"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Blognone
Share |

Suthichai Online - ข่าวประจำวัน

วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2552

ประเมิน "อนุพงษ์" 2 ปีดับไฟใต้ "งบประมาณ" คิดเฉพาะงบประมาณปี 2552 ในประเด็นที่ว่า จำนวนเงิน 75,000 ล้านบาทของ กอ.รมน. / ตีโฉบฉวย

 ประเมิน “อนุพงษ์” 2 ปีดับไฟใต้ / ตีโฉบฉวย

เสือตัวที่ 625/9/2552

ประเมิน อนุพงษ์ 2 ปีดับไฟใต้

 

                ในบรรดา ขุนพล ที่จับงานดับไฟใต้อย่างหนักหน่วงและยาวนานที่สุดรอบ 2 ปีที่ผ่านมา คงไม่มีใครเกิน บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์  เผ่า จินดา ผู้บัญชาการทหารบก (1 ต.ค.50-30 ก.ย.52) และรอง ผอ.รมน. (หลัง พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ มีผลบังคับใช้ เมื่อ 28 ก.พ.51) เขาเป็นบุคคลหลักของกองทัพในการเสนอแนะนโยบายดับไฟใต้มายาวนานถึง 4 รัฐบาล (สุรยุทธ์-สมัคร-สมชาย และอภิสิทธิ์)

                ดังนั้นถ้าจะมีการประเมินผลการดับไฟใต้ในรอบ 2 ปี  บุคคลที่น่าจะประเมินที่สุด คงหนีไม่พ้น บิ๊กป๊อก ผู้กุมทั้งอำนาจการเมืองและการทหารในยุคปัจจุบัน

                มองย้อนกลับไปวันที่กองทัพบกถ่ายอำนาจจาก พลร่มป่าหวาย เป็น บูรพาพยัคฆ์ วันนั้น บิ๊กบัง พล.อ.สนธิ  บุญยรัตกลิน ได้สั่งลาการแก้ปัญหาไฟใต้ว่า ฝ่ายเราต้องเตรียมการในเรื่องนี้ (ยุทธวิธี) ให้มากขึ้น

                ก็ไม่ทราบว่า บิ๊กป๊อก จะเก็ทไอเดียตรงนี้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ เขาได้ฉีกตำราหลักการทำสงครามก่อความไม่สงบ ด้วยการตัดสินใจเอากำลังรบตามแบบของ 4 กองทัพภาค นั่นคือการทุ่มกำลังหลักทั้งกองทัพบก เข้าไปวางเดิมพันเกมดับไฟใต้ อย่างไม่ลังเล โดยตั้งโจทย์ว่า กำลังมากขึ้นเท่าไหร่ การแก้ปัญหาก็จะยิ่งง่ายขึ้นเท่านั้น

                สองปีผ่าน คำตอบไม่เป็นไปตามโจทย์ที่ตั้งไว้ เพราะนับตั้งแต่วันแรกที่ได้เน้นย้ำกำลังทหารให้ ยุติเหตุร้ายรายวัน ถึงปัจจุบันสถานการณ์การก่อเหตุร้ายวัน ยังคงมีและเป็นเช่นเดียวกันกับก่อนเวลาการทุ่มกำลัง 4 กองทัพภาคลงพื้นที่ อาจจะมีข้อโต้แย้งว่าสถิติการก่อการร้ายลดลง นั่นเป็นการลดเพียงเชิงปริมาณ แต่ในเชิงคุณภาพนั้นน่ากลัวและเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การวางระเบิดคาร์บอมบ์เขตเทศบาลทั้ง 3 จังหวัดในเวลาใกล้เคียงกัน คงไม่ต้องอธิบายอะไรอีกแล้ว

                ฉะนั้นการนำกำลังทหาร 3-4 หมื่นคนลงไป เพื่อหวังจะอุดรูรั่วของสถานการณ์และพื้นที่แห่งความหวาดกลัว ถึงวันนี้คงอุดไม่อยู่แล้ว

                การประเมินจาก คำให้สัมภาษณ์ ตลอดระยะเวลา 2 ปี ตามวาระต่างๆ ก็เป็นตัวพิสูจน์ได้ว่า บิ๊กป๊อก มีความรู้ ความเข้าใจสงครามก่อความไม่สงบ สงครามกองโจร และสงครามประชาชนฉบับไฟใต้หรือไม่?

ถ้าเทียบชั้นหลักคิดกับ บิ๊กบัง แล้วถือว่าห่างชั้น เพราะ บิ๊กบัง รู้จักที่จะประยุกต์แนวคิดของเหมาเจ๋อตุง มาปรับใช้ในการอธิบายสงครามใต้ ไม่ว่าจะเป็น กวนน้ำให้ขุ่น” “การแยกปลาออกจากน้ำ” “การชนะโดยไม่ต้องรบ และ ลับ ลวง พราง ที่โด่งดังไปทุกวงการมาแล้ว

สำหรับ บิ๊กป๊อก ยังไม่เคยได้ยินแนวคิดดับไฟใต้ที่เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีของนักปฏิวัติสงครามประชาชน อย่างเช่น เหมาเจ๋อตุง โฮจิมินต์ โงเวียนเกี๊ยป เชกูวาร่า หรือแนวคิดของนักต่อต้านการก่อความไม่สงบ อย่างเช่น เซอร์ โรเบิร์ต ทอมป์สัน เดวิด กาลูล่า

การขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์การเมืองนำการทหาร ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ บิ๊กป๊อก พยายามที่จะสื่อลงไปให้ถึงทหารคนสุดท้ายในพื้นที่ 3 จชต. อย่างเช่น กอ.รมน.ภาค 4 สน.มีการจัดทำ มีโครงการตำบลสานสัมพันธ์ การจัดตั้ง ชุดพัฒนาสันติ ลงพื้นที่หมู่บ้านสีแดง และให้คลุกอยู่กับชาวบ้าน

 ฝ่ายแม่ทัพใหญ่ พล.ท.พิเชษฐ์  วิสัยจร มือหนึ่งการพัฒนาเพื่อความมั่นคงของกองทัพบก ก็พยายามจะรุกทางการเมืองด้วยการจัดทำ ศูนย์การเรียนรู้ฯ นำประชาชนมาอบรมสร้างอาชีพ ถามว่าสิ่งที่ทำเป็นงานการเมืองหรือไม่ คำตอบคือ ใช่ แต่มันเป็นภาพ “Micro” มากกว่า ภาพ “Macro”

ภาพการรุกทางการเมืองจะต้องเป็นภาพใหญ่ของ การเจรจาสันติภาพ (Peace Talk)” เพราะโดยหลักการทางยุทธศาสตร์แล้ว กำลังทหารพึงมีไว้เพื่อควบคุมสถานการณ์ (มิใช่ยุติสถานการณ์) และค่อยๆบีบบังคับให้กลุ่มก่อความไม่สงบ อ่อนกำลังลงและละทิ้งแนวคิดอุดมการณ์ เปิดช่องทางให้เขาเดินเข้าสู่ โต๊ะเจรจา ด้วยความสมัครใจ ภายใต้ ยุทธศาสตร์ Win-Win”

ในระหว่าง 2 ปีของ บิ๊กป๊อก มีปรากฏการณ์ที่น่าจะเปิดเกมรุกทางการเมืองได้ถึง 3 ครั้ง โดยครั้งแรก กรณี พล.อ.เชษฐา  ฐานะจาโร แถลงการณ์ร่วมกับกลุ่มใต้ดินภาคใต้ ครั้งที่สอง พล.ท.ขวัญชาติ  กล้าหาญ กับกลุ่มสภาที่ปรึกษาปัตตานีมาเลย์ จากประเทศอินโดนีเซีย และครั้งสุดท้าย พล.อ.ชวลิต  ยงใจยุทธ กับจดหมายเปิดผนึกของกลุ่ม BRN

แต่ทั้ง 3 เหตุการณ์ บิ๊กป๊อก ไม่ได้ใช้ประโยชน์เพื่อการคืบรุกทางการเมืองเลย ได้แต่ยืนยันกระต่ายขาเดียวว่า กลุ่มพวกนี้เป็น ฆาตกร ไม่มีการเจรจาและต้องจัดการตามกฎหมาย ก็น่าคิดว่า กลุ่ม IRA กลุ่มอาเจาะห์เสรี หรือแม้กระทั่งสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย พวกเขาเป็น ฆาตกร มาก่อนหรือไม่?

อีกส่วนหนึ่งที่น่าจะประเมินก็คือ การทำหน้าที่ในฐานะ รอง ผอ.รมน. ภายหลัง พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ มีผลบังคับใช้ งานที่เป็นเนื้อเป็นหนังก็คือ การปรับโครงสร้างกอ.รมน.ใหม่ โดยส่วนประสานงาน มีการจัดตั้ง ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 หรือ ศปป.5 ให้รับงานดับไฟใต้ทั้งหมด แต่มีการจัดตั้งศูนย์ฯแยกออกมาจากกอ.รมน.ใหญ่ที่สวนรื่น เอาไปไว้ที่บก.ทบ.

และเมื่อ กอ.รมน.มีฐานะเป็น ส่วนราชการ สามารถจัดทำงบประมาณเองได้ งบแก้ปัญหาภาคใต้ ก็พุ่งตรงไปที่ ศปป.5 แล้วถึงส่งผ่านลงไปที่กอ.รมน.ภาค 4 สน.

ถ้าจะให้ประเมินเรื่อง งบประมาณ คิดเฉพาะงบประมาณปี 2552 ในประเด็นที่ว่า จำนวนเงิน 75,000 ล้านบาทของ กอ.รมน. ในส่วนของ ศปป.5 ใช้ไปเท่าไร? กอ.รมน.ภาค 4 สน.นำไปบริหารเท่าไร? กองทัพบกรับไปจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์พิเศษเท่าไร? แล้วนำผลลัพธ์(Outcome)มากำหนดเป็นตัวชี้วัดตามสถานการณ์(Situational Indicator) มิใช่ใช้ตัวชี้วัดตามฟังก์ชั่น (Functional Indicator) ตาม สายงานฝ่ายอำนวยการอย่างที่กอ.รมน.กำลังทำอยู่ ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับตัวชี้วัดของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนา ระบบราชการ (ก.พ.ร.)

การประเมิน บิ๊กป๊อก ในรอบ 2 ปี ประเด็นแนวคิดการจัดกำลังทหารแก้ปัญหาไฟใต้ การเข้าใจปัญหาสงครามการก่อความไม่สงบภาคใต้  การใช้ยุทธศาสตร์การเมืองนำการทหารในชั้นเชิงการเจรจา การบริหารงบประมาณของกอ.รมน. สิ่งเหล่านี้ บิ๊กป๊อก คงจะได้หาวิธีการที่จะให้ความกระจ่างแก่ภาคการเมืองและภาคประชาสังคม   ในวาระอันใกล้ครบรอบสองปีนี้

..................

http://www.siamrath.co.th/uifont/Articledetail.aspx?nid=4253&acid=4253

--
http://www.kmutnb.ac.th/index.htm
http://www.ecitthai.net
http://www.tourismthailand.org/seminar/
http://www.thaihotels.org/
http://www.tuasso.com/scripts/tua.asp

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
http://facthai.wordpress.com/ ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew