"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Blognone
Share |

Suthichai Online - ข่าวประจำวัน

วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2553

ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ วิเคราะห์ข้อเสนอ "มวลชนไพร่" "ยุบสภา-นองเลือด-ไม่มีเจ๊า-ไม่มีจบ"


ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ

วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2553 เวลา 19:11:52 น.  มติชนออนไลน์

ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ วิเคราะห์ข้อเสนอ "มวลชนไพร่" "ยุบสภา-นองเลือด-ไม่มีเจ๊า-ไม่มีจบ"

ถ้าการเคลื่อนไหว ต่อสู้ทางการเมือง เป็นส่วนหนึ่งของ "ผ้าผืนใหญ่" ทางประวัติศาสตร์  


ขบวนการต่อสู้เพื่อเป้าหมายประชาธิปไตย เพื่อเรียบเรียง-ถักทอ-ร้อยเย็บเป็น "ผ้าผืนใหญ่" มีมาแล้วไม่น้อยกว่าครึ่งศตวรรษ 


นับตั้งแต่การต่อสู้เพื่อการปลดปล่อยเข้าสู่การเมืองใหม่ของสยาม ตั้งแต่ช่วงหลัง พ.ศ. 2490 ซึ่งปรากฏ-แรงปะทะ-สะท้อนจาก "ระบอบพิบูล-เผ่า-ผิน-สฤษดิ์-ถนอม-ประภาส"  ภายหลังถูกเรียกเป็นปรากฏการณ์การเมืองในระบบ "ประชาธิปไตยแบบไทย"


แต่การเคลื่อนไหวทางการเมืองยังไม่ได้บรรลุเป้าหมายตามอุดมการณ์ ประชา ธิปไตย ทว่าการเมืองไทยได้   แปลงรูป-แปลงระบอบเข้าสู่ความเป็นระบบ "เสนา-อำมาตยาธิปไตย" 

กระทั่งการเคลื่อนไหวของมวลชนในยุค 14 ตุลา 2516 และ 6 ตุลา 2519 และ "พฤษภาทมิฬ 2535" จึงมีคลื่นความคิดของ กระแส "เสรีนิยม" เข้ามาเป็นกระแสหลัก 


การบุกเบิก เติมเต็ม ชำระสะสางและรื้อฟื้นประวัติศาสตร์การเมืองไม่อาจสมบูรณ์ หากไม่มีมุมมอง "ประวัติศาสตร์ช่วงยาว" ทั้งในบริบทสังคม-การเมืองไทย และการเมืองโลก ประกอบเป็น "ผ้าผืนใหญ่" 


ทั้งหมดเป็นทรรศนะวิชาการที่   ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รวบรวม-เรียบเรียงจนตกผลึกเพื่อใช้ปรากฏการณ์ "เสื้อแดง" ที่เคลื่อนไหวอึกทึกครึกโครมทั่วทั้งแผ่นดินอีสาน-เหนือ ประกอบเป็น "ผ้าเผลาะ"  ผืนใหญ่ทางประวัติศาสตร์ 


จึงต้องบันทึกข้อวิเคราะห์ของ "ดร.ชาญวิทย์" ตั้งแต่บรรทัดนี้เป็นต้นไป...


@วิเคราะห์ทางออกสถานการณ์การเมือง ที่แกนนำเสื้อแดงยื่นข้อเสนอต้องยุบสภาเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน


ถ้ามองในแง่ดี คือคงจะมีการยุบสภาเพราะปริมาณและคุณภาพของฝ่ายเสื้อแดงน่าจะทำให้รัฐบาลหา ทางออกให้กับสังคมด้วยการยุบสภาและเริ่มต้นไปสู่การเลือกตั้งใหม่ จากนั้นคงมีการปฏิรูปการเมืองหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป   แต่ถ้ามองในแง่ร้าย อาจจะมีการนองเลือดหรือมีเหตุการณ์ที่รุนแรงกว่า "สงกรานต์เลือด" ในปีที่แล้ว เนื่องจากในปีนี้คงไม่มี "การเจ๊ากันไป" แค่นั้น และอาจมีการปราบปรามกำจัดบุคคลชั้นนำของฝ่ายเสื้อแดง


ในแง่นี้ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้สีแดงจะถูกปราบปรามไปชั่วขณะหนึ่ง แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่จบ เช่นเดียวกับเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยา 2549 ที่เกิดขึ้นแล้วก็ไม่ได้ทำให้เรื่องจบ


กระทั่งปีนี้ผ่านมาถึงปีที่ 4 แล้ว เรื่องยิ่งปานปลาย ฉะนั้นหากมีการปราบปรามกำจัดผู้นำบางคนก็จะยิ่งทำให้ทักษิณ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) ได้กำลังเพิ่มเติมยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะยุบสภาหรือมีการนองเลือดก็ไม่ได้ทำให้เรื่องจบในตอนนี้ 


@ การเคลื่อนไหวทางการเมืองของ นปช.-เสื้อแดง แตกต่างจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มอื่นในประวัติศาสตร์อย่างไร


ประเด็นที่เหมือนกันคือ เมื่อมีการยึดอำนาจในวันที่ 19 กันยาได้แล้ว ทักษิณไปอยู่ต่างประเทศเหมือนกับนายปรีดี  พนมยงค์, จอมพล ป. พิบูลสงคราม, พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ แต่มีความแตกต่างตรงที่ยุคของทักษิณมีเทคโนโลยีที่ใช้ในการสื่อสารกลับเข้ามาในประเทศและมีเงิน


แต่คนรุ่นโน้นในปี 2475 เมื่อพระยาทรงสุรเดช หรือกระทั่งรัชกาลที่ 7 เมื่อทรงลี้ภัย สละราชสมบัติ ก็ไม่สามารถกลับมาได้ รวมทั้งนายปรีดี จอมพล ป. พล.ต.อ.เผ่า ก็กลับเมืองไทยไม่ได้ 


แต่ผมคิดว่า ทักษิณและพรรคพวกเป็น สิ่งใหม่ในการเมืองไทย คือหลุดจากอำนาจไปแต่เรื่องก็ไม่จบ เพราะมี 1) เทคโนโลยี     2) เงิน และ 3) มีมวลชนจำนวนหนึ่งให้ความจงรักภักดีสนับสนุน ในแง่นี้การเมืองของเราไม่เหมือนที่เป็นมา เราจะได้เห็นอะไรต่อมิอะไรที่ไม่เคยมีมาก่อน


@มีการประเมินว่าปริมาณมวลชนที่มา รวมตัวกันเป็นจำนวนมากนั้น เพราะมีการจัดตั้งด้วยเงิน อาจารย์ประเมินอย่างไร 


การเมืองก็ต้องมีการจัดตั้ง ซึ่งการจัดตั้งหรือการมีเงินเข้ามา ไม่ได้หมายความว่า มวลชนไม่มีพลัง ส่วนปรากฏการณ์พลังบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของมวลชนนั้น ในอดีตมีครั้งเดียวคือ เหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 เพราะถูกหลอกและถูกล้อมปราบเมื่อ 6 ตุลา 2519 นั่นเป็นครั้งเดียวที่มวลชนมาอย่างไร้เดียงสา


@ครั้งนี้มวลชนไม่ไร้เดียงสา ไม่ถูกหลอก


ส่วนปรากฏการณ์เดือนมีนาคม 2553 นี้ สำคัญมากในแง่ที่เรากำลังเดินมาถึงตรงกลางของกระบวนการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีการจัดตั้งที่เป็นระบบมาก ๆ ในการเข้ามาใช้เมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครในการต่อรองอำนาจ ขณะเดียวกันก็มีคนเข้ามาร่วมมากอย่างที่หลายคนคิดไม่ถึง และคนในส่วนบนของสังคมก็คาดไม่ถึงว่าจะมามากขนาดนี้ 


การเมืองที่เรารู้จักกัน หากไม่มีเงินก็ทำไม่ได้ การเมืองก็คือการเมือง เหตุการณ์ 14 ตุลา ผู้ใหญ่ไม่กล้าออกมาเล่น ทำให้เด็ก ๆ นักศึกษาหนุ่มสาวออกมาเล่น แต่ตอนนี้เด็ก ๆ บอกว่าการเมืองเป็นเรื่องของผู้ใหญ่...ก็ว่ากันไป


@มวลชนที่เข้าชุมนุมสมัยมีนาคม 2553 มีเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงไปจากสมัยก่อนอย่างไร

 

ผมคิดว่าการเมืองไทยได้ยกระดับมาก ๆ ในแง่ความรู้ ผมไม่เชื่ออย่างที่นักวิชาการเคยเชื่อกันว่า คนบ้านนอกคนชนบทชาวไร่ชาวนา โง่  แต่เราควรเปลี่ยนความเข้าใจใหม่ว่า เขาไม่ยอมให้ถูกหลอกอีกต่อไปแล้วมากกว่า เพราะชาวบ้านเขารู้ทัน เขามี โทรศัพท์มือถือกันทุกบ้าน มีข้อมูลข่าวสาร เขาไม่ได้มีสภาพเป็นแบบที่เราเคยเชื่อกัน


เนื่องจากคนระดับล่างกำลังตื่นตัวและทวงสิทธิ สิ่งที่น่าสนใจในตอนนี้คือ ลักษณะการต่อสู้ที่มีการชูคำ 2 คำ คือ คำว่า "ไพร่" และ "อำมาตย์" ถ้ามองแบบมาร์กซิสต์/ อาจบอกว่าเป็นการต่อสู้ทางชนชั้น โดยการต่อสู้ครั้งนี้อาจไม่ใช่มาร์กซิสต์สกุลเหมาหรือเลนิน แต่ถูกแปลงให้เป็นไทย


เดิมทีคำว่า "ไพร่" มักจะถูกกวี นักเขียน นำมาใช้ แต่ไม่มีใครนำมาใช้ในความพยายามเข้าใจสังคมไทยว่าไพร่ คือสามัญชนคนทั่วไปที่กำลังเรียกสิทธิจากผู้ดี  ชนชั้นสูง อภิสิทธิ์ชน ปรากฏการณ์ครั้งนี้เป็นความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจมาก จากเดิมที่ไพร่ถูกใช้ในแวดวงคนมีการศึกษา  แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกนำมาใช้ในวงกว้าง 


@ การต่อสู้ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องระหว่างคนชนบทกับคนในเมือง แต่เป็นเรื่องระหว่างไพร่กับคนชั้นสูง


เป็นการแบ่ง 2 ขั้วความจริงแล้วมีคนในเมืองจำนวนมากที่รู้สึกว่าตัวเองมีฐานะเป็นคนชนบท และมีคนชนบทจำนวนมากที่รู้สึกว่าตัวเองมีฐานะเป็นคนในเมือง ฉะนั้น    คำอธิบายเรื่องคนชนบทกับคนเมืองอาจ  ไม่พอ แต่ต้องอธิบายฐานะทางสังคม   มากกว่าฐานะตามภูมิศาสตร์ว่าอยู่ตรงไหน 


@ รูปแบบการแพ้-ชนะของคนเสื้อแดงจะเป็นอย่างไร 


ยังไม่มีแพ้-ชนะขณะนี้ เพราะเกมนี้ยาวไม่จบง่าย ๆ ถึงแม้หากมีการยุบสภาแล้วก็ ไม่ได้หมายความว่าเรื่องจะจบ หรือหากมีการปราบปราม มีการนองเลือด มีคนดัง ๆ ตัวโต ๆ ถูกทำลายชีวิตแล้วเรื่องก็ยังไม่จบอยู่ดี


@ประเมินว่าระดับการชุมนุมครั้งนี้จัดว่า ยิ่งใหญ่ถึงขนาดเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจได้หรือไม่ 


เหตุการณ์เดือนมีนาคม 2553 เป็น    จุดหนึ่งของการขับเคลื่อนใน transition (ช่วงเปลี่ยนผ่าน) โดยที่ transition อาจเป็น 100 ปีก็ได้ เพราะมีความพยายามของกระบวนการประชาธิปไตย มีความพยายามยึดอำนาจมาตั้งแต่ ร.ศ. 130 ต่อมามีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เป็นความเปลี่ยนแปลงที่มีมาเรื่อย ๆ


หากพูดถึง 14 ตุลา 2516, พฤษภา 2535 การเกิดเหตุการณ์มีนา 2553 ก็อยู่ในกระบวนการทั้งหมดอันยาวนาน เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่บางครั้งใช้เวลาถึง 100 ปี 


แต่เรามักหลอกตัวเองหรือมักถูกหลอกเสมอว่า ในอดีตเรามีความสมานฉันท์   ปรองดองสามัคคี โดยมองข้ามเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ มองข้ามความขัดแย้งที่มีอยู่ในอดีต เช่น วังหลวงกับวังหน้า เมื่อเรามองข้ามเหตุการณ์เหล่านี้ เราจึงคิดว่าภาพในอดีตมีความปรองดอง


@ ดังนั้น ความไม่เป็นเอกภาพของแกนนำเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทย ถือว่าเป็นปัญหาหรือเป็นปรากฏการณ์ที่ดี

 

ความเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดจากความคิดที่แตกต่าง ซึ่งไหลไปรวมกันที่จุดเดียวกัน หากมองย้อนกลับไปในเหตุการณ์ 14 ตุลา คนก็คิดว่าเป็น unity (ความสามัคคี)     แต่ความจริงไม่ใช่ และเหตุการณ์เคลื่อนไหวทางประวัติศาสตร์หลายครั้งทั้งในและต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา   ก็มีความคิดที่แตกต่างกันในคนฝ่ายเดียวกัน


@ผู้ชุมนุมบางส่วนมีเป้าหมายสู้ให้ทักษิณกลับประเทศ บางส่วนต้องการจะโค่นอำมาตย์ เมื่อเป้าหมายแตกต่างขนาดนี้จะไหลไปรวมกันสู่จุดใด


ในประวัติศาสตร์ นักปฏิวัติมักจะมาทะเลาะกันเองหลังการต่อสู้จบแล้ว...       สิ่งที่เราอยากเห็นคือ ควรสู้ไปให้ถึงที่สุด ขออย่างเดียว อย่าใช้อาวุธฆ่ากัน

 

(ที่มา :หนังสืแอพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ)

                                http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1269000997&grpid=01&catid=
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.thaifreedompress.blogspot.com/
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.media4democracy.com/th/
http://www.youngtelecom.org/
http://www.logex.kmutt.ac.th/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm
http://www.isriya.com/node/2809
/wordcamp-bangkok-2009-pool-party
C:\Documents and Settings\user\My Documents\ไฟล์ที่ได้รับของฉัน\issarachon1101.wma
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=hiansoon

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
http://facthai.wordpress.com/ ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew