนถึงขนาด พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ และกำกับดูแลการท่องเที่ยว แสดงความวิตกทุกข์ร้อนแทน ถึงขั้นทำบันทึกเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา เสนอนายกรัฐมนตรีแก้ไขประกาศใหม่ อนุญาตให้โรงแรมขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ใน 2 วันพระใหญ่

เพราะทุกวันนี้ธุรกิจการท่องเที่ยวมันแย่อยู่แล้วจากปัญหาเศรษฐกิจฝืดเคือง ตามซ้ำด้วยไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ กับอีแค่ห้ามขายในโรงแรมแค่ 2 วันใน 1 ปี โรงแรมแต่ละแห่งจะขาดรายได้ไปสักกี่พันกี่หมื่นบาท

โรงแรมไม่ได้เสียหายมากมายจากการปิดเลานจ์ ปิดผับ 2 วัน ดีเสียอีกช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ พนักงานเองจะได้หยุดไปทำบุญไปพักผ่อนกับครอบครัว ส่วนชาวต่างชาติถึงแม้ไม่สามารถนั่งดื่มในผับในเลานจ์หรูของโรงแรม แต่ในห้องพักก็มีเครื่องดื่มมึนเมาแช่เย็นเจี๊ยบเต็มตู้เย็น

ที่สำคัญ ประกาศดังกล่าวไม่มีผลให้เขายกเลิกการมาเที่ยวเมืองไทยเพราะกลัวลงแดงตายใน 2 วัน เนื่องจากคนต่างชาติวางโปรแกรมล่วงหน้าก่อนประกาศห้ามขายน้ำเมาวันพระใหญ่ ป่านนี้บินมาถึงไทยหมดแล้ว

ที่สำคัญกว่านั้นคือ ประกาศห้ามขายน้ำเมาจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เมืองไทยในสายตาชาวต่างชาติมากกว่าการปล่อยให้ดื่มกันเสรี ชาวต่างชาติยิ่งจะเลื่อมใสในศาสนาพุทธและชื่นชมความเข้มแข็งของพุทธศาสนิกชน ซึ่งสามารถรักษาศีลอย่างเคร่งครัด

หรือหาก พล.ต.สนั่น และกระทรวงท่องเที่ยวอ้างว่า โรงแรมจะขาดรายได้จากงานเลี้ยงสังสรรค์ หรืองานฉลองมงคลสมรส มันก็ไม่มีน้ำหนัก เพราะชาวพุทธไม่นิยมจัดงานเลี้ยง หรือร่ำน้ำเมากลางงานฉลองสมรสในวันสำคัญทางศาสนาอยู่แล้ว

คนปกติที่ไหนเขาจะตั้งวงดวดเหล้าในโรงแรมในวันเข้าพรรษา และอาสาฬหบูชาแบบสวนมโนสำนึกตัวเองและท้าทายสายตาชาวพุทธ นอกจาก "คนบาป" เท่านั้น

ในทางตรงข้าม หากคนต่างชาติรู้ว่าโรงแรมยังขายน้ำเมาให้แขกดื่มทั้งๆ ที่เป็นวันสำคัญ เขาอาจคิดว่า "โอ้โห..คนไทยนี่มันแย่น่าดู ขนาดวันสำคัญอย่างนี้ มันยังไม่มีสำนึก"

นี่ไม่นับเวลาที่แอลกอฮอล์มันแผ่ซ่านลงข้างล่างเมื่อไหร่ มันจะนำไปสู่การกามกิจ และเรื่องผิดลูกผิดเมียเขา จิปาถะ

ผมอธิบายมาทั้งหมดเพื่อจะบอกว่า กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวเขาไม่ได้เดือดร้อนอะไรหรอกครับ คนที่เดือดร้อนคือฝ่ายการเมือง และกลุ่มทุนน้ำเมามากกว่า

ไอ้ที่ดิ้นเหมือน "ไส้เดือนตกขี้เถ้า" ทุกเทศกาลเพราะมันมีวาระซ่อนเร้น

ผมเชื่อว่าฝ่ายการเมืองกลุ่มหนึ่ง และกลุ่มทุนน้ำเมาร่วมกันเสนอแนวคิดหักล้างประกาศฉบับ 30 มิถุนายนนั้น เป็นเพียงใช้ข้ออ้างท่องเที่ยวพังมาบังหน้า หาได้อยากช่วยเหลืออะไรไม่ แท้จริงแล้วพวกเขาต้องการแสดงพลังอำนาจให้สังคมเห็นว่าตัวเองอยู่เหนือกว่า อีกทั้งไม่มีวันยอมศิโรราบให้ภาคประชาสังคมและองค์กรเครือข่ายเด็ดขาด

เห็นได้จากทุกครั้งที่ภาคประชาสังคมเคลื่อนกดดันรัฐบาลให้เพิ่มระดับควบคุมการจำหน่ายสินค้าบาป ทุกครั้งจะเกิดการต่อต้านจากฝ่ายการเมือง และกลุ่มทุนน้ำเมา ผลที่ออกมาถ้าไม่พบกันครึ่งทางก็เป็นฝ่ายหลังชนะ

หากฝ่ายหลังไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้ฝ่ายแรกรุกตลอดเวลา จำนวนวันห้ามจำหน่ายน้ำเมาจะมากขึ้นเรื่อยๆ ในระยะยาวตัวเองจะได้กำไรจากชาวบ้านน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งผิดวิสัยนายทุน

ผมหวังว่า คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และคณะที่ปรึกษานายกฯ จะร่วมกันใคร่ครวญให้ลึกซึ้ง และตัดสินใจยับยั้งข้อเสนอของ พล.ต.สนั่นเสียเนิ่นๆ

มีแต่ "คนบาป" เท่านั้นครับที่มีความสุขยามเห็นผู้คนนั่งร่ำสุรายาเมาตำตาตำใจชาวพุทธทั้งๆ ที่เป็นวันสำคัญทางศาสนาพุทธ

หน้า 8

http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01act05050752&sectionid=0130&day=2009-07-05





แบ่งปันรูปถ่ายกันอย่างง่ายดายด้วย Windows Live™ Photos ลากแล้วปล่อย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
http://facthai.wordpress.com/ ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew