"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Blognone
Share |

Suthichai Online - ข่าวประจำวัน

วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2553

วันที่ 29 มี.ค.-2 เม.ย.นี้ โดยจะเปิดขายให้กับผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ในช่วงวันที่ 29-30 มี.ค.นี้

วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 33 ฉบับที่ 4191  ประชาชาติธุรกิจ


แบงก์ตบเท้างัดแคมเปญแย่งเงินฝาก ล็อกลูกค้าตัดหน้าบอนด์"ไทยเข้มแข็ง"




แบงก์ เข็นแคมเปญเงินฝากระยะยาว "ล็อกลูกค้า" รายเก่าที่เคยได้ดอกเบี้ยสูง พร้อมออกขายตัดหน้าพันธบัตรไทยเข้มแข็ง 1 แสนล้าน ที่จะออกขายปลาย มี.ค. "กรุงไทย" ชูเงินฝากพิเศษ 48 เดือน ดอกเบี้ย 3.25-3.50% ตั้งเป้ากวาด 3 หมื่นล้าน "กสิกรฯ" ยิงเงินฝาก 4 เดือน ดอกเบี้ย 1% เชื่อกวาดเม็ดเงินใหม่กว่า 5 พันล้าน และปิดช่องเงินฝากครบดีลอีก 6 หมื่น ด้าน "สบน." มั่นใจไม่กระทบยอดขายพันธบัตรไทยเข้มแข็ง ผลตอบแทนดีกว่า และยกเว้นภาษีได้



ในช่วงนี้ปรากฏการณ์ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ หลายแห่ง อาทิ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทย ได้เริ่มออกผลิตภัณฑ์เงินฝากระยะยาว เพื่อล็อกต้นทุนทางการเงินก่อนที่อัตราดอกเบี้ยในประเทศจะปรับขึ้นประมาณ ช่วงกลางปี รวมถึงเพื่อรองรับเงินฝากที่จะมีการครบกำหนดจากผลิตภัณฑ์ที่ออกไปก่อนหน้า นี้ และยังเป็นการชิงเงินฝากก่อนที่รัฐบาลจะออกพันธบัตรไทยเข้มแข็งในรอบที่ 2 วงเงินอีก 1 แสนล้านบาท

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า เป้าหมายของธนาคารในปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อและเงินฝากไว้ในสัด ส่วนที่เท่ากัน คือประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารสามารถขยายสินเชื่อได้ดี โดยมีอัตราการเติบโตเป็นบวก เมื่อเทียบกับธนาคารอื่นที่การเติบโตของสินเชื่อล้วนหดตัว อย่างไรก็ตาม ในแง่สภาพคล่องถือว่าธนาคารยังมีสภาพคล่องที่เหลืออีกมาก

ส่วนนายจัก รกฤษณ์ ประสาทไทย ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ผู้บริหารฝ่าย ฝ่ายผลิตภัณฑ์การเงินและการลงทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากใหม่ อายุ 48 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.25% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน โดยสามารถฝากขั้นต่ำที่ 5 หมื่นบาท และออกตั๋วบี/อี อายุ 48 เดือน ดอกเบี้ย 3.50% ต่อปี จำหน่ายขั้นต่ำ 1 แสนบาท คาดว่าจากแคมเปญนี้จะได้เงินฝากเข้ามาไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท

แคมเปญนี้เพื่อ 1.รองรับเงินฝากพิเศษจากงาน KTB Fair ที่จะครบในเดือน มี.ค.นี้กว่า 4 หมื่นล้านบาท 2.อัตราดอกเบี้ยในประเทศต่ำจึงเป็นโอกาสที่จะออกเงินฝากระยะยาว เพื่อเพิ่มฐานเงินฝากระยะยาวให้มากขึ้น และเป็นการล็อกต้นทุนทางการเงินก่อนที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้น

ด้าน นายอนุรักษ์ ตันติพิพัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์เงินฝากและการลงทุนลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ในช่วงนี้กสิกรไทยออกผลิตภัณฑ์เงินฝากใหม่เช่นกัน ฝากประจำ 4 เดือน ดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี ฝากขั้นต่ำ 1 หมื่นบาท โดยมีเป้าแคมเปญนี้ 6.5 หมื่นล้านบาท เป็นเงินฝากที่รับเข้ามาใหม่ 5 พันล้านบาท และเงินฝากของลูกค้าเดิมที่ครบกำหนดอีก 6 หมื่นล้านบาท

"แคม เปญดังกล่าวส่วนใหญ่ออกมารองรับเงินฝากที่ครบดีล เพราะเราไม่ต้องการเสียฐานเงินฝากส่วนนี้ให้กับแบงก์อื่น ฉะนั้นจึงต้องมีผลิตภัณฑ์เงินฝากใหม่ที่มีดอกเบี้ยจูงใจออกมารองรับ นอกจากนี้ แนวโน้มดอกเบี้ยจะปรับขึ้น แม้สถานการณ์ตอนนี้จะยังไม่ใช่ต้องดึงเงินฝาก แต่หากระดมเงินฝากทีหลัง ต้องรับต้นทุนที่สูงขึ้นด้วย"

ในด้านความเคลื่อนไหวการออกพันธบัตร ไทยเข้มแข็งของรัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในการแย่งเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า ขณะนี้ สบน.พร้อมที่จะนำพันธบัตรไทยเข้มแข็งรอบที่ 2 วงเงิน 1 แสนล้านบาท ออกมาจำหน่ายในช่วงวันที่ 29 มี.ค.-2 เม.ย.นี้ โดยจะเปิดขายให้กับผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ในช่วงวันที่ 29-30 มี.ค.นี้

ส่วนประชาชนทั่วไปจะเปิดขายตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.-2 เม.ย.นี้ วงเงินซื้อขั้นต่ำ10,000 บาท แต่ไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย โดยผู้ที่สนใจสามารถซื้อได้ที่สาขาของธนาคารกรุงไทย, กรุงเทพ, กสิกรไทย, ไทยพาณิชย์, กรุงศรีอยุธยา, ทหารไทย, นครหลวงไทย, ยูโอบี, ซีไอเอ็มบี,ไทยธนาคาร, ธนชาต, ซิตี้แบงก์ และธนาคารออมสิน

"พันธบัตรออมทรัพย์ชุดนี้มีอายุ 6 ปี จ่ายดอกเบี้ยในรูปแบบขั้นบันได ซึ่งมีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 4% ต่อปี ได้รับการยกเว้นภาษี ซึ่ง สบน.จะมีการแจ้งรายละเอียดของดอกเบี้ยให้ทราบล่วงหน้าก่อนที่จะถึงวันที่ เปิดขายจริง ส่วนกรณีที่ธนาคารกรุงไทยจะเปิดรับเงินฝากเงินระยะยาว ในเร็ว ๆ นี้ เชื่อว่าไม่มีผลกระทบใด ๆ เพราะเป็นคนละตลาดกัน กลุ่มเป้าหมายที่เราเน้นเป็นผู้สูงอายุเป็นหลัก อีกทั้งพันธบัตรไทยเข้มแข็งเป็นพันธบัตรรัฐบาลที่มีความมั่นคงสูง จ่ายผลตอบแทนที่สูงกว่า และยังได้รับการยกเว้นภาษีด้วย" นายจักรกฤศฏิ์กล่าว

นาย ธนัท รังษีธนานนท์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า หากพูดถึงเรื่องสภาพคล่องในระบบการเงินของไทยในปัจจุบันถือว่ายังมีส่วนเกิน มากเพียงพอ โดยที่ธนาคารพาณิชย์ไม่จำเป็นต้องลงไปแข่งขันระดมเงินฝาก แต่สำหรับกรณีของธนาคารกรุงไทยคาดว่าเป็นกรณีเฉพาะที่อาจเป็นการเตรียมสภาพ คล่องเข้าไปประมูลงานภาครัฐ เพราะตามโครงการไทยเข้มแข็งที่ส่วนหนึ่งรัฐบาลจะกู้จากสถาบันการเงินนั้น ส่วนใหญ่ก็น่าจะตกเป็นของธนาคารกรุงไทย

รายงานข่าวจากศูนย์วิจัย กสิกรไทย แจ้งถึงสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ว่า เฉพาะในส่วนเงินฝาก ณ สิ้นเดือน ม.ค. 2553 อยู่ที่ 6.45 ล้านล้านบาท ลดลง 5.83 หมื่นล้านบาท จาก 6.50 ล้านล้านบาท ณ สิ้นปี 2552 โดยคาดว่ามาจากการทยอยครบกำหนดของผลิตภัณฑ์เงินฝากพิเศษที่ธนาคารพาณิชย์ได้ มีการนำเสนอออกมาในช่วงก่อนหน้านี้ รวมถึงผลจากการแข่งขันกับช่องทางการออมอื่น ๆ ขณะที่สินทรัพย์สภาพคล่อง (รวมเงินสด เงินลงทุนสุทธิในตลาดเงินระยะสั้น และเงินลงทุนสุทธิในหลักทรัพย์) อยู่ที่ 2.116 ล้านล้านบาท ลดลง 5.88 พันล้านบาท จาก 2.122 ล้านล้านบาท ณ สิ้นปี 2552


หน้า 1
http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02p0102110353&sectionid=0201&day=2010-03-11

--
Web link
http://www.edtguide.com/SuanplooThaiMassage_486629
http://www.victam.com
http://weblogcamp2009.blogspot.com
http://www.niwatkongpien.com
http://sundara21.blogspot.com
http://www.educationatclick.com
http://www.pwdom.com/v1/
http://cloudbookclub.blogspot.com
http://blogok09.blogspot.com
http://thairaptorgroup.com/TRG/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2049
http://www.ias.chula.ac.th/Thai/modules.php?name=NuCalendar

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
http://facthai.wordpress.com/ ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew