"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Blognone
Share |

Suthichai Online - ข่าวประจำวัน

วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Active Therapy สยบอาการปวดหลัง




วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 10:42:14 น.  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

Active Therapy สยบอาการปวดหลัง

จรัญ ยั่งยืน...เรื่อง


อาการ ปวดหลังได้ย่างสามขุมมาคุกคามคนวัยทำงานมากขึ้นทุกวัน เป็น ๆ หาย ๆ เป็นแล้วยิ่งเป็นมากขึ้น แล้วจะทำอย่างไรดีจึงจะสามารถหยุดเรื่องที่รบกวนใจรบกวนกายเหล่านี้ได้

ก่อนอื่นต้องมาดูที่ต้นเหตุก่อนว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เราปวดหลัง ?

ดร.ทนต์ ทณัฐ โรจนาศรีรัตน์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน ไคโรแพร็กติก ไคโรเมดคลินิก บอกว่า ปัญหาของโครงสร้างของร่างกายกว่า 80% มาจากการใช้โครงสร้างผิดลักษณะในเรื่อง การนั่ง ยืน เดินต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ถ้าทำอย่างผิดวิธีต่อเนื่องจะทำให้โครงสร้างของร่างกายเสื่อมสภาพ แล้วโรคหลาย ๆ อย่างจะตามมา

คนเมืองทุกวันนี้ปวดหลัง ปวดตา

ปวด ไหล่ แล้วลามมาที่เบ้าตากันมาก ซึ่งเป็นหนึ่งของอาการที่ เรียกว่า ออฟฟิศซินโดรม เพราะด้วยสภาพแวดล้อมของสังคมเมือง ทำให้คนเราแอ็กทีฟน้อยลง เทคโนโลยีต่าง ๆ ทำให้เราขี้เกียจมากขึ้น เราจะไม่ได้พัฒนา ในส่วนของฟิสิคอลมากเท่าที่ควร รวมถึงเรื่องการดูแลตัวเอง การออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร

สภาวะความตึงเครียดต่าง ๆ ก็นำมาสู่เรื่องของอาการปวดต่าง ๆ นี้ได้

แล้วจะรักษาอาการปวดหลังอย่างไร ?

น.พ.พศวี ร์ สมหวังทรัพย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำไคโรเมดคลินิก กล่าวว่า ปกติเมื่อเราป่วย ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ส่วนใหญ่จะเป็นการรักษาแบบ passive therapy หมอตรวจร่างกาย สุดท้ายก็เป็นการรักษาโดยใช้ยา ทำกายภาพบำบัด เมื่อกินยาหรือทำกายภาพบำบัดไปสักพักหนึ่ง อาการก็ไม่ค่อยดีขึ้น สุดท้ายจึงลงเอยที่การผ่าตัด

แต่ทางไคโรเมดใช้หลักการ active therapy เชื่อว่ามีประสิทธิภาพในการบำบัดรักษาผู้ป่วยมากที่สุด เพื่อป้องกัน หรือลดการกลับมาเป็นซ้ำของผู้ป่วย โดยจะใช้เทอราปิสต์เอ็กเซอร์ไซส์ เป็นเอ็กเซอร์ไซส์แนวใหม่ที่มีงานวิจัยรองรับ ซึ่งจะช่วยได้ดีในเรื่องทุก ๆ ส่วนที่เกี่ยวกับอาการปวด

active therapy มีหลักการ 3 ประการ คือ
1.การรักษาสมดุลโครงสร้างของร่างกาย
2.การใช้ลักษณะท่าทางที่ถูกต้อง
3.การออกกำลังกายในเชิงป้องกัน

ปกติโครงสร้างของกระดูกสันหลังของคนเราจะมีส่วนเว้า

ส่วน โค้งเหมาะสมในการรับน้ำหนักและการเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง แต่ด้วยพฤติกรรมการเดิน, การนั่ง, การยืน, การยกของในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น เดินหลังงอ, นั่งไขว่ห้าง, ยืนหลังแอ่น การถือหรือ

สะพายกระเป๋าด้วยแขนหรือไหล่ข้างใดข้างหนึ่งเป็นประจำเป็นระยะเวลายาวนาน จะส่งผลให้โครงสร้างร่างกายผิดรูป เช่น หลังแอ่น, หลังคด

หากโครงสร้างร่างกายเริ่มผิดรูป กระดูกสันหลังจะเริ่มผิดปกติ

ทำให้มีผลต่อ "ข้อกระดูก" ที่ต้องแบกรับน้ำหนักมากกว่าปกติ

"กล้ามเนื้อ" ที่จะเสียภาวะสมดุล จนเกิดเป็นอาการปวดตามบริเวณ ต่าง ๆ ขึ้น

"เมื่อ เราเข้าใจโครงสร้างร่างกายของเราแล้ว การดูแลรักษาอาการปวดหลังแก้ไขได้ เริ่มจากการรักษาภาวะสมดุลของร่างกายให้ดีที่สุด การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้อิริยาบถ ต่าง ๆ ที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ใช้กระดูก ข้อต่อ และกล้ามเนื้อ

ทำงานผิดปกติ"

และ หลักสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การออกกำลังกายเชิงป้องกันมาผสมผสานควบคู่ไปด้วย เพราะจากการศึกษาพบว่าการแก้ปัญหาปวดหลังให้ได้ผลในระยะยาวนั้นจะต้องพัฒนา เรื่อง "ความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของโครงสร้าง" ร่วมกับการแก้ไขในส่วนของโครงสร้างที่ผิดรูปอย่างถูกต้อง

ฉะนั้นจะต้องมีการฝึกการออกกำลังกายอย่างถูกต้อง

ไม่ฝืนธรรมชาติ เพราะอาจทำให้เกิดปัญหากับโครงสร้าง

เรา มีผู้เชี่ยวชาญแนะนำการออกกำลังกายด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ทันสมัยที่สุด แห่งหนึ่งในเมืองไทย เครื่อง kinesis, huber, power plate, reformer, anterior flexibility และ posterior เป็นต้น

โดยการออกกำลังกายจะ เป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพิ่มความยืดหยุ่น ตลอดจนการปรับสมดุลของโครงสร้างร่างกายให้อยู่ในท่าทางที่ถูกต้อง

นอก จากนี้ไคโรเมดคลินิกยังใช้ศาสตร์ไคโรแพร็กติกแนวผสมผสาน (intregrated chiropractic) ซึ่งแนวคิดใหม่เพื่อผลลัพธ์สูงสุดในการรักษาอาการปวดหลังแบบองค์รวม เพื่อจัดกระดูก ที่ผิดรูปให้กลับคืนโครงสร้างตามธรรมชาติอย่างค่อยเป็นค่อยไปผสมผสานเข้ากับ เวชศาสตร์ฟื้นฟู และการทำกายภาพบำบัดเพื่อการฟื้นฟูและเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย ช่วยให้ระบบต่าง ๆ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยจะมีการทำ อัลตราซาวนด์, เลเซอร์, ประคบร้อน, ประคบเย็น, TENS, Traction มีการนำวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ใช้หลักการออกกำลังกายมาช่วยบำบัดรักษาและ ป้องกันความผิดปกติของกล้ามเนื้อ

กระดูก และข้อต่อ เพื่อช่วยเสริมสร้างให้สมรรถภาพทางกายกลับคืนสู่สภาวะปกติ หรือใกล้เคียงดังเดิมมากที่สุด รวมทั้งแนะนำด้านโภชนาการให้คนไข้อย่างเหมาะสม

ดร.ทนต์ทณัฐกล่าวว่า ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เพียงแต่จะช่วยหยุดอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดศีรษะ

โดยไม่ต้องผ่าตัดแล้ว การบำบัดด้วย active therapy ยังช่วยฟื้นฟูร่างกายในระยะยาว ทำให้สุขภาพโดยรวมของคนไข้ ดีขึ้นทั้งรูปลักษณ์

ภายนอกดูดี ไม่อ้วน และมวลสารต่าง ๆ

ภายในร่างกายอยู่ในระดับ สมดุลอย่างที่ควรเป็น

แต่ถ้ารักษาแล้ว

3 เดือน อาการยังไม่ดีขึ้นก็ต้องพิจารณาเรื่องผ่าตัด "เราไม่ได้บอกว่า

การผ่าตัดเป็นสิ่งที่ไม่ดี หากคนไข้มีความจำเป็นก็หลีกหนี ไม่พ้น แต่ปัจจุบันเราพบว่าอาการปวดหลังมากกว่า 80% ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด"

นี่เป็นแนวทางรักษาอาการปวดหลัง

ที่น่าสนใจแนวทางหนึ่ง
                            http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1267069362&grpid=07&catid=00&sectionid=0225

--
โปรดอ่านบล็อก
http://www.pridiinstitute.com
http://www.nakkhaothai.com
http://apps.facebook.com/blognetworks/index.php
http://www.roundfinger.com/
http://twitter.com/sweetblog
http://twitter.com/oknewsblog
http://twitter.com/okblogger
http://twitter.com/sat191
http://www.pacc.go.th/
http://twitter.com/okblogchan
http://twitter.com/sun1951
http://twitter.com/smeblogger
http://twitter.com/seminarblog
http://twitter.com/sunnewsblog
http://twitter.com/okworldblog
http://twitter.com/ktblogger
http://twitter.com/sundayblog
http://twitter.com/mondayblog
http://twitter.com/tuesdayblog
http://twitter.com/wednesdayblog
http://twitter.com/thursdayblog
http://twitter.com/fridayblog
http://twitter.com/saturdayblog
http://www.deepsouthwatch.org/node/687

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
http://facthai.wordpress.com/ ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew