"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Blognone
Share |

Suthichai Online - ข่าวประจำวัน

วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2553

3 หนุ่ม 3 มุม "เสี่ยตา-เสี่ยต๋อย-วิทวัส " เกมโชว์ ตัวพ่อ ...ใครหนอรวยโคตร ๆ!!!




วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2553 เวลา 13:46:21 น.  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

3 หนุ่ม 3 มุม "เสี่ยตา-เสี่ยต๋อย-วิทวัส " เกมโชว์ ตัวพ่อ ...ใครหนอรวยโคตร ๆ!!!

ถ้า พูดถึงเกมโชว์ในเมืองไทยต้องมีชื่อของ 3 คนนี้ เชื่อหรือไม่ 3 เจ้าพ่อเกมโชว์ อันประกอบด้วย เสี่ยตา-ปัญญา นิรันดร์กุล แห่งบริษัทเวิร์คพอยท์ เสี่ยวีที-วิทวัส สุนทรวิเนตร์ เจ้าพ่อ "ตีสิบ" และ เสี่ยต๋อย-ไตรภพ ลิมปพัทธ์ เจ้าของบริษัท บอร์นฯ 3 เสี่ย รวยทะลุพันล้าน ถ้าไม่เชื่อต้องอ่านเรื่องนี้ !!!

     ... โดนจับคู่ให้เป็นมวยคู่เอกประเภทเกมโชว์และวาไรตี้จอตู้ไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับ เสี่ยตา-ปัญญา นิรันดร์กุล แห่งบริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด เจ้าของรายการ ชิงร้อยชิงล้าน เกมทศกัณฐ์ ระเบิดเถิดเทิง ฯลฯ กับ เสี่ยวีที-วิทวัส สุนทรวิเนตร์ เจ้าพ่อ "ตีสิบ" ในนามบริษัท ทเว็นตี้ ทเว็นตี้ เอ็นเทอร์เทนเมนต์ จำกัด
     แม้ทั้งสองคนเพิ่งกอดคอคุยกันอย่างสนิทสนมในพิธีครอบครูของช่อง 3 เมื่อเร็วๆ นี้ก็ตาม      ก่อนหน้านี้ "ชิงร้อยชิงล้าน" เพิ่งคว้าเบอร์หนึ่งจากการสำรวจของศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เมื่อเดือนสิงหาคม 2552 โดยได้รับความนิยมร้อยละ 20.3 ตามมาด้วยตีสิบ (ช่อง 3) ร้อยละ 8, ละครเป็นต่อ (ช่อง 3) ร้อยละ 6.9, รายการบางจะเกร็ง (ช่อง 5) ร้อยละ 4.3 และรายการสาระแนโชว์ (ช่อง 5) ร้อยละ 3.6 จากการสำรวจวัยรุ่น 1,000 คน   ก็ไม่ได้หมายความว่าความนิยมจะไม่แปรเปลี่ยน อย่าลืมว่าเม็ดเงินโฆษณาผ่านเกมโชว์และวาไรตี้ปีละเกือบหมื่นล้านบาท ถ้าใครเผลอจะเป็นฝ่ายแพ้ทันที และถ้าตั้งคำถามว่าในบรรดาเจ้าพ่อเกมโชว์ใครรวยกว่ากัน? จะได้คำตอบดังนี้ "เสี่ยตา" ก่อตั้งบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2532 ทุนเริ่มแรก 1 ล้านบาท ต้นปี 2547 จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทุน 200 ล้านบาท ที่ตั้งอยู่แถว ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี เสี่ยตา กับ นายประภาส ชลศรานนท์ ถือหุ้นคนละ 37% นายทวีฉัตร จุฬางกูร ถือ 1%   ผลประกอบการปี 2550 รายได้ 1,143.4 ล้านบาท กำไรสุทธิ 232.9 ล้านบาท ปี 2551 รายได้ 1,016.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 150.8 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ระหว่างปี 2547-2549 โกยรายได้ปีละ 1,000 ล้านบาท กำไรสุทธิ 200-300 ล้านบาท   มีบริษัทในเครือ 10 แห่ง ได้แก่ บริษัท เวิร์คพอยท์ พับลิชชิ่ง จำกัด ก่อตั้งวันที่ 12 ธันวาคม 2545 ทุน 4 ล้านบาท บริษัท โต๊ะกลมโทรทัศน์ จำกัด ก่อตั้งวันที่ 19 มีนาคม 2547 ทุน 10 ล้านบาท (นายธีรวัฒน์ อนุวัตรอุดม ถือหุ้น 25%) บริษัท คำพอดี จำกัด ก่อตั้งวันที่ 17 มกราคม 2548 ทุน 8.5 ล้านบาท (นายธงชัย ประสงค์สันติ ถือหุ้น 35%) บริษัท บ้านอิทธิฤทธิ์ จำกัด ก่อตั้งวันที่ 17 มกราคม 2548 ทุน 20 ล้านบาท (นายปรัชญา ปิ่นแก้ว ถือหุ้น 28 %) บริษัท หัวฟิล์ม ท้ายฟิล์ม จำกัด ก่อตั้งวันที่ 7 ตุลาคม 2548 ทุน 5 ล้านบาท บริษัท บั้งไฟ สตูดิโอ จำกัด ก่อตั้งวันที่ 7 ตุลาคม 2548 ทุน 10 ล้านบาท (นายเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา หรือ หม่ำ จ๊กมก ถือหุ้น 40%)   บริษัท กราว จำกัด ก่อตั้งวันที่ 17 ตุลาคม 2549 ทุน 2 ล้านบาท บริษัท บริษัท กำกับการดี จำกัด ก่อตั้งวันที่ 29 กรกฎาคม 2551 ทุน 5 ล้านบาท บริษัท ซิกซ์เนเจอร์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (โฆษณา จัดหานักแสดง) ก่อตั้งวันที่ 27 ตุลาคม 2551 ทุน 5 ล้านบาท (นายทศเทพ วงศ์หนองเตย ถือหุ้น 35%)   บริษัท หญ้านุ่ม จำกัด กิจการอสังหาริมทรัพย์ ก่อตั้งวันที่ 8 มิถุนายน 2552 ทุน 1 ล้านบาท "เสี่ยตา" เคยทำธุรกิจผลิตภาพยนตร์ร่วมกับ นางลาวัลย์ กันชาติกลุ่มเจเอสแอล ชื่อบริษัท เอิร์ธ แอนด์ ดรีม พิคเจอร์ส จำกัด เมื่อปลายปี 2539 เลิกกิจการในปี 2543   จากการตรวจสอบพบว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา "เสี่ยตา" รับงานโฆษณาให้หน่วยงานรัฐอย่างน้อย 5 แห่ง ได้แก่ ประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขายสลากออมสินพิเศษ ทางช่อง 5, ช่อง7 และโมเดิร์นไนน์ ให้ธนาคารออมสิน   ประชาสัมพันธ์การแปลงสภาพ กฟผ. เป็นบริษัทจำกัด (มหาชน) ผ่านสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ (ทางช่อง 3, 5 และ 9) ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) , พิมพ์หนังสือและผลิตรายการโทรทัศน์ให้เทศบาลนครตรัง, ประชาสัมพันธ์รายการ "คุณธรรมนำความรู้" ให้สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, ทำพีอาร์ให้สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระ ราชดำริ   งานชิ้นล่าสุดเดือนกันยายน 2552 คือ จัดรณรงค์ส่งเสริมการขายหลอดตะเกียบติดฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ออกอากาศทางช่อง 5 ช่อง 7 และโมเดิร์นไนน์ ให้ กฟผ. วงเงิน 7.7 ล้านบาท   อย่าได้เแปลกใจ "ซูโม่ตา" อดีตสมาชิกรายการ "เพชฌฆาตความเครียด" เมื่อหลายปีก่อน จะมีบ้านราคา 400 ล้านบาทอยู่แถวๆ ออฟฟิศ "เวิร์คพอยท์" นั่นเอง   ขณะที่นายวิทวัสเป็นเจ้าของธุรกิจเพียงแห่งเดียว ชื่อ บริษัท ทเว็นตี้ ทเว็นตี้ เอ็นเทอร์เทนเมนต์ จำกัด ก่อตั้งวันที่ 30 มิถุนายน 2540 ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท มีออฟฟิศอยู่ในอาคารลุมพินีทาวเวอร์ ชั้น 14 ถนนพระราม 4 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ กระนั้นมีตัวเลขทางบัญชีดีไม่น้อย ปี 2548 รายได้ 133.6 ล้านบาท กำไรสุทธิ 25.1 ล้านบาท ปี 2549 132.4 ล้านบาท กำไรสุทธิ 27.5 ล้านบาท ปี 2550 รายได้ 148.9 ล้านบาท กำไรสุทธิ 27.5 ล้านบาท ปี 2551 รายได้ 160.9 ล้านบาท กำไรสุทธิ 35.3 ล้านบาท สินทรัพย์อยู่ที่ 204.6 ล้านบาท   ก่อนรวยอู้ฟู่ เสี่ยวิทวัสผ่านงานใน บริษัท แปซิฟิก อินเตอร์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ยุค ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล เป็นพิธีกรในรายการ คืนนี้ที่ช่อง 9 ต่อมาเปลี่ยนเป็น "ที่นี่กรุงเทพฯ" และย้ายไปออกอากาศทาง ททบ.5 จากนั้น หันมานั่งเก้าอี้เอ็มดีบริษัท คอนสแตนท์ แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด ในเครือ บมจ.ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล ของ นายสุรินทร์ โตทับเที่ยง หรือ เสี่ยปุ้มปุ้ย ผู้ผลิตรายการสี่ทุ่มสแควร์ ทางช่อง 7 ควบพิธีกร กระทั่งเปิดบริษัทของตนเอง   นาทีนี้ถ้าวัดกันเม็ดต่อเม็ด ต้องถือว่า "ซูโม่ตา" อู้ฟู่กว่าหลายขุม แต่ถ้าเทียบกับจ้าพ่อเกมโชว์อีกคน เสี่ยต๋อย-ไตรภพ ลิมปพัทธ์ เจ้าของบริษัท บอร์น แอนด์ แอสโซซิเอทด์ จำกัด ซึ่งหวนคืนเวทีอีกครั้ง หลังทำ "เกมเศรษฐี" ดังระเบิดเมื่อหลายปีก่อน ทั้งสองคนเหนือกว่า ทั้งนี้ บริษัท บอร์นฯ ก่อตั้งวันที่ 18 มกราคม 2532 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ปี 2551 มีรายได้ 48.1 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 4.3 ล้านบาท ก่อนหน้านี้มีกำไรต่อเนื่องปีละ 16.5-57 ล้านบาท จากรายได้ 133-200 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจโฆษณาอีกแห่ง ชื่อ บริษัท บอร์น ออพเปอเรชั่น จำกัด ก่อตั้งปลายปี 2527 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท 3 ปีย้อนหลังขาดทุนติดต่อกัน ปี 2551 รายได้ 1.5 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 7.7 ล้านบาท ปี 2550 รายได้ 16.4 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 2.5 ล้านบาท ปี 2549 รายได้ 28.6 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 3.8 ล้านบาท   เป็นช่วงขาลงของ "เสี่ยต๋อย" ก็คงไม่ผิดนัก เพราะเมื่อครั้งอยู่ในไอทีวี ปี 2547-2548 บริษัทของ "เสี่ยต๋อย" คว้างานพีอาร์โครงการใบกำกับภาษีมีรางวัลให้กรมสรรพากร 2 ปีติดต่อกันฟันไป 12.4 ล้านบาท เล่นเอาหลายคนตาร้อนไปตามๆ กัน พ้นยุคไทยรักไทยก็ไม่มีหน่วยงานรัฐเป็นลูกค้าอีกเลย นี่คือความมั่งคั่งของคนทำเกมโชว์ "มีขึ้น-มีลง"   สำหรับ "เสี่ยตา" ซึ่งมีคนตระกูลวงศ์หนองเตยร่วมถือหุ้นด้วย นาทีนี้น่าจะระเบิดเถิดเทิงมากกว่าใครเพื่อน? นาทีนี้ เป็น เรื่องของ"คนจะรวย" ช่วยไม่ได้!!
  ( หมายเหตุ จาก ศัลยา ประชาชาติ  มติชนสุดสัปดาห์ วางแผงวันนี้ )
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1269600874&grpid=02&catid=no

--
โปรดอ่านบล็อก
http://www.pridiinstitute.com
http://www.nakkhaothai.com
http://apps.facebook.com/blognetworks/index.php
http://www.roundfinger.com/
http://twitter.com/sweetblog
http://twitter.com/oknewsblog
http://twitter.com/okblogger
http://twitter.com/sat191
http://www.pacc.go.th/
http://twitter.com/okblogchan
http://twitter.com/sun1951
http://twitter.com/smeblogger
http://twitter.com/seminarblog
http://twitter.com/sunnewsblog
http://twitter.com/okworldblog
http://twitter.com/ktblogger
http://twitter.com/sundayblog
http://twitter.com/mondayblog
http://twitter.com/tuesdayblog
http://twitter.com/wednesdayblog
http://twitter.com/thursdayblog
http://twitter.com/fridayblog
http://twitter.com/saturdayblog
http://www.deepsouthwatch.org/node/687
http://www.tu.ac.th/org/ofrector/tu_council/record/nopporn.htm
http://www.visalo.org/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
http://facthai.wordpress.com/ ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew